กระทรวงพาณิชย์ ผนึก 17 พาณิชย์จังหวัดภาคเหนือ จัดมหกรรม “กาดกลางกรุง” เร่งฟื้นเศรษฐกิจเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการกลุ่ม 17 จังหวัดภาคเหนือหลังประเทศคลายล็อค ชูไอเดียพัฒนาสินค้าและบริการ4กลุ่ม “นวัตกรรม – แฟชั่น – เกษตรอินทรีย์เกษตรปลอดภัย – สินค้าสำหรับผู้สูงวัย”
นายสุชาติ สินรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมสินค้าและบริการเด่นภาคเหนือ “กาดกลางกรุง” ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์ 17 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-16 สิงหาคม 2563 ณ อาคารอิมแพค เมืองทองธานี ฮอลล์ 6 เพื่อเร่งช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบการภาคเหนือหลังวิกฤติโควิด-19 โดยมีนายประเสริฐ ฝ่ายชาวนา พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่กล่าวรายงาน
นายสุชาติ กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลมีมาตรการคลายล็อคจากสถานการณ์โควิด-19 ในกิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์ 17 จังหวัดภาคเหนือ จึงเร่งเดินหน้าจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงระดับประเทศ โดยจัดงาน “กาดกลางกรุง” มหกรรมสินค้าและบริการเด่นภาคเหนือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อเปิดโอกาสขยายช่องทางการตลาดสำหรับสินค้าและบริการที่มีศักยภาพสูงในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ อาทิ สินค้ากลุ่มอาหาร สินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าสมุนไพร กลุ่มสินค้านวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ สินค้าการเกษตรอินทรีย์ และเกษตรปลอดภัย รวมถึงการร่วมเตรียมความพร้อมสำหรับสินค้าเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าภายใน 10 ปีนี้ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์
การจัดงาน “กาดกลางกรุง” มหกรรมสินค้าและบริการเด่นจาก 17 จังหวัดภาคเหนือ เป็นกิจกรรมช่วยเหลือและเร่งฟื้นฟูผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แบบเร่งด่วน พร้อมด้วยกฎระเบียบ มาตรการรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ตามนโยบาย Social Distancing
โดยการเชิญชวนผู้ประกอบการใน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้าเกษตรปลอดภัย 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ 3.กลุ่มอาหารและอาหารพื้นเมือง และ 4.กลุ่มสินค้าและบริการของผู้สูงอายุ รวม 150 ราย ร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าภายในงาน ซึ่งล้วนเป็นสินค้าเด่นของแต่ละจังหวัด อาทิ เครื่องเขิน ผ้าซิ่นมุกสลับลาย เครื่องเงินวัวลาย ชามตราไก่ลำปาง เชียงใหม่ศิลาดล ชาหมักออแกนิก ข้าวก่ำล้านนา ส้มสีทองเมืองน่าน สับปะรดภูแล ผ้าไหมยกดอกลำพูน เป็นต้น
เพื่อรับมือกับการที่จะประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐได้เร่งวางแนวทางในการส่งเสริมผู้ประกอบการให้ออกแบบ พัฒนา แปรรูปผลิตภัณฑ์ และการบริการให้เหมาะสมกับตลาดผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มีศักยภาพในการบริโภค นับเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการ และผู้บริโภค
ทั้งนี้ ภายในงานยังได้มีการจัดทำนิทรรศการนำเสนอให้เห็นถึงกระบวนการผลิตซึ่งมีเสน่ห์เฉพาะตัวในเรื่องฝีมือช่าง วัตถุดิบ รวมไปถึงการนำเสนอสินค้านวัตกรรมโดดเด่นของ 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่สามารถพัฒนายกระดับสร้างแบรนด์สินค้าจนเป็นที่รู้จักและยอมรับในตลาดสากล และเชื่อมโยงไปกับการท่องเที่ยวชุมชน และธุรกิจด้านบริการสุขภาพ นอกจากนี้ ยังจัดให้มีคลินิกให้คำปรึกษาด้านธุรกิจกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงาน โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและประสบการณ์ตรงจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการจัดพื้นที่ Business Matching หรือกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการและผู้เยี่ยมชม เพื่อสร้างโอกาสต่อยอดธุรกิจ และการเติบโตในอนาคต
การจัดงานในครั้งนี้ยังมีการนำ “ลำไยสด” ผลไม้ตามฤดูกาลของเกษตรกรชาวสวนจ.เชียงใหม่และลำพูน มาจัดจำหน่ายภายในงานเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ที่ประสบปัญหาผลไม้ล้นตลาดด้วย และนอกเหนือจากการช่วยเหลือผู้ประกอบการแล้ว การจัดงานมหกรรมครั้งนี้ ยังถือเป็นการช่วยเหลือภาคประชาชนไปพร้อมๆ กัน ด้วยกิจกรรมคืนกำไรภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดด้วยการแจกคูปองเงินสดสำหรับใช้จับจ่ายสินค้าภายในงาน มูลค่า 500-2,000 บาท และกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านภาคเหนือทุกวันตลอดการจัดงาน