ขึ้นชื่อว่า “ตลาดชุมชน” แค่ได้ยินก็รู้สึกอยากเดินทางไปสัมผัสวิถีชีวิตแบบธรรมชาติ ในบรรยากาศชนบท ความร่มรื่นของความเป็นธรรมชาติของแต่ละท้องที่ อย่างที่คนกรุงอย่างเราๆ แทบจะไม่มีโอกาสได้สัมผัส ปัจจุบัน “ตลาดชุมชน” แทบจะทุกท้องที่ได้พัฒนาจากการร่วมแรงร่วมใจของผู้คนในท้องที่ได้ปรับปรุงเปลี่ยนโฉมให้เป็นตลาดที่น่าเดิน โดยเฉพาะสินค้าชุมชนของแต่ละท้องถิ่นที่มีความน่าสนใจอย่างมาก
และใครจะเชื่อว่า ในรอบๆ ตัวเมืองกรุงเทพฯ ก็ยังมีตลาดชุมชนที่ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เหมาะอย่างยิ่งที่จะพาสมาชิกในครอบครัวโดยเฉพาะเด็กๆ ได้เข้าไปสัมผัส และปลูกฝังวัฒนธรรมอันดีงามที่แฝงไว้กับขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละท้องถิ่น
ชี้ช่องรวย ขอแนะนำ 9 ตลาดชุมชน ที่น่าสนใจ ให้คุณๆ ลองแวะเวียนไปสัมผัส ดังนี้
1.ตลาดน้ำบางน้ําผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
เปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-15.00 น.
ตลาดบางน้ำผึ้ง ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความร่มรื่นเพราะตั้งอยู่ในพื้นที่บางกระเจ้า พื้นที่สีเขียวรูปทรงคล้ายกระเพาะหมูที่ ใหญ่ที่สุดในเมืองกรุง รายล้อมด้วยสวนผลไม้และสวนมะพร้าว ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดบกที่ทอดตัวเลียบคลอง ตัวชุมชนเองก็เป็นชุมชนเก่าแก่ในพระประแดงที่มีทั้งชาวไทย มอญ และจีน เสน่ห์ ของที่นี่จึงเป็นอาหารที่มีให้เลือกหลากหลายทั้งคาวหวาน ก๋วยเตี๋ยวเรือ แกงไทยที่หาทานยาก เช่น แกงบอน แกงมะรุม รวมทั้งขนมไทยพื้นเมืองที่ไม่ค่อยได้เห็น เช่น ขนมดอกโสน ขนมขี้หนู ผัก สด ผลไม้ และของฝากฝีมือชาวบ้าน
2.ตลาดน้ำคลองลัดมะยม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
เปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-15.00 น
คลองลัดมะยม เป็นตลาดริมคลองที่ผสมผสานกับตลาดบก เป็นชุมชนที่ยังคงวิถีตลาดน้ำไว้ จึงยังมีเรือขายของ ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรืออาหารทะเล อาหารคาวหวานพื้นบ้าน โดยเฉพาะ ขนมไทย และผักผลไม้ปลอดสารพิษจากสวนของชาวบ้านและพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ ยังมีโซนสวนเจียมตน เป็นสวนผักผลไม้แบบพอเพียงที่เปิด ให้เข้าไปเยี่ยมชม ทั้งมะพร้าว ฝรั่ง ชมพู่ มะนาว มีบริการพาเที่ยวไปยังตลาดน้ําใกล้เคียง บรรยากาศโดยรอบเป็นชุมชนเล็กๆ ที่เงียบสงบเหมือนต่างจังหวัด
3.ตลาดน้ำดอนหวาย อ.สามพราน จ.นครปฐม
เปิดทุกวัน เวลา 07.00 – 18.00 น.
ตลาดชุมชนรวมของอร่อยติดริมแม่น้ำท่าจีน ที่ยังคงโครงสร้างเรือนไม้เก่าของตัวตลาดเอาไว้ตั้งแต่สมัย ร.6 จุดเด่นคือ ร้านค้าที่มีพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งร้านอยู่สองฟากตลอดทางเดิน มีอาหารคาวพื้นบ้าน เช่น ปลาตะเพียนสามรส น้ำพริก ห่อหมก เป็ดพะโล้นายหนับร้านดัง ส่วนขนมไทยก็มีมากมายแต่ที่หากินยาก เช่น ขนมฝักบัวโบราณ ขนมเปี๊ยะเฮงกี่ มีผักผลไม้ที่ส่งตรงจากสวนของชาวบ้าน และถ้าเดินไปถึงริมน้ำ จะได้สัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำจริงๆ ของชาวบ้านที่หาดูได้ยากแล้วในยุคนี้
4.ตลาดสุขใจ อ.สามพราน จ.นครปฐม
เปิด : วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น.
จุดเด่นของที่นี่ คือ สินค้าเกษตรอินทรีย์ทั้งข้าว ผัก ผลไม้ สินค้าแปรรูปออร์แกนิก และอาหารจากกลุ่มเกษตรกรในนครปฐม รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ที่มารวมตัวกันเป็นเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนภายใต้การขับเคลื่อนของสามพรานโมเดล โดยจะมีเกษตรกรนำสินค้าเกษตรมาขายถึงมือนักท่องเที่ยวโดยตรง ภายใต้การรับรองแบบ PGS ว่าปลอดภัยจริงๆ ถ้าใครอยากไปตลาดนี้ อย่าลืมพกถุงผ้าไป หรือจะยืมตะกร้าของที่ตลาดชั่วคราวก็ได้ เพราะที่นี่เขาเน้นเรื่องการ รักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย
5.กรีนเนอรี่มาร์เก็ต สยามสแควร์ กรุงเทพฯ
เปิด : วันเสาร์ – อาทิตย์ หรือ ติดตามทางเพจ Greenery.org
ตลาดแห่งนี้โดดเด่นเรื่องการยกอาหารปลอดภัยจากเกษตรกร มาเสิร์ฟให้ถึงใจกลางเมืองและแหล่งวัยรุ่น โดยล่าสุดเลือกที่จะปักหลักอยู่ ณ สวนใจกลางสยามสแควร์อย่าง Park@Siam ส่วน วัตถุดิบและสินค้าที่มาขายก็เป็นสินค้าปลอดภัยที่เกษตรกรนํามาเอง ทั้งผักผลไม้ และอาหารอร่อยปรุงสําเร็จที่เชื่อใจได้ว่าปลอดภัยด้วย มีกิจกรรมเกี่ยวกับการทําอาหารกินเองแบบปลอดภัย ให้คนทั่วไปได้เข้าร่วมเวิร์กช็อป มีดนตรีให้ฟังเพลินๆ และครบถ้วนด้วยการสนับสนุนเรื่องการแยกขยะ รวมถึงลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่ย่อยสลายหรือใช้ครั้งเดียวทิ้ง
6.ตลาดปันอยู่ปันกิน ลาดพร้าว 71 กรุงเทพฯ
เปิด : วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น.
ตลาดรวมอาหารพืชผักอินทรีย์ที่เริ่มต้นจากคนปลูกผักอินทรีย์กินเองที่อยากแบ่งปันกัน จากการคุยกันในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อฮาร์ดคอร์ออร์แกนิก ขยายมาสู่การนัดกันมาแบ่งปัน ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ผลผลิตกันจนขยายกลายเป็นตลาดอินทรีย์ทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน พื้นที่จัดแบบลักษณะเป็นสวนในเมืองที่ร่มรื่น และผู้คนในวิถีอินทรีย์ที่พร้อมจะมาเรียนรู้ไปด้วยกันวัตถุดิบอินทรีย์ สินค้า และอาหารสําเร็จที่นํามาขายล้วนปลอดสารพิษ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปและเก็บผักในฟาร์มให้คนที่มาเข้าร่วมได้แบ่งปันความสุขและรอยยิ้มกันด้วย
7.ตลาดหัวตะเข้ เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
เปิด : วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น.
เป็นตลาดไม้โบราณริมสองฝั่งคลองที่ถูกฟื้นฟูให้กลับมามีชีวิตได้ด้วยชาวชุมชน และความร่วมมือของนักเรียนนักศึกษาในละแวกนั้น โดยได้ช่วยกันหาจุดเด่นและพัฒนากิจกรรมท่องเที่ยวโดยชูงาน ศิลปะมาเป็นสื่อกลาง จนทุกวันนี้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่ารักที่มีทั้งบ้านสามครู การจัดแสดงงานศิลปะ เวิร์กช็อปศิลปะ เช่น ทําผ้ามัดย้อม ลงรักปิดทอง เขียนลายรดน้ํา มีศูนย์การเรียนรู้ที่ เล่าเรื่องวิถีของคนชุมชน มีร้านกาแฟและโฮมสเตย์แนวอนุรักษ์ที่ถูกใจนักท่องเที่ยวที่หลงรักในวิถีชุมชนเรียบง่ายอย่างแน่นอน
8.ตลาดเก่าก๊กพระยา อ.บางเลน จ.นครปฐม
เปิด : วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 08.00 – 16.00 น.
เป็นตลาดจีนโบราณที่คงบรรยากาศความเป็นร้านค้าดั้งเดิมตั้งแต่สมัยชาวจีนมาตั้งรกราก ไม่ว่าจะเป็นร้านทําทอง ร้านตัดเสื้อ รวมไปถึงยังอนุรักษ์บ้านไม้ โบราณไว้ให้เป็นที่ท่องเที่ยว ทั้งบ้านภัณฑารักษ์ที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ข้าวของเครื่องใช้โบราณที่คนยุคใหม่ไม่ค่อยได้เห็น บ้านไม้โบราณกุลนที่ บ้านไม้สักไทยทรงปั้นหยาที่ปรับเป็นโฮมสเตย์ให้ เข้าพัก รวมไปถึงศาลเจ้าแม่ทับทิมเก่าแก่ที่อยู่คู่ชาวเรือในชุมชนจีนนี้มายาวนาน จึงยังมีประเพณีจีนที่จัดขึ้นที่ตลาดนี้ตลอดปีอีกด้วย
9.ตลาดบ้านใหม่ร้อยปี อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
เปิด : วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00 – 17.00 น.
ชุมชนริมน้ำบางปะกงซึ่งเป็นที่อยู่ของชุมชนคนไทย-จีนอาศัยอยู่ด้วยกันมานาน มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัย ร.5 จุดเด่นของที่นี่ คือ บ้านเรือนที่ยังคงความเป็นห้องแถว และอาหารการกินที่มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะร้านก๋วยเตี๋ยวที่ยังใช้ถ่าน ร้านกาแฟโบราณสูตรดั้งเดิม ที่ใครไปก็ต้องขอชมและชิมฝีมือการชงของอาแปะ มีศาลเจ้าเล็กๆ ให้เราได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านแถวนี้ สองข้างทางมีทั้งขนมน่าสนใจ และของเล่นโบราณให้เราได้อุดหนุนชุมชนอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Healthy Living