โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

‘กรมเจรจาฯ’ หนุนกล้วยไม้ไทย ใช้โอกาสจาก FTA ขยายตลาดต่างประเทศ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดนครปฐม สำรวจสถานการณ์การค้ากล้วยไม้ไทยช่วงวิกฤตโควิด พบได้รับผลกระทบ เร่งหาแนวทางช่วยขยายตลาดส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ แนะใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี FTA ผู้ประกอบการลั่น! พร้อมร่วมมือพาณิชย์ฟื้นการส่งออก

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้นำคณะลงพื้นที่เยี่ยมสวนกล้วยไม้ แอร์ออร์คิดส์ จ.นครปฐม เพื่อติดตามสถานการณ์การค้ากล้วยไม้ พร้อมหารือกับผู้บริหารสวนกล้วยไม้ฯ โดยช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ค่าขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการส่งออกกล้วยไม้ของไทย จากเดิมที่บริษัทมุ่งจำหน่ายตลาดส่งออกเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70%แต่ปัจจุบันลดเหลือเพียง 20-30% ของยอดการผลิต ทำให้ต้องหันมาทำตลาดในประเทศเป็นหลัก บริษัทจึงเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะการทำตลาดออนไลน์ และการให้บริการจัดส่งดอกไม้ถึงมือลูกค้า เพื่อสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับบริษัทไปรษณีย์ไทยทำให้ต้นทุนการขนส่งถูกลงและมีความแน่นอนมากขึ้น

นางอรมน กล่าวว่า บริษัทสนใจที่จะฟื้นการส่งออก และพร้อมจะทำงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการขยายตลาดใหม่เพิ่ม โดยในส่วนของกรมฯ ได้มีโครงการ “เตรียมความพร้อมภาคเกษตรสินค้าไม้ดอกไม้ประดับไทย ใช้ประโยชน์จาก FTA” ซึ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยขยายตลาดส่งออก โดยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยได้จัดทำรวม 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ส่งผลให้ประเทศคู่ FTA ของไทย 17 ประเทศ อาทิ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้ากล้วยไม้ที่ส่งออกจากไทยแล้ว ยกเว้นอินเดียที่คงภาษีนำเข้าสินค้าดอกกล้วยไม้ที่ 60%

“จากการสำรวจศักยภาพพบว่า ดอกกล้วยไม้ไทยยังเป็นสินค้าที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศ โดยเฉพาะดอกกล้วยไม้สกุลหวายเจริญเติบโตได้ดี ให้ผลผลิตสูง อีกทั้งยังเป็นที่ต้องการในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอาเซียน จีน และญี่ปุ่น ที่ไทยมีความตกลง FTA แล้ว ทำให้สินค้ามีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งในประเทศที่ไม่มีความตกลง FTA ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะช่วยสนับสนุนการขยายตลาดและจับคู่ธุรกิจได้” นางอรมน เสริม

ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 (ม.ค. – ก.ค.) ไทยส่งออกกล้วยไม้ มูลค่า 30.3 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่งออกดอกกล้วยไม้ มูลค่า 24.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และต้นกล้วยไม้ มูลค่า 5.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ไทยส่งออกไปตลาดคู่เอฟทีเอ มูลค่า 18.6 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 61% ของการส่งออกกล้วยไม้ทั้งหมด ตลาดคู่เอฟทีเอที่การส่งออกขยายตัว อาทิ เมียนมา และสปป.ลาว สำหรับในปี 2562 ไทยส่งออกกล้วยไม้ มีมูลค่า 85.5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแบ่งสัดส่วนเป็นดอกกล้วยไม้ 81.6% และต้นกล้วยไม้ 18.4% โดยมีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ส่วนแบ่งตลาด 21% ญี่ปุ่น 20.8% อาเซียน 15.8% (เวียดนามเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับที่ 1 ในอาเซียน) จีน 7.2% และเนเธอร์แลนด์ 5%