หากเอ่ยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงาม ถือว่าแนวโน้มยังเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่ว่าสถานการณ์โลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ผู้หญิงก็ยังต้องให้ความสำคัญกับความงามไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย
จึงเป็นที่มาของความต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง และเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคนที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจประเภทนี้ หลายคนเตรียมตัวมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น การศึกษากลุ่มลูกค้า ผู้บริโภค แต่ยังขาดสิ่งสำคัญนั่นก็คือ การหาโรงงานที่จะมาผลิตผลิตภัณฑ์แบรนด์ของคุณอย่างไร
ในงาน Smart SME 2020 งานที่รวบรวมเอาทุกธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ งานที่รวมเอาผู้ประกอบการแต่ละธุรกิจมาพบกับลูกค้า หรือผู้มีความคิดที่จะเริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งธุรกิจที่เกี่ยวกับความงามก็ไปงานนี้หลาดหลายแบรนด์ และ 1 ในนั้นก็คือ บริษัท เพียวเดอริม่า จำกัด
คุณอริญชยา จันทรบุบผา ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท เพียวเดอริม่า แลบบอราทอรีส์ จำกัด ได้กล่าวถึงความรวมตลาดเครื่องสำอางในปัจจุบันถือว่าเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเทรนด์เครื่องสำอางจะเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี อย่างในปีนี้เทรนด์ความงามจะเป็นเกี่ยวกับร่างกาย (Body) ซึ่งเป็นกระแสมาตั้งแต่ต้นปี แต่เนื่องจากต้นปีไทยเผชิญกับปัญหาโควิด-19 จึงมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเจลล้างมือออกมามากเป็นพิเศษ แต่หลังจากนั้นช่วงไตรมาส 2-3 กลุ่มสินค้าที่มาแรงจะเป็นบอดี้โลชั่น นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของการสครับผิวกาย โดยมองว่าผู้บริโภคหันมาใส่ใจกับผิวกายมากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาเทรนด์ความงามจะเป็น มาร์คชีส
“ในประเทศเรากลุ่มที่ยังคงครองแชมป์ คือ กลุ่มไวท์เทนนิ่ง เพราะในเมืองไทยแดดค่อนข้างแรง รองลงมา คือ กันแดด ลักษณะภูมิอากาศเมืองไทยที่ร้อน สินค้าของเราทุกตัวจึงจะเน้นในเรื่องของ ออยล์ฟรี หรือไม่มีความมัน ใช้แล้วซึมเร็ว นอกจากนี้ เรายังผลิตผลิตภัณฑ์ส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย โดยจะดูเทรนด์ของแต่ละประเทศนั้นๆ”
เมื่อเอ่ยถามถึงหลักการตั้งราคาขายกับกลุ่มเป้าหมาย “คุณอริญชยา” บอกว่าถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการตั้งราคาขายจะต้องดูกลุ่มเป้าหมายว่าอยู่กลุ่มไหน มีกำลังการซื้อเท่าไร เช่น กลุ่มนักเรียน นึกศึกษา วัยทำงาน ควรตั้งราคาไว้ที่เท่าไร ซึ่งบริษัทมีทีมงานที่คอยให้คำแนะสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนทำธุรกิจ
“เรารับผลิตสินค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า เครื่องสำอาง โทนเนอร์ เซรั่มบำรุง ครีมบำรุงลดริ้วรอย ผิวแพ้ง่าย กันแดด บอดี้สครับ ฯลฯ เป็นต้น เรามีทีมงานขายที่มีประสบการณ์มากว่า 10 ปี คอยให้คำแนะนำ ดังนั้น เราจะรู้เทรนด์ว่าตัวไหนเหมาะกับอะไร”
“คุณอริญชยา” บอกด้วยว่า หากจะเริ่มต้นธุรกิจ อันดับแรก จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจว่า จะขายให้ใคร พิจารณาความชอบหรือความถนัดของตนเองว่าชอบแบบไหน เช่น อาจจะถนัดด้านการขาย หรือการตลาด เป็นต้น จากนั้น มามองช่องทางการตลาดว่าจะวางจำหน่ายช่องทางไหนบ้าง หลังจากนั้นไปดูว่าในกลุ่มลูกค้านั้นๆ มีกำลังซื้อเท่าใด และกลุ่มลูกค้าชอบสินค้าประมาณไหน แล้วเข้ามาคุยกับทางโรงงาน ซึ่งทางโรงงานเองก็มีสินค้าที่หลากหลายกลุ่ม ตามระดับราคา คุณภาพ และระยะเวลาการเห็นผล เป็นต้น
“เราจะไม่ยัดเยียดในสิ่งที่ลูกค้าไม่ถนัด เพราะถ้าหากทำไปก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนแบรนด์อื่น เราจะถามลูกค้าก่อนว่าถนัดด้านไหน ลูกค้าบางคนถนัดออนไลน์ เราก็จะแนะนำว่าควรไปทางไหน หรือบางท่านถนัดช่องทางจัดจำหน่าย เช่น ร้านสะดวกซื้อที่สามารถนำสินค้าไปวางได้”
สำหรับโปรโมชั่นในงาน Smart SME 2020 “คุณอริญชยา” บอกว่าทางบริษัทจะนำสินค้า Tester และสินค้าขายดีที่เป็น Best Seller ของบริษัท รวมทั้งสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ให้ลูกค้าทดลองได้ภายในงาน พร้อมทั้งยังจะได้เห็นแพคเกจจิ้งใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
“ที่สำคัญเราทำเป็นสินค้าสำเร็จรูปให้ผู้สนใจดูว่า หากทำสินค้าแบบนี้คุณก็จะได้แพคเกจจิ้งแบบนี้ และยังมีสินค้าที่นำมาจำหน่ายในราคาพิเศษในงานนี้อีกด้วย พร้อมกันนี้ เรามีโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 ในราคาโรงงานอีกด้วย ปัจจุบันเรามี 2 โรงงานผลิต ที่ พระราม 3 และ ลำลูกกา คลอง 5 ผู้สนใจอยู่ใกล้ทำเลไหนสามารถติดต่อได้ตามสาขาใกล้บ้านท่าน”
เพียงคุณก้าวมาที่งาน Smart SME Expo 2020 คุณจะได้รับความรู้และแนวทางสู่การเป็นเจ้าของแบรนด์เพื่อปูทางไปสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจของคุณเอง สนใจสามารถเข้ามารับคำปรึกษาได้ที่บูธ D8-D9 ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ณ Hall 9-10 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ลงทะเบียนเข้างานได้ที่ https://expo.smartsme.co.th/register/index.php
