ตามที่ สำนักงานอาหารและยาของไต้หวัน (Taiwan Food and Drug Administration) ออกประกาศผลการตรวจสอบสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ พบว่ามีสินค้า 14 รายการที่ไม่ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยของไต้หวัน
และหนึ่งในสินค้า 14 รายการ คือ “ชาตรามือ” โดยพบว่า ชาตรามือที่นำเข้าโดยบริษัท Bos Lifestyle จำนวนกว่า 5 ตันปนเปื้อนสารฟิโพรนิล (fipronil) เป็นสารกำจัดแมลงในปริมาณ 0.005 ส่วนในล้าน (parts per million หรือ ppm) ซึ่งเกินค่ามาตรฐานของไต้หวันซึ่งตั้งไว้ไม่เกิน 0.002 ส่วนในล้าน
นอกจากนี้ สินค้ารายอื่นๆ ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัยด้านอาหารของไต้หวันในครั้งนี้ ได้แก่ ชาเขียว-หัวไชเท้าจากญี่ปุ่น กะหล่ำปลีจากจีน กะเทียม-งาขาวจากอินโดนีเซีย และงาดำจากปารากวัย โดยระบุว่า สินค้าที่ไม่ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัยอาหารในครั้งนี้จะถูกทำลายหรือส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง
ทั้งนี้ ชาตรามือ ถือเป็นแบรนด์ผู้ผลิตชาสัญชาติไทยที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 70 ปี ส่งออกทำตลาดในหลายประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ มาเลเซีย พม่า และสิงคโปร์
และจากกรณีดังกล่าว ทางชาตรามือได้ออกเอกสารชี้แจง ดังนี้
-ผลิตภัณฑ์ชาที่ส่งออกไปยังไต้หวันและพบสารปนเปื้อนตามมาตรฐานไต้หวันเป็นล็อตพิเศษ ไม่ใช่ล็อตที่ผลิตในประเทศไทย
-ชาตรามือยืนยันว่า การตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐานของแต่ละประเทศ โดยในกรณีของไทยไม่มีข้อกำหนดในการตรวจหาสารฟิโพรนิลในผลิตภัณฑ์ชา
-ในกรณีผลิตภัณฑ์ชาที่ส่งไปไต้หวัน ทางบริษัทยืนยันว่าได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีสารฟิโพรนิลตกค้าง จึงได้ส่งออกไปยังไต้หวัน ดังนั้น ประเด็นที่เกิดขึ้นในไต้หวันในขณะนี้ จึงจะต้องศึกษาหาข้อเท็จจริงกันต่อไป
จากประเด็นดังกล่าว ถือเป็นบทเรียนสำคัญของการส่งออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีของไทย จำเป็นต้องศึกษากฎหมายและระเบียบข้อบังคับของแต่ละประเทศให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพราะถ้าหากพลาดพลั้งจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับ ชาตรามือ ดังนั้นแล้วเคสนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
สำหรับใครที่สนใจนำสินค้าไปเปิดตลาดที่ประเทศจีน แต่ยังไม่มีประสบการณ์หรือไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ชี้ช่องรวย ขอแนะนำหลักสูตร Smart Manual for Entering Chinese Market “ปูพื้นการตลาดจีน ยกระดับการขยายตลาดจีนอย่างยั่งยืน”
โดยหลักสูตรนี้จะติวเข้าสอนให้คุณรู้จักประเทศจีนแบบครอบคลุมทุกจุด รวมไปถึงตลาดในจีนและผู้บริโภคชาวจีน ที่รูปแบบการสอนจะเน้นให้คุณมองภาพเหมือนเดินทางไปตลาดจีนแบบ Step by Step
โดยการอมรมแบบเข้มข้นใน 1 วัน + Workshop 1 วัน และ Product Testing !!! มีเนื้อหาที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ภาพรวมตลาดจีน: ศักยภาพ
• ศักยภาพทางเศรษฐกิจ
• ตลาดการบริโภคสินค้า
• เทรนด์อุตสาหกรรม
• การแบ่งทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจในประเทศ
2. รู้จักประเทศจีนดีแล้วหรือยัง? พฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อน
• การแบ่งผู้บริโภค 4 ด้าน
• ประเภทของผู้บริโภคและความชอบของผู้บริโภค
• เทรนด์ของผู้บริโภคในปี 2020-2021
• “เศรษฐกิจของกลุ่มแฟนคลับ” ผลลัพธ์จากดาราไทย
3. สินค้าขายดีในตลาดจีน: เทรนด์ของสินค้าและการผลิตที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในทันที
• เทรนด์ของสินค้า
• สินค้าขายดี
4. กลยุทธ์การเข้าตลาดจีน
• วิเคราะห์ว่าคุณพร้อมไปตลาดจีนหรือยัง
• ชื่อจีนและโลโก้
• การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
• งานวิจัยตลาดจีนและผู้บริโภคจีน
• วิเคราะห์ช่องทางการขายและโมเดลการส่งออก
• การหานายหน้า
• การเริ่มทำการตลาดและ Branding
• การขายบน e-Commerce จีน
ประเทศจีนถือเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ดังนั้น โอกาสที่จะนำสินค้าไทยเข้าไปเปิดตลาดจึงมีความเป็นไปได้สูง เพราะผู้บริโภคชาวจีนเชื่อมั่นในสินค้าไทย จากการเปิดรับสินค้าและผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยแทบจะทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนั้น การศึกษาตลาด ขนบธรรมเนียมประเพณี และกฎหมายของจีน จะช่วยให้คุณก้าวไปเปิดตลาดในจีนได้อย่างมั่นใจ
สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 094-915-4624