นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการที่ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งครบ 10 ล้านคนแล้ว เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 โดยข้อมูลล่าสุดปรากฏว่า มีผู้ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิและไม่เริ่มใช้สิทธิภายในกำหนด 14 วัน จึงได้มีการเริ่มตัดสิทธิตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป มีจำนวน 1,967,046 สิทธิ
โดยยอดลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบและสิทธิที่ถูกตัดในแต่ละวันจะถูกรวบรวมนำมาเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนอีกครั้ง ซึ่งจะเริ่มเปิดให้มีการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 (11/11) ระหว่างเวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com จนกว่าจะครบจำนวน
ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่เคยได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งมาก่อน และผู้ประสงค์จะใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งจะไม่สามารถใช้สิทธิมาตรการช้อปดีมีคืน
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 5.23 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 7,161,488 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 7,629 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 3,888 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 3,741 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 216 บาทต่อครั้ง
โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ
รองโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการคนละครึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งประชาชนและร้านค้าว่า การใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นใช้งานได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ช่วยกระตุ้นยอดขายของร้านค้ารายย่อยได้จริง อีกทั้งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประจำวันให้ประชาชนได้มาก จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจเตรียมลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งก่อนจำนวนสิทธิจะหมดลงอีกครั้งในวันที่ 11/11
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ายังสามารถลงทะเบียนได้ต่อเนื่องผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ในช่วงเวลา 06.00 – 23.00 น. หรือ ณ สาขา หรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย
ทั้งนี้ การจ่ายเงินส่วนที่รัฐร่วมจ่ายให้ร้านค้ายังคงจ่ายทุกวันทำการถัดไป และเร่งพิจารณาแนวทางการจ่ายเงินทุกวันเพื่อมิให้กระทบต่อสภาพคล่องของผู้ประกอบการรายย่อยที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ดี หากกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทยตรวจสอบพบการใช้จ่ายของร้านค้าหรือประชาชนที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขโครงการ จะมีการระงับการใช้แอปพลิเคชั่นและระงับการจ่ายเงินร้านค้าทันที อีกทั้งผู้ที่มีส่วนในการสนับสนุนการกระทำความผิดจะมีโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย
นายพรชัย ย้ำว่า ขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ อย่าให้มีการดำเนินการไปในทางมิชอบ เพื่อมิให้ทำลายบรรยากาศของการดำเนินโครงการคนละครึ่ง
ขั้นตอนการลงทะเบียนคนละครึ่ง รับเงิน 3,000 บาท สำหรับคนทั่วไป จำนวน 10 ล้านคน
1.เข้าไปที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
2.กดปุ่มสีแดงที่ระบุว่า “ลงทะเบียนรับสิทธิ์สำหรับประชาชน”
3.อ่านรายละเอียดข้อตกลงและความยินยอมก่อนเข้าร่วมโครงการ หากต้องการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งกดตกลงยินยอม
4.กรอกข้อมูลส่วนตัว เพื่อใช้ยืนยันลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง
-ชื่อ-นามสกุล
-เลขบัตรประจำตัวประชาชน
-รหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน
-วันเดือนปีเกิด
-เบอร์โทรศัพท์
5.กรอกรหัส OTP ที่จะส่งเข้ามายังเบอร์มือถือของผู้ที่ลงทะเบียน
6.เมื่อระบบได้รับข้อมูลแล้วให้ผู้ลงทะเบียนรอรับผลผ่าน SMS
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเป๋าตังเพื่อติดตั้งลงไปในมือถือ โดยยืนยันตัวตนผ่านแอปฯ เป๋าตังโดยสามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง IOS และ Android
สำหรับผู้ที่มี G-Wallet เดิมอยู่แล้วอาจจะเคยเข้าโครงการชิมช้อปใช้ หรือโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ก็สามารถใช้งานดังนี้
1.เลือกไปที่ G-Wallet
2.ยืนยันรหัส PIN 6 หลัก (ตั้งค่าเดิมอยู่แล้ว)
3.เริ่มใช้งานสิทธิ์คนละครึ่ง
สำหรับที่ใช้งาน G-Wallet ครั้งแรก สามารถยืนยันตัวตนผ่าน 2 ช่องทางได้ ดังนี้
1.เลือก G-Wallet
2.เลือกเข้าใช้ง่าน G-Wallet เพื่อยืนยันตัวตน
3.ยอมรับข้อตกลงการให้ข้อมูล และยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคล
4.เลือกวิธียืนยันตัวคน ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ ผู้ที่มีบัญชีธนาคารกรุงไทย (ใช้รายละเอียดที่เคยให้ไว้กับธนาคารกรุงไทยยืนยันตัวตน) และยืนยันตัวตนผ่านบัตรประจำตัวประชาชน
หากยืนยันตัวตนผ่านบัตรประจำตัวประชาชนให้ทำดังนี้
1.สแกนบัตรประชาชน
2.กรอกข้อมูลบัตรประชาชน
3.ยืนยันเบอร์มือถือ และยืนยันรหัส OTP (เบอร์ที่ลงทะเบียนโครงการ)
4.เริ่มการสแกนใบหน้า/สแกนใบหน้าสำเร็จ
5.รับการแจ้งเตือนเปิดใช้ G-Wallet สำเร็จ
6.หน้าหลักของ G-Wallet โครงการคนละครึ่ง