กระแสแรงไม่มีตกจริงๆ สำหรับตลาดน้ำหวานอย่าง “ชานมไข่มุก” เครื่องดื่มประจำชาติไต้หวัน โด่งดังไปทั่วโลก ด้วยรสชาติที่หวาน มัน และส่งกลิ่นหอม ซึ่งทำให้แม้แต่เทรนด์สุขภาพที่มาแรงก็ยังรั้งความนิยมชานมไข่มุกไว้ไม่อยู่
ตามประวัติแล้วชานมไข่มุกเกิดขึ้นครั้งแรกใน พ.ศ.2531 คิดค้นขึ้นร้านชื่อ “ชุนสุ่ยถัง” ในนครไทจง ประเทศไต้หวัน แต่เข้ามานิยมในประเทศไทยเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน แต่กระแสความนิยมในบ้านเรานั้นก็เรียกได้ว่าขึ้นๆ ลงๆ มีจุดว้าวให้เห็นบ้าง แล้วก็เงียบหายไป
แต่ปัจจุบันนี้ สำหรับตลาดชานมไข่มุกถ้าเมื่อเทียบกับอดีตแล้วถือว่าคนละเรื่องเลย จากผลสำรวจของบริษัท Allied Analytics บริษัทที่ปรึกษาวิจัยด้านการตลาด เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดชานมไข่มุกทั่วโลก ใน พ.ศ. 2560 มีมูลค่าประมาณ 63,000 ล้านบาท สำหรับในประเทศไทยตัวเลขในปีเดียวกัน มีมูลค่าตลาดปีละ 2,500 ล้านบาท
กระทั่งใน พ.ศ.2562 ปรากฏการณ์ฟรีเวอร์ก็เกิดขึ้น เมื่อชานมไข่มุกทั่วโลกมีมูลค่าถีบตัวสูงขึ้นถึง ประมาณ 76,900 ล้านบาท โตขึ้นประมาณ 24 เปอร์เซ็นต์ ส่วนมูลค่าตลาดในไทยเติบโตขึ้นถึงประมาณ 3,000 ล้านบาท
เห็นตัวเลขแบบนี้ คุณจะอยู่เฉยได้ไง
ใครเป็นแชมป์กินชานมไข่มุก
มีตัวเลขที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งคือ ใน พ.ศ. 2561 ได้มีการสำรวจข้อมูลจาก “แกร็บ” แอปสั่งอาหารชื่อดังถึงอัตราการส่งซื้อชานมไข่มุกในออนไลน์ของคนอาเซียน มาทายกันซิว่าผู้บริโภคของประเทศไหนจะเป็นแชมป์การสั่งซื้อ ให้เวลาคิด 3 วินาที เอาเริ่มจับเวลา Tiktok Tiktok Tiktok หมดเวลา
เริ่มที่การประกาศอันดับที่ 3 กันก่อน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์ โดยทั้ง 4 ประเทศนี้สั่งซื้อเพื่อมารับปะทาน 3 แก้ว/คน/เดือน ต่อมาที่อันดับ 2 ได้แก่ ฟิลิปปินส์ 5 แก้ว/คน/เดือน ส่วนอันดับที่ 1 เป็นชาติไหนไม่ได้นอกจากประเทศไทย 6 แก้ว/คน/เดือน สรุปคือ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรคนไทยก็ไม่แพ้ชาติใดจริงๆ
ทำไม ตลาดไทยโตไม่หยุด !!!
หนึ่ง-การเข้ามาของแบรนด์จากต่างประเทศ เช่น The alley, Tiger Sugar หรือ KOI THE’ (โคอิเตะ) ซึ่งมีดีทั้งรสชาติและหน้าตา ทั้งรสชาติดั้งเดิมที่เป็น Signature ของร้าน บ้างร้านก็พัฒนามาเป็นรสชาตินมพ่นไฟ รวมถึงมีการดัดแปลงเป็นชาน้ำผลไม้ ให้เลือกรับประทานหลากรสชาติ นักชิมหลายท่านกล้าพูดออกจากปากเลยว่า ก่อนตายต้องได้ไปลองชานมไข่มุกแบรนด์เหล่านี้กันสักครั้ง
สอง-การจัดตกแต่งร้านดูร่วมสมัย โปรดลบภาพร้านชาที่มีสีสันทึบๆ ออกไปจากสมอง เพราะสมัยนี้ต้องไม่ยึดติดกับการตกแต่งแบบเดิมๆ โดยการตกแต่งที่นิยมในปัจจุบัน คือ ตกแต่งสไตล์มินิมอล เรียบง่าย แต่หรูหราดูแพง ด้วยปัจจัยข้อนี้เองจึงให้เกิดการต้องเดินทางออกไปเยือน เพราะเหตุผลที่ว่า ใครๆ ก็อยากหาที่นั่งชิล ถ่ายรูปอวดเพื่อนกันทั้งนั้นใช่ไหมละ
สาม-เพราะการเติบโตของโลกโซเชียลมีเดียของไทย ส่งผลให้ปัจจัยข้อนี้ส่งเสริมการตลาดและยอดของ 2 ข้อด้านบน เพราะเป็นหนึ่งในช่องทางการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแล้ว จำนวนผู้คนเห็นง่าย มากมาย
สามอันแรกที่มีสาขามากสุด
จากตัวเลขการสำรวจของเว็บไซต์ www.wongnai.com เมื่อต้น พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมาพบว่ามีแฟรนไชส์แบรนด์ไทย TOP 3 ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในไทย ประกอบด้วย อันดับ 1 แฟรนไชส์ชานมไข่มุก โนบิชา NOBICHA จำนวน 700 สาขา อันดับ 2 แฟรนไชส์ชานมไข่มุก CHAMICHI จำนวน 600 สาขา และอันดับ 3 แฟรนไชส์ชานมไข่มุก MARUCHA จำนวน 400 สาขา
ปัจจัยที่ทำให้แฟรนไชส์ทั้ง 3 แบรนด์นี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากเรื่องรสชาติ การจัดตกแต่งร้านดูร่วมสมัย นั่นคือการรู้กลุ่มเป้าหมายของตนเอง อยู่ในสมรภูมิเดียวกัน แต่รบกันคนละพื้นที่ ไม่แข่งขันด้านราคาต่อแก้วกับแบรนด์ต่างประเทศ ที่มีราคาต่อแก้วตั้งแต่หลัก 50 บาทไปจนถึงหลัก 100++ แต่ทำราคาต่อแก้วเริ่มต้นที่ 19 บาท
อีกทั้งการทำราคาแพ็คเก็จแฟรนไชส์ที่ไม่แพง มีราคาตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน เช่น MARUCHA ทำราคาแพ็กเกจ Size S เพียง 59,900 บาท CHAMICHI เริ่มต้นร้านขนาดเล็กสุดเพียง 55,000 บาท จนถึงขนาดใหญ่สุดที่ตกแต่งและมีที่นั่งภายในร้านให้ครบครัน ราคา 258,000 บาท และสุดท้ายคือ NOBICHA เริ่มต้นลงทุนค่าแฟรนไชน์ที่ 200,000 บาท เป็นต้นทุนตั้งต้นที่สามารถคืนทุนได้ง่าย ราคาไม่หวาดเสียว และใช้เวลาคืนทุนไม่นาน
มาแรงต้องลงทุน…เดี๋ยวนี้
นับเป็นโอกาสดีมากๆ ที่ทีมงานชี้ช่องรวย ได้เป็นส่วนหนึ่งการเข้าไปสำรวจงานเจราธุรกิจ SMART SME EXPO 2020 ในวันที่ 29 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ที่ฮอลล์ 9-10 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่ผ่านมา ซึ่งมีแฟรนไชส์ชานมไข่มุกแบรนด์ของคนไทยให้เลือกลงทุนมากมาย
แฟรนไชส์ชานม AM TEA
- ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 59,900 -159,900 บาท
- มีให้เลือกประมาณ 44 เมนู
- ขายปลีกแก้วละ 19 – 45 บาท หรือแล้วแต่ทำเล
เป็นแบรนด์น้องใหม่ดาวรุ่งปี 2563 รูปแบบร้านมาด้วยสีเขียวสีสันสดใส เมื่อซื้อแฟรนไชส์จะได้รับอุปกรณ์ครบชุดพร้อมเปิดร้านได้ทันที ใช้เวลาคืนทุนโดยเฉลี่ย 3-5 เดือน ส่วนสิ่งที่ต้องสั่งกับทางแบรนด์เท่านั้น ได้แก่ แพ็คเกจจิ้ง ผงชา ไซรัปผลไม้ ไข่มุก ซึ่งทั้งหมดลูกค้าสามารถมั่นใจได้ในเรื่องราคาที่เป็นธรรม เนื่องจากแบรนด์ได้ทำการสำรวจราคาในท้องตลาดมาแล้ว หลังจากหักค่าวัตถุดิบและแพ็คเกจจิ้ง ผู้ขายจะได้กำไรต่อแก้วที่ 40-50%
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ โทร. 08-9709-8888 Facebook : Am Tea Thailand
แฟรนไชส์ baboo bear
- ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 39,900 -189,900 บาท
- มีให้เลือก 100 เมนู++
- ขายปลีกแก้วละ 25 -30 บาท หรือแล้วแต่ทำเล
รูปแบบร้านแล้วแต่ลูกค้าจะออกแบบ แต่ต้องมีสัญลักษณ์น้องหมีสีน้ำตาลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของร้านด้วย ทุกรูปแบบการลงทุนจะได้รับวัตถุดิบและอุปกรณ์พร้อมขาย ซึ่งจะมากน้อยแตกต่างกันไปตามราคา เช่น ไข่มุก ครีมเทียม ใบชา ผงผสมชานม ไซรัปผลไม้ ผงพุดดิ้ง เครื่องซีล ถังชาเก็บความเย็น และกระปุกใส่ท้อปปิ้ง เป็นต้น สำหรับผลตอบแทนกำไรค่อนข้างสูง สามารถคืนทุนได้ในเวลาไม่เกิน 3-6 เดือนหรือขึ้นอยู่กับทำเล
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ โทร. 08-2798-6027 Facebook : Baboo bear milk tea
แฟรนไชส์ กขค Fine Tea & Drinks
- ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 9,800 บาท
- มีให้เลือก 30 เมนู++
- ขายปลีกแก้วละ 15 บาท
ด้วยราคาแพ็คเก็จแฟรนไชส์ที่ไม่แพง เพราะเริ่มต้นแค่ 9,800 บาท จะได้รับวัตถุดิบและอุปกรณ์พร้อมขายได้ทันที อีกทั้งราคาเริ่มต้นต่อแก้วก็เพียง 15 บาท ซึ่งถือว่าถูกที่สุดเมื่อเทียบกับแบบรนด์อื่นๆ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นเด็กเล็กไปจนถึงวัยรุ่นได้โดยง่าย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ Line : @GorKorCor Facebook : กขค Fine Tea & Drinks
แฟรนไชส์ GATTO CHA
- ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 38,900 -94,900บาท
- มีให้เลือก 43 เมนู++
- ขายปลีกแก้วละ 25 -45 บาท
แบรนด์นี้มีสัญลักษณ์เป็นน้องแมวน่ารักกับชื่อว่ากัตโตะ สัตว์ที่เชื่อกันว่าจะนำคลาภมาให้เจ้าของ โดยปัจจุบันมีสาขามากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศไทย การซื้อแฟรนไชส์กับแบรนด์นี้นอกจากเรื่องอุปกรณ์เปิดร้านที่ได้อย่างครบครันแล้ว จุดเด่นของแบรนด์จะอยู่ที่ เรื่องของเมนูที่เอาใจคนทุกวัย มีตั้งแต่ ชาเย็น (ชาไทย) ที่ถูกใจผู้ใหญ่วัยทำงาน ชานมไต้หวัน ที่ถูกใจวัยรุ่น กาแฟโบราณ ที่ถูกใจผู้สูงอายุ ชามะม่วง ที่ถูกใจชาวต่างชาติ และยังมี เมนูเด็ดๆ อีกจำนวนมาก เช่น ชาเขียวมัทฉะลาเต้ ชาเขียวมัทฉะมะนาวสด ชานมบราวชูก้า ชาส้มผสมน้ำผึ้ง ชาพีชเกาหลี ชามะขาม และชาน้ำผึ้งมะนาวสด เป็นต้น
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ โทร. 02-004-8157 Facebook : GattoCha
แฟรนไชส์ Cholada Cha Mook
- ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้น 19,900 -25,900 บาท
- มีให้เลือก 35 เมนู++
- ขายปลีกแก้วละ 25 บาท
ช่อลดาชาไทย เป็นธุรกิจที่แตกไลน์มาจากแฟรนไชส์ร้านกาแฟสดดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์มานานกว่า 10 ปีแล้ว ดังนั้นจุดเด่นของแบรนด์อยู่ที่เมนูชาสูตรเข้มข้น เช่น ชาไทย ชามะลิไต้หวัน ชาแดงไต้หวัน ชาเขียว ชากุหลาบ โดยมีท็อปปิ้งอย่างไข่มุกเป็นส่วนประกอบที่ลงตัว
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ โทร. 08-7122-2811 Facebook : แฟรนไชส์กาแฟสดไร่ช่อลดา
ฉะนั้นหากคิดจะเริ่มต้นธุรกิจในตอนนี้ สมรภูมิ 3,000 ล้านบาท ชานมไข่มุกเปิดโอกาสให้คนตัวเล็กเรียบร้อยแล้ว
