โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

เจาะพฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภคเพศหญิงวัย 30+ โอกาสทองผู้ประกอบการไทยบุกตลาด "จีน"

อีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่น่าจับตามองในประเทศจีน คือ กลุ่มผู้บริโภคเพศหญิงวัย 30+ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 55 ล้านคน โดยเฉลี่ยรายได้ต่อเดือนของคนกลุ่มนี้อยู่ที่ 10,000 หยวน หรือ ประมาณ 50,000 บาทขึ้นไป บริษัท TalkingData เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านข้อมูลของจีน พบว่า กลุ่มผู้บริโภคเพศหญิงวัย 30+

มีพฤติกรรมในการใช้แอพพลิเคชั่นในการเตือนให้ทำสิ่งต่าง ๆ อาทิ ดื่มน้ำ, ทานอาหารเช้า, เข้าห้องน้ำ, ทานผลไม้ และออกกำลังกาย สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดในการบริโภค คือ คนกลุ่มนี้ทักเลือกซื้อเครื่องดื่มที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ จากการสำรวจพบว่าเครื่องดื่มที่ซื้อมากที่สุด คือ น้ำเปล่า นม และน้ำผักผลไม้

โดยกลุ่มผู้บริโภคเพศหญิงวัย 30+ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ แต่ละกลุ่มจะมีลักษณะการบริโภคดังนี้

  1. กลุ่มหญิงโสด กิจกรรมยามว่าง ได้แก่ การออกกำลังกาย
  2. กลุ่มหญิงวัยทำงาน กิจกรรมยามว่าง ได้แก่ การไปเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อน
  3. กลุ่มหญิงที่แต่งงานแล้ว กิจกรรมยามว่าง ได้แก่ การทำอาหาร
เครดิตภาพ : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

เครดิตภาพ : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

แนวทางการช้อปปิ้งบนโลกออนไลน์ของกลุ่มผู้บริโภคเพศหญิงวัย 30+

  1. กลุ่มหญิงโสดจะนิยมช้อปปิ้งบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ vip.com
  2. กลุ่มหญิงวัยทำงาน และกลุ่มหญิงที่แต่งงานแล้ว จะนิยมช้อปปิ้งผ่าน kaola.com

สำหรับสินค้าที่กลุ่มผู้บริโภคเพศหญิงวัย 30+ นิยมเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากที่สุดได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม สุรา อาหารสด เฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว และผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก เป็นต้น โดยแต่ละกลุ่มผู้บริโภคเพศหญิงวัย 30+ จะมีแรงจูงใจหรือในการเลือกซื้อสินค้าแตกต่างกันออกไป จากการสำรวจของบริษัทดังกล่าว กลุ่มหญิงโสดและกลุ่มหญิงวัยทำงานจะไม่ถูกดึงดูดจากการประชาสัมพันธ์สินค้ามากนัก เมื่อเทียบกับกลุ่มหญิงที่แต่งงานแล้ว ที่จะถูกโฆษณาสินค้าชักจูงชวนซื้อสินค้าได้ง่ายกว่า

9 อันดับสินค้าที่กลุ่มผู้บริโภคเพศหญิงวัย 30+ นิยมซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์มากที่สุด

  1. อาหารเครื่องดื่ม / เครื่องดื่ม / สุรา / อาหารสด
  2. เฟอร์นิเจอร์ / เครื่องครัว
  3. ผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก / ของเล่นเครื่องดนตรี
  4. เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
  5. อาหารเสริม
  6. โทรศัพท์มือถือ / เครื่องมือดิจิตอล
  7. คอมพิวเตอร์ / เครื่องใช้สำนักงาน
  8. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
  9. เสื้อผ้า / เครื่องประดับ

สำหรับคำค้นหาและการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มออนลน์ของกลุ่มผู้บริโภคเพศหญิงวัย 30+ มีดังนี้

  • กลุ่มหญิงโสด จะมีคำค้นหาคำว่า “หม้อหุงข้าว” / “อาหารทานง่าย” / “มาส์กหน้า” ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มหญิงโสดมีเวลาว่างและสนใจเข้าครัวยามว่าง
  • กลุ่มหญิงวัยทำงาน จะมีคำค้นหาคำว่า “ขนมขบเคี้ยว” / “มาส์กหน้า” / “ฟิล์มโทรศัพท์มือถือ” ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มหญิงวัยทำงานนิยมกักตุนขนมไว้ที่ทำงานหรือที่บ้านเพื่อผ่อนคลายในยามว่าง
  • กลุ่มหญิงที่แต่งงานแล้ว จะมีคำค้นหาคำว่า “นมและผลิตภัณฑ์นม” / “บิสกิตและเค้ก” / “ชุดของขวัญ” ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กลุ่มหญิงที่แต่งงานแล้วต้องดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัว

สำหรับสินค้าไทยที่สามารถเจาะตลาดจีนได้และมีโอกาสเติบโตในกลุ่มผู้บริโภคเพศหญิงวัย 30+ ได้แก่ น้ำผักผลไม้ มาส์กหน้า ขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก เป็นต้น จากข้อมูลข้างต้นถือ้เป็นแนวทางการตลาดที่น่าสนใจอย่างมาก โดยผู้ประกอบการไทยควรจะเน้นการสร้างจุดขายด้านอารมณ์เพื่อขับเคลื่อนอารมณ์ซื้อและกระตุ้นการขาย ดังนั้น การทำการตลาดกลุ่มผู้บริโภคเพศหญิง

จึงควรสร้างคอนเซ็ปต์แบรนด์สินค้า และออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถดึงดูดใจผู้บริโภคได้ดี รวมถึงผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังมีบทบาทสำคัญในครอบครัวอีกด้วย ทั้งบทบาทความเป็นแม่ ภรรยา ลูกสะใภ้ เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นผู้ซื้อของใช้ภายในบ้าน และมีอำนาจหลักในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า หากสามารถสร้างจุดขายที่เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้ ก็จะสามารถครองสัดส่วนการตลาดในจีนได้ค่อนข้างมากในระดับหนึ่ง

สรุปได้ว่า กลุ่มผู้บริโภคเพศหญิงวัย 30+ เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และมีมากที่สุดอยู่ในช่วงของวัยทำงาน ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในการทำการเจาะตลาดจีนและไม่ควรมองข้าม จะสังเกตได้ว่า ผู้บริโภคกลุ่มนี้ใส่ใจกับสุขภาพ และนิยมช้อปปิ้งทางออนไลน์ โดยสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก และเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่มีความต้องการค่อนข้างสูงสำหรับผู้บริโภคกลุ่มนี้ ผู้ประกอบการไทยที่จะนำสินค้ามาบุกตลาดจีนจึงควรศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวจีนให้ทันต่อกระแสความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนอยู่เสมอ

ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

ทั้งหมดนี้ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ไว้ เพื่อเป็นโอกาสในการเปิดตลาดจีนอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่ต้องการนำสินค้าไปเปิดที่ตลาดจีน แต่ยังไม่มีความรู้หรือยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับประเทศจีน ชี้ช่องรวย ขอแนะนำหลักสูตรที่น่าสนใจ คือ Smart Manual for Entering Chinese Market “ปูพื้นการตลาดจีน ยกระดับการขยายตลาดจีนอย่างยั่งยืน” ที่จะช่วยให้คุณมีความรู้เท่าทันกับกฎหมายและรายละเอียดต่างๆ ในการลงทุนที่ประเทศจีน

โดยหลักสูตรนี้จะสอนให้คุณรู้จักประเทศจีนแบบครอบคลุมทุกจุด รวมไปถึงตลาดในจีนและผู้บริโภคชาวจีน ที่รูปแบบการสอนจะเน้นให้คุณมองภาพเหมือนเดินทางไปตลาดจีนแบบ Step by Step สอนโดย คุณสุวัฒน์ รักทองสุข ผู้บริหาร บริษัท Lert Global Group จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดจีนและธุรกิจ Ecommerce จะมาให้ความรู้การตลาดจีนและโอกาสการเข้าไปเปิดตลาดจีน พร้อมทั้งให้ความรู้และตอบข้อสงสัยให้กับคุณได้

โดยการอมรมแบบเข้มข้นใน 1 วัน + Workshop 1 วัน และ Product Testing !!! มีเนื้อหาที่น่าสนใจ ดังนี้

1.ภาพรวมตลาดจีน: ศักยภาพ

  • ศักยภาพทางเศรษฐกิจ
  • ตลาดการบริโภคสินค้า
  • เทรนด์อุตสาหกรรม
  • การแบ่งทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจในประเทศ

2.รู้จักประเทศจีนดีแล้วหรือยัง? พฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อน

  • การแบ่งผู้บริโภค 4 ด้าน
  • ประเภทของผู้บริโภคและความชอบของผู้บริโภค
  • เทรนด์ของผู้บริโภคในปี 2020-2021
  • “เศรษฐกิจของกลุ่มแฟนคลับ” ผลลัพธ์จากดาราไทย

3.สินค้าขายดีในตลาดจีน: เทรนด์ของสินค้าและการผลิตที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในทันที

  • เทรนด์ของสินค้า
  • สินค้าขายดี

4.กลยุทธ์การเข้าตลาดจีน

  • วิเคราะห์ว่าคุณพร้อมไปตลาดจีนหรือยัง
  • ชื่อจีนและโลโก้
  • การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
  • งานวิจัยตลาดจีนและผู้บริโภคจีน
  • วิเคราะห์ช่องทางการขายและโมเดลการส่งออก
  • การหานายหน้า
  • การเริ่มทำการตลาดและ Branding
  • การขายบน e-Commerce จีน

ประเทศจีนถือเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ดังนั้น โอกาสที่จะนำสินค้าไทยเข้าไปเปิดตลาดจึงมีความเป็นไปได้สูง เพราะผู้บริโภคชาวจีนเชื่อมั่นในสินค้าไทย จากการเปิดรับสินค้าและผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยแทบจะทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนั้น การศึกษาตลาด ขนบธรรมเนียมประเพณี และกฎหมายของจีนจะช่วยให้คุณก้าวไปเปิดตลาดในจีนได้อย่างมั่นใจ

สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 094-915-4624