โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

แบรนด์เจ้านาง ธุรกิจคอสเมติกที่ทำยอดขายได้ 50 ล้านในปีแรก

พาไปสร้างแรงบันดาลใจกับแบรนด์เจ้านาง ธุรกิจคอสเมติกของคนไทยที่เต็มไปด้วยคุณภาพมาตรฐาน จากจุดเริ่มต้นของพนักงานร้านเเฟมลี่มาร์ทที่ต้องการลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนรอบข้าง สร้างความเป็นไปได้ใหม่ จึงตัดสินนำเงินเก็บทั้งหมดมาลงทุนให้ฝันเป็นจริง และด้วยความมุ่งมั่นลงมือทำอย่างจริงจัง ทำให้ปัจจุบันสามารถเติบโตสูงถึงปีละหลัก 100 ล้าน++ บาท

 


คุณจัง ธัญญ์ฐิตา ทรัพยศิรินารากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้านาง (ไทยแลนด์) จำกัด วัย 28 ปี เล่าว่า แบรนด์เจ้านางเกิดขึ้นจากความชื่นชอบเครื่องสำอางอยู่แล้ว บวกกับความต้องการพัฒนาสินค้าแบรนด์ไทยให้มีชื่อเสียงระดับโลก จึงใช้เวลากว่า 1 ปี เพื่อพัฒนา ‘แป้งเจ้านาง’ ขึ้นมาให้ดีที่สุด และเหมาะต่อคนผิวแพ้ง่าย จากจุดเริ่มต้นปั้นแบรนด์กันมากับหุ้นส่วน 2 คนถึงวันนี้ก็สร้างแบรนด์มา 5 ปีแล้ว ปัจจุบันมีทีมในบริษัทจำนวน 30 คน ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน มีสินค้ากลุ่มคอสเมติก ได้แก่ แป้งพัฟ, แป้งฝุ่น, ดินสอเขียนคิ้ว, ลิปสติก และคลีนซิ่งวอเตอร์ที่เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้ โดยจำหน่ายผ่านทางท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต, โลตัส, อีฟแอนด์บอย, วัตสัน และช่องทางออนไลน์ต่างๆ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชา ซึ่งแป้งเจ้านางคือผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัศวินของแบรนด์ ราคาปกติอยู่ที่ตลับละ 399 บาท


สำหรับจุดเด่นของสินค้า คือเรื่องของคุณภาพที่เทียบเท่ากับเคาน์เตอร์แบรนด์ในราคาที่คุ้มค่า เพราะมีส่วนผสมจาก Squalane นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เป็นน้ำมันตับปลาฉลาม มีองค์ประกอบคล้ายกับน้ำมันในผิวของมนุษย์มากที่สุด จึงช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นไม่อุดตันผิว ทาแล้วไม่มัน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว รวมทั้งผิวมันและผิวแพ้ง่าย, Mica ช่วยปกปิดจุดบกพร่อง และทำให้แป้งมีคุณสมบัติติดทนนาน, Titanium Dioxide ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ที่เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัย, Allantoin ช่วยลดการอักเสบของผิวเมื่อถูกรังสี UV และช่วยซ่อมแซมผิวหนังที่แพ้ง่าย, Additives ที่มีการใช้คู่กับ Titanium dioxide และ Mica จะให้สีขาวและเหลือบมุก ทำให้ดูเหมือนผิวสว่างขึ้นและดูดีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทา โดยกว่า 99.98% ของผู้ทดลอง ใช้แล้วไม่เกิดอาการแพ้ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว วิจัยและพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ได้รับรางวัลคุณภาพผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2016 ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่มีชื่อเสียงมากมาย


การที่สามารถทำให้แบรนด์ติดตลาดได้เร็ว เนื่องจากตั้งแต่เปิดแบรนด์มามุ่งทำตลาดออนไลน์อย่างจริงจังบนทุกช่องทางมาโดยตลอด อย่างช่วงสงกรานต์ปีแรกมีลูกค้านำแป้งไปทาแล้วช่วยรีวิว ทำให้หลายคนเห็นว่าแป้งเจ้านางกันน้ำและกันเหงื่อได้ดี รวมถึงการที่มีดารามาซื้อไปใช้จึงได้รับกระแสที่ดีเรื่อยมา โดยปีแรกที่ก่อตั้งแบรนด์สามารถทำยอดขายได้กว่า 50 ล้านบาท และเติบโตเรื่อยมาจนปัจจุบันทำยอดขายได้ปีละกว่าหลักร้อยล้านบาท ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนทำงานเป็นหลัก ตามมาด้วยกลุ่มนักศึกษา โดยแคมเปญการตลาดจะเน้นไปที่เรื่องโปรโมชั่น และการทำ CRM รวมถึงการสร้างสัมพันธ์กับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ซึ่งในช่วงโควิดรอบแรกแม้ว่าสินค้าที่ฝากขายกับโมเดิร์นเทรดบางสาขาจะปิดลงชั่วคราว แต่ด้วยทางแบรนด์เน้นทำการตลาดออนไลน์อยู่แล้ว บวกกับตัวแทนจำหน่ายก็ยังคงขายได้ ทำให้ธุรกิจยังคงเติบโตและไม่มีการเลย์ออฟพนักงานเลยแม้แต่คนเดียว


‘ในช่วงโควิด เราพยายามมองหาโอกาส เพื่อพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ในตอนนั้นยังไม่ค่อยมีใครทำเจลแอลกอฮอล์ เราจึงเป็นแบรนด์แรกๆ ที่ทำเจลแอลกอฮอล์ขาย พอวางขายเราขายได้ถึง 4-5 แสนชิ้น สินค้าทุกชิ้นจะต้องผ่านสายตาเราทุกกระบวนการ เราถึงจะรู้ว่าดีหรือไม่ดี เพื่อให้สินค้ามีความพร้อมมากที่สุด’

นอกจากนี้ก็พยายามปรับสินค้าต่างๆ ให้พกพาง่ายขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการความสะดวก และทำ CSR เพื่อส่งต่อสิ่งดีๆ กลับสู่สังคม เราได้ก่อตั้งมูลนิธิเจ้านางเพื่อสังคม เพื่อคืนความสุขเพื่อลูกหลานรุ่นต่อไป อยากที่จะส่งมอบความรัก ผ่านการให้ ให้เป็นความทรงจำว่าครั้งหนึ่ง เเบรนด์เจ้านางได้ทำความดี เช่น การสร้างวัด ให้ทุนการศึกษาจนเรียนจบมหาวิทยาลัย ส่วนในอนาคตวางแผนลงทุนเปิดโรงงานเป็นของเจ้านางเอง เพื่อรองรับธุรกิจที่เติบโตขึ้น เเละสร้างโรงงานเพื่อรองรับการผลิตสินค้า OEM ให้ลูกค้าท่านๆอื่น เราพร้อมที่จะขับเคลื่อนเเบรนด์ไทยเเละโรงงานที่มีมาตราฐานระดับสากล ให้ชาวต่างได้เห็นว่าเรามีแบรนด์ไทยชื่อนี้เเละสร้างชื่อให้ประเทศไทย โดยจะระดมพนักงานสายการตลาดเข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจมากขึ้น ขณะนี้กำลังศึกษาเรื่องกฎหมาย และจดสิทธิบัตรเพื่อส่งออกจีน โดยคาดว่าปีนี้จะสามารถทำยอดขายได้ 500 ล้านบาท

 

 

สุดท้ายอยากฝากสินค้าไทยที่มีคุณภาพอย่างแบรนด์เจ้านางให้ทุกคนได้ทดลองใช้และเชื่อมั่น เนื่องจากผ่านการคิดค้นและพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์คนไทยและคนเอเชียโดยเฉพาะ ซึ่งทางแบรนด์เตรียมพาธุรกิจเข้ามหาชนภายใน 2 ปีนี้ นับจากนี้

‘การจะลุกขึ้นมาทำอะไรก็ตาม ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ ก็อยากให้กำลังใจคนที่มีฝัน ให้ออกมาทำในสิ่งนั้นเพื่อตัวเอง และคนที่รักเราได้แล้ว ไม่ต้องรอเวลา และเชื่อมั่นในสิ่งที่เราจะทำว่ามันดีจริงๆ การคิดอย่างรอบคอบเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ใช่จะกลัวไปหมด คิดแล้วก็ลงมือทำ ทำทำทำ และทำด้วยความรักและศรัทธาในสิ่งที่เราทำ’ ธัญญ์ฐิตา ทรัพยศิรินารากุล

https://www.facebook.com/Chaonangthailand
Line:@chaonangthailand