โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

กลยุทธ์ความสำเร็จ Am Tea ธุรกิจชานมวัย 5 เดือน กับ 22 สาขา

ด้วยชานมเป็นอีกรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ที่คนสนใจลงทุนมากที่สุด จึงมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์ไทยและต่างชาติ ครั้งนี้จึงอยากแนะนำอีกแบรนด์ที่มีราคาขายปลีกเข้าถึงง่าย เริ่มต้นเพียงแก้วละ 19 บาท แต่เต็มไปด้วยความแข็งแรง ทั้งในเรื่องแบรนด์ดิ้ง ความหลากหลายของเมนู โดยเฉพาะความโปร่งใสยุติธรรม และความใส่ใจคู่ค้าของตัวเจ้าของแฟรนไชส์ อย่างแบรนด์ Am Tea

 


คุณเม ณปภัช วรปัญญาสถิต จาก Am Tea (แอมที) เล่าว่า ธุรกิจชานมแบรนด์ Am Tea เกิดจากความต้องการพัฒนาแบรนด์แฟรนไชส์ให้มีความเป็นธรรมกับลูกค้า และแฟรนไชส์ซีมากที่สุด ด้วยการเอาใจเขามาใส่ใจเรา ตอบสนองความต้องการทั้งของผู้บริโภคและของคู่ค้าแฟรนไชส์ซี เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้ในระยะยาว และด้วยการที่เดิมเคยทำธุรกิจในกัมพูชาอยู่แล้ว จึงตัดสินใจเปิดสาขาแรกในกัมพูชา เพราะมองว่าชานมในกัมพูชามีราคาสูงถึงแก้วละเกือบ 100 บาท ในขณะที่รายได้ต่อคนของชาวกัมพูชามีค่าเฉลี่ยเพียงเดือนละ 6,000 บาท จึงต้องการส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่าย ปัจจุบันมีสาขาในไทย 22 สาขา, กัมพูชา 4 สาขา และรอคิวเปิดเพิ่มอีกกว่า 20 สาขาในไทยและประเทศลาว

 


ผลตอบรับที่สูงขึ้น มองว่ามาจากการมุ่งสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง ใส่ใจในภาพลักษณ์ รวมถึงการพัฒนาโปรดักต์ให้ได้คุณภาพในราคาที่คุ้มค่า ทำให้คนจดจำสินค้าได้ง่าย โดยราคาชานม Am Tea เริ่มต้นราคา 19 บาท เนื่องจากในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ การที่จะไปซื้อเครื่องดื่มแก้วละ 50-100 บาท ทุกๆ วัน ก็อาจเป็นเรื่องลำบากสำหรับหลายคน จึงต้องการพัฒนาสินค้าที่ดีมีคุณภาพและตอบโจทย์ ไม่ตั้งราคาเอาเปรียบผู้บริโภคจนเกินไป แต่ก็จะมีเมนูให้เลือกหลากหลาย รวมทั้งสิ้นกว่า 60 เมนู เช่น ชาไต้หวัน, ชาไทย, ชาผลไม้, นมสด, อัญชันมะนาว, โกโก้ และเมนูชาไต้หวัน Sugar 0 Kcal พร้อมตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพที่กำลังเติบโตสูงขึ้นในไทย โดยมีจุดแข็งคือเรื่องรสชาติที่เข้มข้น หอมละมุน แตกต่างจากคู่แข่งที่ทำราคาเดียวกันในตลาด

 


สำหรับการขยายสาขาในไทย เริ่มทำตลาดตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 หรือเพียง 5 เดือนเท่านั้น เนื่องจากเกิดวิกฤติโควิด จึงไม่สามารถเดินทางไปขยายตลาดในกัมพูชาได้ ทำให้ต้องหันกลับมามองตลาดในบ้านเรา หลังจากเปิดสาขาในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนตุลาคม 2563 ก็มีลูกค้าแฟรนไชส์ซีติดต่อเข้ามากว่า 3 ราย ในช่วงแรกสาขาซอยอารีย์สามารถทำยอดขายได้ไม่มากนัก เพียง 20-50 แก้วต่อวันเท่านั้น แต่หลังจากไปออกบูธในงาน Smart SME Expo 2020 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ก็มีลูกค้าแฟรนไชส์ซีเข้ามาลงทุนจำนวนมาก จนต้องเดินทางไปเปิดสาขาวันเว้นวัน

 

 


ต่อมาช่วงฤดูหนาวเดือนธันวาคม 2563 ก็ได้รีโนเวทชั้น 5 ใหม่ เป็น Rooftop ชานมที่แรกในประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่ที่ดีขึ้น จนมีลูกค้าและบล็อกเกอร์เข้ามารีวิวจำนวนมาก โดยไม่ได้เสียค่าจ้าง บางรายขึ้นแฮชแท็กว่า #ชานมหลักสิบวิวหลักล้าน หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเป็นไวรัล คนLike&Share สาขาของเราและพูดถึง ชานม Am Tea ของเรามากยิ่งขึ้น ถึงขั้นมีคนมาต่อคิวเข้าร้าน จนมีเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถาม บอกว่าร้านเราทำให้รถติดทั้งซอย (หัวเราะ)

 



‘เรามองว่าช่วงหลังมานี้ผู้คนอาจไม่ได้ต้องการกินแต่ชานมไข่มุก เราจึงต้องใส่ใจกับคำว่า We don't just sell products, we sell the experience เพราะถ้าเราจะขายเพียงแค่ชานมไข่มุกอย่างเดียว ก็จะเกิดคำถามขึ้นมาว่าทำไมเขาต้องมาซื้อเรา เราจึงต้องพยายามให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจตั้งแต่เข้ามาในร้านแต่ละสาขา ยิ่งเมื่อได้ลองชิมรสชาติก็จะเกิดความประทับใจมากยิ่งขึ้น และด้วยสถานการณ์ตอนนี้เราไม่สามารถให้ผู้สนใจแฟรนไชส์ซีเข้ามาลงทุนกับเราได้ในราคาที่สูงมาก เพราะหลายคนก็กลัวความเสี่ยง เราจึงต้องทำสาขาต้นแบบของเราให้ดีที่สุด ให้เขาเห็นถึงความแข็งแรงมากมายที่แบรนด์เรามี’

 


ในอนาคตต้องการปรับรูปแบบธุรกิจเป็นคาเฟ่ เนื่องจากเจอโจทย์จากลูกค้าที่ต้องการมาสั่งสินค้าผ่านหน้าร้านและออนไลน์ ที่ต้องการมีทางเลือกการซื้ออาหารที่หลากหลายมากขึ้น พร้อมตัดสินใจเลือกเพิ่มเมนูกาแฟสด และขนมโตเกียวที่ทำได้ทั้งเมนูคาวหวานเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งลูกค้าแฟรนไชส์ซี ที่เซ็นต์สัญญาและเปิดร้านกับเราแล้ว ก็สามารถเพิ่มเมนูเหล่านี้เข้าไปได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียค่าแฟรนไชส์เพิ่ม เพียงเข้ามาเรียนสูตรและซื้ออุปกรณ์วัตถุดิบที่จำเป็น ก็สามารถเพิ่มเมนูเข้าไปได้ทันที ทำให้ช่วยสร้างรายได้ของคุณไปได้อีก

 


สำหรับสิ่งที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้รับคือ การเทรนนิ่งเรื่องสูตรชา พร้อมคู่มือ Operation Manual เพื่อการปฏิบัติงานในร้านให้ราบรื่นมากที่สุด เช่น โครงสร้างภายในร้านต้องมีตำแหน่งใดบ้าง, การบริหารจัดการควรเป็นอย่างไร, ยอดขายได้จำนวนเท่านี้ จะคืนทุนเมื่อไหร่, ต้นทุนต่อแก้วในแต่ละเมนูมีเท่าไหร่ ทำไมต้องวางราคาไว้เท่านี้ แล้วแต่ละแก้วจะได้กำไรเท่าไหร่ ฯลฯ นั่นก็เพื่อความโปร่งใส ตรงไปตรงมา และโอกาสเติบโตร่วมกันระหว่างแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีได้มากที่สุด

 


‘ทิศทางการพัฒนาของเรา มาจากทุกวันนี้ผู้คนต่างเสพโซเชียลที่ภาพลักษณ์หรูดูดี และมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น โปรดักต์เราก็มีความหลากหลายในราคาที่เข้าถึงง่าย บนแบรนด์ดิ้งที่แข็งแรง เรามองว่าลูกค้ารับรู้ได้ถึงความคุ้มค่า ซึ่งเราคงไม่โฟกัสกับการทำโปรโมชั่นลดราคาขายปลีกต่อแก้ว แต่จะให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ เพื่อให้ Am Tea อยู่ในตลาดนี้ได้นานที่สุด’

FB: Am Tea Thailand 
FB: Am Tea Cambodia 
Line : @amtea
Tel : 089-709-8888