โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

7 เรื่องที่จะทำให้ “ร้านอาหาร” ของคุณทำ Delivery รุ่ง

ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่องทาง Delivery เป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายสำคัญที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหาร ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในช่วงปีที่ผ่านมาทำให้การใช้บริการ Delivery มากขึ้น วันนี้ ชี้ช่องรวยจึงอยากจะมาแนะนำ 6 เรื่อง ที่จำทำให้ร้านอาหารใช้ช่องทางนี้เพิ่มยิดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันเลยว่าจะต้องทำเรื่องอะไรกันบ้าง

1.เลือกเมนูที่เหมาะสมกับ Delivery

เริ่มต้นจากการวิเคราะห์รายการอาหารที่คุณจะจัดส่งแบบ Delivery เพราะบางครั้งมีเมนูรายการอาหารบางอย่างไม่เหมาะสมกับการจัดส่งแบบ Delivery เช่นอาหารที่ต้องกินตอนร้อนๆ อาหารที่มีปริมาณน้ำมากๆ เป็นต้น ควรจะหาวิธีที่ทำให้อาหารคงภาพเหมือนทานที่ร้าน

2.ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม

การคิดค้นเรื่องบรรจุภัณฑ์ในการจัดส่งต้องสะดวก ห่อหุ้มอาหารให้ถึงลูกค้าอย่างปลอดภัย พร้อมกับรักษารูปลักษณ์ของอาหารให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างประทับใจ และสิ่งสำคัญคุณภาพของอาหารต้องคงที่ไม่ต่างจากการไปทานที่ร้าน ซึ่งแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าการสั่งอาหารมาทานแบบ Delivery ให้ความรู้สึกว่าไปทานที่ร้านดีกว่า ดังนั้นผู้ประกอบการต้องแก้จุดนี้ให้ได้

3.มีตัวเลือกที่หลากหลายกว่าเดิม

ประเมินกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แน่นอนบางทีรายการอาหารเดิมที่คุณมีอยู่อาจไม่พอต่อการจัดส่งในรูปแบบของ Delivery คุณอาจต้องค้นคิดเมนูอาหารใหม่ๆ เพื่อเข้าสู่หมวดหมู่นี้ให้ลูกค้าได้เลือก เพื่อให้การไปในแต่ละครั้ง ลูกค้าสั่งมากกว่า 1 รายการ อันเป็นการสร้างยอดขายที่มากขึ้น ภายใต้ต้นทุนค่าขนส่งที่เท่าเดิม แม้ว่าในบางร้านคุณจะบอกว่าราคาค่าขนส่งแยกออกจากรายการอาหารก็ตาม

4.ทำการประชาสัมพันธ์

ปัจจุบันนี้การประชาสัมพันธ์และการทำการตลาดผ่านระบบออนไลน์มีประสิทธิภาพมาก สามารถซื้อโฆษณารอบวงรัศมีพื้นที่ที่เราต้องการให้ลูกค้าเห็น ซึ่งในธุรกิจร้านอาหารมีความจำเป็น เพราะติดข้อจำกัดเรื่องเวลาในการจัดส่งสินค้า การปักหมุดร้านผ่านระบบ google ก็มีความจำเป็น ไม่น้อยไปกว่าการสร้าง facebook เพราะจะทำให้ลูกค้ามีช่องทางเข้ามาปรึกษา หรือสั่งรายการอาหารผ่านช่องทางนี้ได้อย่างสะดวก Line@ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มีประสิทธิภาพและต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ในระยะต้นก็ต้องทำโปรโมชั่นให้คนรู้จักด้วย

5.สร้างมาตรฐานให้คงที่

พยายามตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเมนูที่จัดส่งนั้นมีมาตรฐานเพียงพอ ระหว่างทางจัดส่งจะไม่ทำให้รูป รส เปลี่ยนแปลงไป มีมาตรฐานเดียวกันกับที่กินหน้าร้าน เรื่องแบบนี้บรรจุภัณฑ์มีส่วนสำคัญมาก นอกจากนี้ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนเมนูอยู่ตลอดเวลา เพราะอย่าลืมว่าคนเราต้องการประสบการณ์ใหม่ๆ ในการลิ้มลองอาหารอยู่ตลอดเวลา

6.เลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสม

ปัจจุบันนี้การตั้งกองรถขนส่งเพื่อจัดส่งอาหารในรูปแบบ Delivery ดูเป็นเรื่องล้าสมัยและต้นทุนสูง การหาพันธมิตรที่ทำด้านโลจิสติกส์ตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งในแต่ละแบรนด์จะมีการหัก % ที่แตกต่างกันออกไปควรเลือกใช้บริการให้เหมาะสม ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มช่วยให้การรับออร์เดอร์มีระบบที่ชัดเจนและแม่นยำ โดยเกิดข้อผิดพลาดหรือการตกหล่นได้น้อย แถมหากร้านของคุณยังไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก ก็ยังได้ใช้ช่องทางจากเว็บไซต์ของสื่อกลาง ในการประชาสัมพันธ์ร้านได้ในอีกช่องทางหนึ่งด้วย

7.ใช้รูปภาพดึงดูดความสนใจ

แน่นอนว่าการจะเลือกซื้ออาหารแบบ Delivery รูปภาพถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ดูน่าทาน และอยากซื้อมากขึ้น ผู้ประกอบการทำอย่างไรก็ได้ให้รูปที่ถ่ายออกมาแล้วเมื่อลูกค้าเห็นจะต้องอยากทานเมนูนั้น