คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ชุดใหญ่ มีมติให้ยกระดับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ใน 6 จังหวัด รวมถึง กรุงเทพมหานคร โดยห้ามนั่งรับประทานอาหารที่ร้าน และห้ามเดินทางออกนอกเขตพื้นที่ เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค. นี้เป็นต้นไป ได้แก่
กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, เชียงใหม่, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ ถูกยกระดับให้เป็น “พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” (สีแดงเข้ม) โดยมีรายละเอียดมาตรการดังนี้
- ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลมากกว่า 20 คน
- ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ให้ซื้อกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น โดยงดให้บริโภคในร้าน และเปิดให้บริการถึง 21.00 น.
- สนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ให้ปิดให้บริการ ยกเว้นสถานที่เป็นเอกเทศ ส่วนสนามกีฬาหรือสถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง เปิดให้บริการได้ไม่เกิน 21.00 น. และสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยไม่มีผู้ชม
- ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดบริการได้ตามปกติจนถึง 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ งดจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และงดให้บริการตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม และสวนสนุก
- ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน ให้เปิดบริการได้ตามปกติ แต่ไม่เกิน 23.00 น. สำหรับร้านที่เปิด 24 ชม. ให้เริ่มเปิดดำเนินการ 04.00 น.
- ให้ประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด งดการเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยไม่มีเหตุจำเป็นเพื่อลดการเดินทางที่อาจเสี่ยงต่อการติดโรค “อันนี้ไม่ใช่เคอร์ฟิว แต่ถ้าท่านมีเหตุจำเป็น ก็ต้องขอเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจ”
สำหรับ “พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” ถูกนิยามโดย ศบค. ว่าหมายถึงพื้นที่ที่มีผู้ป่วยมากกว่า 100 ราย ใน 1 สัปดาห์ ขณะเดียวกัน ศบค. ยังกำหนดให้ 45 จังหวัดเป็น “พื้นที่ควบคุมสูงสุด” (สีแดง) และอีก 26 จังหวัดเป็น “พื้นที่ควบคุม” (สีส้ม) ซึ่งจะมีมาตรการควบคุมโรคแบบลดหลั่นกันไป
นอกจากนี้ยังมีการสั่งให้ทุกจังหวัด งดจัดงานรื่นเริง และ WFH ขั้นสูงสุด
นอกจากการปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามระดับพื้นที่สถานการณ์ ศบค. ยังมีมติให้ปรับระยะเวลากักตัวเป็น 14 วัน สำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในทุกกรณี และให้ส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการ/ผู้ประกอบภาคเอกชน พิจารณามาตรการทำงานจากบ้าน (Work From Home – WFH) ขั้นสูงสุด