ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

แจกสูตร 5 เมนู “ขนมไทย” ทำกินเองก็ได้ ทำขายสร้างรายได้เสริมกำไรดี


ใครที่กำลังมองหาสูตรขนมไทยแท้ ๆ มาทางนี้ วันนี้ ชี้ช่องรวย มีเมนูขนมไทย ที่ใครหลายคนต้องชื่นชอบ ซึ่งจะบอกละเอียดตั้งแต่ส่วนผสม จนไปถึงขั้นตอนการทำพร้อมเคล็ดลับต่าง ๆ ที่คุณผู้อ่านสามารถทำตามได้ไม่ยอกและรับรองว่าอร่อยอย่างแน่นอน มาดูกันเลยว่าจะมีอะไรบ้าง

1.ขนมหม้อแกงไข่

ส่วนประกอบและวิธีทำขนมหม้อแกงไข่

  • ไข่เป็ด 10 ฟอง
  • หัวกะทิ 2½ ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
  • น้ำตาลปีบ 1 ½ ถ้วยตวง
  • ใบเตย 3 ใบ
  • หัวหอมเจียว 1 ถ้วยตวง
  • แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง  

วิธีทำขนมหม้อแกง

  1. ต่อยไข่เป็ดทั้ง 10 ฟองใส่ในภาชนะเติมน้ำตาลทราย น้ำตาลปีบ ขยำด้วยใบเตยให้ส่วนผสมเข้า กัน
  2. ละลายแป้งสาลีกับน้ำกะทิ 2 ถ้วย จากนั้นเทรวมกับไข่และส่วนผสมที่เตรียมไว้ ตีส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
  3. กรองส่วนผสมในข้อ 2 ด้วยผ้าขาวบาง
  4. ตักส่วนผสมใส่ลงในพิมพ์หรือถาดจนหมด จากนั้นเทหัวกะทิลงในพิมพ์หรือถาดแต่ละอัน
  5. นำขนมเข้าไปอบอุณหภูมิที่ 200 เซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  6. เมื่ออบจนสุกแล้วนำขนมออกมาโรยด้วยหอมเจียว

เคล็ดลับความอร่อย

1.ขนมหม้อแกงไข่ที่อร่อยต้องมีความมัน ในส่วนผสมจึงต้องใช้หัวกะทิที่มีความเข้มข้น

2.การตีไข่ควรตีให้ไข่ขาวแตกตัวจนขึ้นนวล

3.การอบต้องใช้ไฟบนน้อยกว่าไฟล่าง  

2.ขนมปุยฝ้าย

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

  • แป้งสาลี 450 กรัม
  • เอสพี 1 ช้อนโต๊ะ 
  • ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 250 กรัม
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • นมข้น 1/2 กระป๋อง
  • น้ำสะอาด 2 ถ้วยตวง
  • สีผสมอาหาร (เลือกสีตามความต้องการ)
  • กลิ่นมะลิ (หรือตามชอบ)
  • ลูกเกด (สำหรับแต่งหน้า)

วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน

  1. ผสมเอสพี น้ำตาลทรายและน้ำ 1 ถ้วยเข้าด้วยกัน จากนั้นคนด้วยเครื่องตีไข่ ระหว่างคนตอกไข่ลงไป 2 ฟองและคนต่อไปเรื่อยๆ
  2. นำผงฟูผสมกับแป้งสาลี แล้วนำไปร่อน จากนั้นจึงใส่ผสมลงไปกับส่วนผสมที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1 คนต่อไปให้เข้ากันทั่ว
  3. ใส่น้ำ 1 ถ้วยตวง, นมข้น และน้ำมะนาว คนหรือตีต่อไปจนส่วนผสมขึ้นขาว จึงใส่สีและกลิ่นตามความชอ
  4. จากนั้นนำส่วนผสมไปหยอดลงในแบบหรือพิมพ์ที่เตรียมไว้ แต่งหน้าด้วยลูกเกด (แล้วแต่ความชอบ) และนำไปนึ่งโดยใช้ไฟแรงๆ ประมาณ 10 นาทีหรือจนสุก จึงยกลง
  5. ทิ้งไว้ให้เย็น สามารถนำไปเสริฟทานได้ทันที

 3.ขนมเทียนแก้ว

ส่วนผสม

  • ถั่วทองนึ่งสุกบดละเอียด 250 กรัม
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย (สำหรับกวนถั่ว) 250 กรัม
  • กะทิ (สำหรับกวนถั่ว) 250 กรัม
  • แป้งถั่วเขียว 500 กรัม
  • กะทิ (สำหรับกวนตัวแป้ง) 250 กรัม
  • น้ำตาลทราย (สำหรับกวนแป้ง) 100 กรัม
  • ใบตองสำหรับห่อ หรือทำกระทง

วิธีทำ

  1. เตรียมทำไส้ โดยนำถั่วทองสุกบด ผสมกับน้ำตาลทราย, กะทิ และเกลือ นำไปตั้งบนไฟร้อน ปานกลาง กวนจนส่วนผสมเหนียวข้นพอปั้นได้ จึงปิดไฟ พักไว้ให้เย็น แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนกลมเล็กๆ วางพักไว้ในถาดแบน
  2. เตรียมทำตัวแป้งโดยนำกะทิ ผสมกับน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน จากนั้นจึงนำไปตั้งบนไฟอ่อน กวนจนแป้งสุกใส จึงปิดไฟ (ถ้าต้องการให้ตัวแป้งมีสี สามารถใส่สีผสมเข้าไปได้ในขั้นตอนการกวน)
  3. เตรียมใบตองโดยตัดเป็นวงกลมให้ได้ตามขนาดกระทงที่ต้องการ จากนั้นจึงใส่ตัวไส้ลงไปในกระทง และตามด้วยตัวแป้ง (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 2) ทิ้งไว้ให้เย็น ก็เสริฟรับประทานได้

 4.ขนมอาลัว

ส่วนผสม

  • แป้งสาลี 1 1/2 ถ้วยตวง
  • แป้งถั่วเขียว 1/2 ถ้วยตวง
  • แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำลอยดอกมะลิ 6 ถ้วยตวง
  • มะพร้าวขูด 350 กรัม
  • น้ำตาลทราย 5 1/2 ถ้วยตวง
  • สีผสมอาหาร (บางสีอาจใช้ดอกไม้หรือใบไม้ได้ เช่น สีเขียว – ใบเตย, สีม่วง – ดอกอัญชัญ)

วิธีทำ

  1. นำมะพร้าวขูดไปผสมกับน้ำลอยดอกมะลิ จากนั้นนำไปคั้นจนได้น้ำกระทิ
  2. นำแป้งสาลี, แป้งถั่วเขียว และแป้งมันร่อนผสมกัน
  3. นำน้ำกะทิผสมกับแป้งและน้ำตาล คนจนละลายเข้ากันดี จึงนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง เสร็จแล้วนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง ใส่สีผสมอาหารลงไป และกวนเรื่อยจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี (แป้งจะมีลักษณะเหนียวใสๆ ถ้านำไปหยอดในน้ำ แล้วแป้งยังคงรูปอยู่ก็เป็นอันใช้ได้)
  4. นำน้ำแป้งที่ได้ตักใส่ถุงบีบ แล้วจึงบีบลงในถาดที่ทาเนยขาวบาง ๆ แล้วจึงนำไปตากแดดสัก 2 – 3 แดด เสร็จแล้วนำไปอบควันเทียน
  5. จัดใส่จานเสริฟได้ทันที หรือใส่กระปุกมิดชิดเก็บไว้รับประทานภายหลังได้

5.เม็ดขนุน

ส่วนผสมและสัดส่วน

  • ถั่วทอง หรือ ถั่วเขียวซีก 2 ถ้วย
  • หัวกะทิ ¼ ถ้วย
  • มะพร้าวขูด ¼ ถ้วย
  • ไข่แดงไข่เป็ด 10 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • น้ำลอยดอกมะลิ 3 ถ้วย (ทำน้ำเชื่อม)
  • น้ำตาลทราย 3 ถ้วย (ทำน้ำเชื่อม)

  วิธีปรุง

  1. นำถั่วทองแช่น้ำทิ้งไว้ก่อนเริ่มทำ (แนะนำให้แช่ก่อนนอน ตอนเช้าใช้ได้เลย) พอถั่วนิ่มแล้วนำมานึ่งจนสุก
  2. บดถั่วให้ละเอียด แล้วผสมกับหัวกะทิ มะพร้าวขูด
  3. นำลงไปกวนในกระทะทองเหลืองให้เข้ากัน
  4. เติมน้ำตาลทราย แล้วกวนต่อจนส่วนผสมแห้งปั้นได้
  5. ปั้นถั่วเป็นลูกรีๆ พักไว้
  6. ตีไข่แดงให้เข้ากันกรองด้วยกระชอนเพื่อไม่ให้มีเศษของไข่ขาว
  7. นำน้ำลอยดอกมะลิกับน้ำตาลทรายใส่ในกระทะทองเหลืองแล้วมาตั้งไฟ รอให้นำตาลละลาย ไม่ต้องคน พอน้ำตาลละลายและเดือดแล้ว ให้นำตะแกรงตาถี่มาตักเอาเศษหรือกากที่ไม่ต้องการออก จะได้น้ำเชื่อมที่ใส ปิดไฟ
  8. นำถั่วที่ปั้นไว้ชุบไข่แดง แล้วหยอดลงในน้ำเชื่อมขณะที่น้ำเชื่อมยังร้อนอยู่ พอหยอดเต็มแล้ว เปิดไฟอีกครั้ง
  9. เปิดไฟให้น้ำเชื่อมเดือดอีกครั้งจนไข่สุก แล้วช้อนขึ้นก็จะได้เม็ดขนุนที่เหลืองสวยเป็นเงา

เคล็ดลับน่ารู้

  • ไข่ที่ใช้ชุบเม็ดขนุนจะต้องเป็นไข่ที่สดมากๆ เพราะจะติดเม็ดขนุนมากกว่าไข่ที่ไม่สด
  • ไม่ควรใส่มะพร้าวหรือกะทิในส่วนผสมของถั่วมากเกินไปเพราะจะทำให้เนื้อลื่น ชุบไข่ไม่ค่อยติด
  • ความใสความข้นของน้ำเชื่อมก็มีผลต่อการชุบไข่เช่นกัน ถ้าน้ำเชื่อมใสเกินไปไข่ก็จะไม่ค่อยติด หากต้องการให้ติดไข่หนาหน่อย ควรเคี่ยวน้ำตาลให้นานขึ้น เพื่อให้น้ำเชื่อมข้น