โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

ปลูก “แก้วมังกร” ในกระถาง พื้นที่น้อยก็ปลูกได้ ปีแรกได้ผลผลิต 50 ผล ต่อ 1 กระถาง

แก้วมังกร เป็นพืชตระกูลตะบองเพชรจึงเป็นพืชที่ชอบอากาศร้อนและแดดจัด สำหรับการปลูกแก้วมังกรนั้นจึงต้องเตรียมพื้นที่ให้อยู่ในที่โล่งแจ้ง ไม่มีร่มเงา ของต้นไม้อื่นมาบังต้นแก้วมังกรจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีและออกดอกออกผลได้อย่างน่าพอใจ และถือเป็นผลไม้ยอดนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 - 100 บาท

แก้วมังกรสามารถปลูกได้ในทุกสภาพดิน เช่น ดินปนทราย ดินเหนียว ดินลูกรัง สำหรับดินเหนียวและดินลูกรังต้องมีการปรับหน้าดินด้วยการใช้ปุ๋ยคอกและแกลบดำ ในการปรับสภาพดิน อีกประการหนึ่งต้นแก้วมังกร เป็นต้นไม้ที่ชอบอาศัยอยู่ในดินโปร่ง ร่วนซุย ไม่แน่นจนเกินไป และสามารถระบายน้ำได้ดี สำหรับการปลูก มีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือ การปลูกในกระถางและการปลูกในแปลงปลูกทั่วไป

ประโยชน์ของแก้วมังกร

  1. ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ชุ่มชื้น
  2. เป็นผลไม้ที่ช่วยดับร้อน ดับกระหายได้เป็นอย่างดี
  3. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรง
  4. แก้วมังกรลดน้ำหนักและช่วยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย เนื่องจากเป็นผลไม้
  5. ตัวช่วยในเรื่องการลดความอ้วนเนื่องจากมีแคลอรี่ต่ำ
  6. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัยความแก่ชรา และริ้วรอยต่าง ๆ
  7. มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
  8. ช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ
  9. มีส่วนในการช่วยรักษาโรคเบาหวาน
  10. ช่วยบรรเทาอาการโรคความดันโลหิตได้
  11. มีส่วนช่วยบรรเทาอาการของโรคโลหิตจาง
  12. มีส่วนช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง
  13. ช่วยกระตุ้นการขับน้ำนมในสตรี
  14. ช่วยดูดซับสารพิษต่าง ๆออกจากร่างกาย เช่น สารตกค้างอย่างตะกั่ว ที่มาจากควันท่อไอเสีย หรือสารตกค้างที่มาจากยาฆ่าแมลง
  15. ช่วยบำรุงกระดูกและฟันของคุณให้แข็งแรง
  16. มีกากใยสูงช่วยในการขับถ่ายให้สะดวก แก้อาการท้องผูก
  17. ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ แก้ปัญหาการขับถ่ายต่าง ๆให้ดีขึ้น
  18. มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
  19. ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบกำจัดของเสียในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น
  20. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่นิยมนำมารับประทานเป็นผลไม้สด
  21. ใช้เป็นส่วนผสมในฟรุตสลัดและน้ำปั่นผลไม้


วัสดุ - อุปกรณ์ ในการปลูก

  1. ท่อน้ำทิ้งข้างในกลวง หน้ากว้าง 4 นิ้ว ยาว1.3 เมตร (หรือเสาไม้ก็ได้)
  2. กระถางหน้ากว้าง 50 ซม.
  3. คานหรือค้างอาจทำจากไม้ หรือปูนเป็นรูป 4 เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง x ยาว 30 ซม.
  4. ขุยมะพร้าว
  5. ดิน
  6. เชือกฟาง

วิธีการปลูก

  1. ใส่ขุยมะพร้าวรองก้นกระถาง เพื่อให้น้ำถ่ายเทได้ดีในอัตราส่วน 1 ใน 3 ของปริมาตรกระถาง จากนั้นนำดินสำเร็จรูปผสมกับขุยมะพร้าวหรือแกลบดำ ใส่ลงไปในกระถางจนถึงขอบกระถาง
  2. นำต้นแก้วมังกรมาปลูกให้ชิดกับเสา แล้วใช้เชือกฟางมัดต้นแก้วมังกรให้ติดกับเสา ไม่ต้องมัดให้แน่นมาก ควรผูกไว้จนกว่าต้นแก้วมังกรจะเจริญเติบโตจนพ้นหัวเสา
  3. จากนั้นนำดินมากลบด้านบนของกระถางเป็นอันเสร็จ ต้นแก้วมังกรเป็นสามเหลี่ยมแต่จะมีอยู่ด้านหนึ่งที่เป็นด้านแบนดังนั้น เวลาผูกต้นแก้วมังกรให้จับด้านแบนของต้นเข้ากับหลักเพราะว่าด้านแบนเป็นด้านที่จะออกราก

การดูแลแก้วมังกรในกระถาง

  • การรดน้ำ ให้รดน้ำเพียง 1 ครั้ง ภายใน 2-3 วัน และไม่ควรรดมากเกินไป เพราะอาจทำให้เป็นโรคโคนเน่าได้
  • การให้ปุ๋ยใส่ปุ๋ยทุก 15 วัน ใส่ครั้งละ 2-4 ช้อนโต๊ะ สูตรที่ใช้ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หลังจากใส่ปุ๋ยแล้วต้องรดน้ำติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน (วันละครั้งเช้าหรือเย็นก็ได้) ถ้ามีปุ๋ยคอก เช่น มูลไก่ หรือมูลวัวก็ใช้ได้ และให้ใส่เดือนละ 1 ครั้ง เมื่อปลูกได้เป็นระยะเวลา 6 เดือน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ผสมกับ 15-15-15 ในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่ง

ผลผลิต

เมื่อแก้วมังกรอายุได้ 8 เดือน – 1 ปี ก็จะเริ่มให้ผลผลิตประมาณ 30 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 2 ประมาณ 50 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 3 ประมาณ 100-200 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 4-15 ประมาณ 300 ผลต่อหนึ่งค้างขึ้นไป ขนาดของผลโดยเฉลี่ยประมาณ 3-4 ผลต่อหนึ่งกิโลกรัม ราคาขาย 50 – 100 ต่อกิโลกรัม