ไขข้อข้องใจ “ติดเครดิตบูโร” ขอกู้สินเชื่อต่างๆ ได้หรือไม่ ?

เชื่อว่าหลายคนคงมีความกังวลเกี่ยวกับ “เครดิตบูโร” วันนี้ ชี้ช่องรวย จะมาบอกให้รู้ว่าเครดิตบูโร คืออะไร มีผลกระทบอย่างไรเกี่ยวกับการขอสินเชื่อบ้าง

เครดิตบูโร คืออะไร?

หลายคนทักเข้าใจว่าเครดิตบูโรหมายถึงการค้างชำระหนี้เป็นระยะเวลานาน หรือการไม่จ่ายหนี้ ส่งผลทำให้ติดบัญชีดำ หรือ แบล็คลิส จนไม่สามารถทำให้ขอสินเชื่ออื่น ๆ ได้ ในความเข้าใจนี้ไม่ถูกต้องทั้งหมด โดยเฉพาะ แบล็คลิส ไม่มีอยู่จริง

เครดิตบูโร หรือบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด คือองค์กรกลางที่จัดเก็บข้อมูลบัญชีสินเชื่อ และประวัติการชำระสินเชื่อทุกประเภท ซึ่งข้อมูลจะมาจากสถาบันการเงิน พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ สมุดบันทึกความประพฤติของเรานั่นเอง

โดยเครดิตบูโรจะจัดเก็บข้อมูลเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลบ่งชี้ และข้อมูลสินเชื่อ โดยข้อมูลบางส่วนสามารถดูได้จาก “รายงานข้อมูลเครดิต”

• ข้อมูลบ่งชี้ เป็นข้อมูลที่แสดงตัวตนของคุณ เช่น ชื่อ ที่อยู่ วันเกิด การสมรส อาชีพ เลขบัตรประชาชน และหรือถ้าเป็นนิติบุคคลจะแสดง ชื่อ สถานที่ตั้ง เลขที่หรือทะเบียนนิติบุคคล
• ข้อมูลสินเชื่อ เป็นข้อมูลการอนุมัติว่าผ่านหรือไม่ผ่าน รวมถึงประวัติในการชำระสินเชื่อ เช่น มีบัตรเครดิตมากี่ใบ ขอกู้รถมากี่ครั้ง ขอสินเชื่อบ้านมากี่หลัง ได้วงเงินเท่าไหร่ สถานะบัญชีเป็นไง ผ่อนตรงตามงวดไหม ชำระงวดละเท่าไหร่

หากติด บูโร แล้ว สามารถซื้อบ้านออกรถ ขอสินเชื่อ ได้หรือไม่ ?

อย่างที่อธิบายข้างต้นแล้วว่า เครดิตบูโรจะไม่มีการบันทึกสถานะว่า ติดบูโร แต่จะมีการเก็บประวัติการชำระหนี้ และสถานะบัญชีเท่านั้น ซึ่งเวลาจะกู้ซื้อบ้านหรือออกรถใหม่ สถาบันการเงินจะใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งหากประวัติการชำระในเครดิตบูโรของคุณไม่ดี ค้างชำระบ่อย ๆ และยังปิดหนี้เดิมไม่หมด สถาบันการเงินเค้าก็มีสิทธิที่จะไม่อนุมัติสินเชื่อให้กับคุณ เพราะเค้าก็กลัวเสี่ยงไม่ได้เงินคืน

แต่ถึงอย่างไรอยากจะแนะนำว่าเราควรจะ ปิดหนี้เดิมให้หมดก่อน และหลังจากนั้นก็รอไป 3 ปีจนประวัติค้างชำระหายไป ระหว่างนั้นก็ทำประวัติให้ขาวสะอาด เดินบัญชีธนาคารให้ดี มีเงินเข้าออกสม่ำเสมอ จ่ายบัตรเครดิตให้เต็มวงเงิน และมีเงินเก็บเอาไว้บ้าง

เครดิตบูโร ติดกี่ปีหมด?

คำตอบคือ 3 ปี เพราะโดยปกติแล้วธนาคารหรือสถาบันการเงินจะส่งข้อมูลประวัติติดค้างชำระมาให้ทางเครดิตบูโรทุกเดือน ไม่ว่าจะค้างชำระ หรือชำระตามงวดปกติ

ซึ่งเครดิตบูโรจะบันทึกข้อมูลซ้อนกันไปเรื่อยๆ ทั้งหมดครบ 36 แถว (36 เดือน) และแถวข้อมูลใหม่ที่เข้ามาก็จะแทนที่ข้อมูลเก่า ประวัติอันล่างสุดจะถูกลบไป

สรุป

เครดิตบูโร เป็นข้อมูลบ่งชี้ และข้อมูลประวัติสินเชื่อ เท่านั้น ซึ่งจะเป็นตัวหลักในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ แต่ทั้งนี้การอนุมัติจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละสถาบันการเงิน