เอ็กซิมแบงก์เชิญเอสเอ็มอีไทยไปหาตลาดใหม่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่กว่าในประเทศ สร้างกำไรมากกว่าเดิมกว่า 2 เท่าตัว เริ่มต้นจากตลาด CLMV แล้วขยายไปตลาดตะวันตก โดยเอ็มซิมแบงก์มีสินเชื่อและโซลูชั่นการช่วยเหลือเอสเอ็มอีต่าง ๆ มากมาย
งาน มหกรรม “ Smart SME EXPO 2022” จัดเสวนา“SME Game Changer : พลิกเกมธุรกิจพิชิตส่งออก” เพื่อเสริมสร้างศักยภาพแก่ผู้ประกอบการ SMEs โดย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ดร.รักษ์ เอสเอ็มอีส่วนใหญ่เป็นนักวิ่งในระยะสั้น ค้าขายในประเทศ ทำได้เพียงระยะเดียว เราควรผันตัวไปในกลุ่มวิ่งระยะไกล ไม่งั้นเราจะอยู่ในตลาดขาลง กระเป๋าสตางค์ของลูกค้าพึงประสงค์ 91% เพื่อใช้หนี้ ส่วนที่เหลือเพียง 9 บาทใช้ในปัจจุบัน ต้องคิดใหม่ ส่วนหนึ่งขายในประเทศ แต่เราต้องส่งออก อย่างน้อยขายในอาเซียน ใน CLMV มี 200 ล้านคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเรา ใครที่ขาย CLMV ได้รายได้จะมากกว่าขายในประเทศมากกว่า 2 เท่าตัว ระยะถัดไปเป็นระยะความฝันคือข้ามน้ำข้ามทะเลไปฝั่งตะวันตกอีก 3,000 ล้านคน
การเป็นผู้ส่งออกมารายได้มากกว่าในประเทศ 4 เท่า เพราะประชากรที่เป็นลูกค้ามีมากกว่า กำไรสุทธิมีเพิ่มประมาณ 2 เท่าคน ตัวอย่าง กาแฟไทยด้วยดินของคนไทย มีรสชาติต่างจากที่อื่นเป็นเอกลักษณ์ การส่งออกปัจจุบันนี้ไม่ยากเพราะมี เอ็กซิมแบงก์เป็นผู้สนับสนุน
ปัจจุบันเราไม่ใช่เสือตัวที่ 5 ค่าแรงเราไม่ใช่ข้อได้เปรียบ นักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยไปลงทุนในประเทศที่ได้เปรียบด้านค่าแรงมากกว่า ไทยเราจะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ แต่เราจะทำธุรกิจเดิมเช่น ในกลุ่มฟอกย้อม เรามีนิคมอุตสาหกรรมใน CLMV ย้ายไปอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเขาได้ อนาคตไม่ได้อยู่ในแผ่นดินไทย ต้องหาพื้นที่ที่แข่งขันได้ด้านแรงงาน
ในอาเซียน เรื่องการส่งออกไทยเป็นอันดับ 4 สิ่งที่ท้าทายคือค่าแรงขึ้น อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ค่าระวางสินค้าขึ้น เงินเฟ้อสูง ความเสี่ยงของคู่ค้าก็สูง ทำให้มาร์จินลดลง เอ็กซิมแบงก์ช่วยเอสเอ็มอี เรื่องการซื้อประกันการส่งออก เพื่อลดความเสี่ยง
การเป็นเอสเอ็มอีต้องทำคือ
1. เป็นอินเตอร์หรือส่งออก กำไรมากกว่า 1 เท่า
2. อินโนเวชั่น หรือนวัตกรรม สามารถเพิ่มขึ้น 1,000 เท่า
3. ไฝ่หาความรู้ เพราะโลกสถานการณ์เปลี่ยนตลอด ต้องแสวงหาความรู้ไม่หยุดนิ่ง
4. ต้องซื้อประกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เราคาดว่าจะเกิดขึ้น ควรมีการซื้อค่าเงินล่วงหน้า หรือประกันเงินแลกเปลี่ยน
ใน CLMV มีเอ็กซิมแบงก์หรือธนาคารเพื่อการส่งออกอยู่ทุกประเทศ ในแต่ละประเทศต้องการสินค้าอะไร ทางเอ็กซิมแบงก์ได้มีข้อมูลมากอยู่แล้ว เพียงแค่เลือกสินค้า ขายกันที่หน้าจอ พอเข้มแข็งแล้วถึงค่อยไปน่านน้ำที่ลึกกว่านั้นคือ ยุโรปและอเมริกา การจัดงานอีเว้นท์ของคนไทยได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากใน CLMV และเป็นอันดับ 5 ของโลก
ถ้าต้องการส่งออกต้องมี 3 พิกัด
1. ในโลกนี้กว่า 3 ล้านคนรักษ์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นต้องมีสิ่งนี้ เป็นเป้าหมายความสำเร็จด้านการส่งออก ต้องเป็นขวดแก้ว ขวดพลาสติกต้องย่อยสลายได้
2. ลูกค้ารักสบาย อุปกรณ์เบ็ดเสร็จในอย่างเดียว ม้วนเดียวจบ ไม่มากขั้นตอน
3. รักตัวเอง ตลาดส่วนใหญ่เน้นเรื่องสุขภาพ ในประเทศไทยคนกว่า 1 แสนคนรับประทานอาหารเสริม เราต้องให้ได้ใบรับรองมาตรฐาน แต่ตลาดนี้เจาะยากมากเพราะต้องเจาะด้วยหมอ ในอนาคตคนจะรับประทานน้ำตาลต่ำ โซเดียมต่ำ ถ้าต้องการที่จะอยู่ในเกมของอาหารต้องทั้งสะอาด และกรีน และทำอาหารในกลุ่มอาหารแห่งอนาคต หรืออาหารเฉพาะด้าน
ลูกค้าเปิดใหม่ยอดสั่งซื้อใหม่ 1 ล้านบาท ทำประกัน 5,000 บาท นอกจากนี้เอ็กซิมแบงก์ให้สินเชื่อ 2% เพื่อปรับประสิทธิภาพของโรงงาน เช่นเปลี่ยนโรงงานให้เป็นระบบที่ทันสมัย เป็นสินเชื่อให้ไปเกิดใหม่
ถ้าต้องการเข้าอาบลีบา ๆ มาเรียนหนังสือก่อนว่าค้าขายอย่างไร ต้นทุนการขายมากู้เอ็กซิมแบงก์ จะได้เปิดการขายได้
นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อเพื่อการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยไม่ต้องลงทุน โดย 5 ปีแรกสิทธิเป็นของ ปตท. หลังจากนั้นเป็นของเจ้าของโรงงาน สุดท้ายอยากให้เอสเอ็มอีออกจากพื้นที่ปลอดภัย กล้าที่จะไปรุกตลาดต่างประเทศ ทีละขั้นทีละตอน