การจัดของภายในร้านให้ “ขายดี” มีวิธีจัดอยู่มากมายหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า แต่ถ้าใช้หลักในทางฮวงจุ้ย ก็จะใช้หลักของ “หยิน-หยาง” เสือขาว-มังกรเขียว และการจัดตามกระแสเข้า-ออกภายในร้าน
การจัดแบบหยิน-หยาง ถือเป็นหลักพื้นฐานทั่วไป โดยมีหลักให้พิจารณาง่ายๆ คือ ให้พิจารณาขนาดของห้องกับจำนวนสินค้าที่จะขาย จะต้องอยู่ในสัดส่วนที่สมดุลกัน ประเภทห้องใหญ่ของน้อย หรือห้องเล็กของมาก ถือว่าผิดหลักฮวงจุ้ยครับ พูดง่ายๆ ของที่นำมาวางภายในร้านจะต้องเหมาะกับขนาดของห้องนั่นเอง
การจัดของภายในร้านที่ลงตัว เวลาลูกค้าเดินเข้าร้านจะรู้สึกดี ไม่อึดอัด เดินดูสินค้าได้อย่างสบาย แต่ร้านส่วนใหญ่มักจะวางของกันแน่นร้าน เพื่อใช้พื้นที่ให้คุ้มที่สุด จนลืมนึกถึงความสะดวกสบายของลูกค้า
นอกจากนี้ การนำหลักหยิน-หยางมาใช้จัดร้านนั้น จะต้องยึดข้อบัญญัติที่ว่า “หน้าเคลื่อนไหว หลังนิ่ง” เป็นประเด็นสำคัญอีกด้วย เพราะฉะนั้นบริเวณประตูร้านจึงห้ามวางของเกะกะในลักษณะที่ขวางประตูทางเข้า หน้าทางเข้าร้านควรปล่อยโล่งเป็นโถง เพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหว ส่วนบริเวณหลังร้าน ควรจะวางของที่เป็นตู้โชว์ หรือของหนักๆ ที่ไม่มีการเคลื่อนที่ได้ ห้ามเป็นช่องทางเดิน หรือประตูหลังร้าน เพราะจะเข้าข่ายเคลื่อนไหวสองด้าน
นั่นเป็นการจัดแบบยึดหลักหยิน-หยาง คราวนี้มาดูการจัดแบบเสือขาว-มังกรเขียว ซึ่งวิธีจะคล้ายกับแบบแรก คือ เน้นการจัดของแบบเคลื่อนไหวและนิ่งเหมือนกัน โดยความหมายของตำแหน่งเสือขาวคือ นิ่ง อยู่ “ด้านขวา” ของร้าน ส่วนมังกรเขียวคือ เคลื่อนไหว อยู่ “ด้านซ้าย” ของร้าน
เพราะฉะนั้น การจัดสินค้าควรแยกประเภทของที่นิ่งเอาไว้ด้านเสือ ส่วนของที่เคลื่อนไหวเอาไว้ด้านมังกร ของนิ่งส่วนใหญ่จะเป็นตู้โชว์ ชั้นวางของ ส่วนของเคลื่อนไหวมักจะเป็นของที่ขายได้ง่ายและเร็ว หรือเป็นทางเดินภายในร้านก็ได้
การนำหลักเสือขาว-มังกรเขียวมาใช้ในการจัดร้าน อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของการวางตำแหน่งตายตัวมากเกินไป เช่น ด้านซ้ายของร้านจะต้องเคลื่อนไหวอย่างเดียว ด้านขวาจะต้องนิ่งอย่างเดียว ซึ่งในทางปฏิบัติจริงอาจทำไม่ได้ หรือไม่เหมาะกับร้านค้าบางประเภท ถ้าร้านใครมีปัญหาเรื่องนี้ ลองใช้วิธีที่สามดูก็ได้ครับ คือวิธีการดูกระแสของลูกค้าร้าน โดยมีหลักง่ายๆ ดังนี้
1. ลูกค้าเดินมาทางซ้าย วางสินค้าด้านขวา
2. ลูกค้าเดินมาทางขวา วางสินค้าด้านซ้าย
3. ลูกค้าเดินมาตรงกลาง วางสินค้าตรงกลาง
คำว่า วางสินค้าด้านซ้าย ขวา หรือกลาง หมายถึงสินค้าที่มีความโดดเด่นของร้าน เช่น สินค้าใหม่ สินค้าขายดี เพราะมุมด้านนั้นถือว่าเด่นกว่าด้านอื่นในร้าน คนเดินเข้าร้านจะมองเห็นตำแหน่งนี้ก่อน
คงจะพอเข้าใจหลักในการจัดสินค้าหรือของภายในร้านกันพอสังเขปว่าจัดวางอย่างไรถึงจะขายสินค้าได้ง่าย และเป็นที่สนใจของลูกค้า ลองนำไปปรับใช้กันดู