เดิมที คุณชวโรจน์ เป็นคนชอบทำงานฝีมือและทำงานประดิษฐ์ขาย หารายได้เสริมตั้งแต่สมัยเรียน เริ่มจากการสกรีนเสื้อ พวงกุญแจ จนเรียนจบด้านออกแบบผลิตภัณฑ์ และได้ทำงานประจำแล้ว ก็ยังไม่หยุดที่จะทำสินค้าแฮนด์เมดมาจำหน่าย แต่จะเปลี่ยนไปก็ตรงที่ตอนนี้เขาเน้นทำนาฬิกาแฮนด์เมดเพียงอย่างเดียว
“ผมตั้งโจทย์ขึ้นมาว่า จะทำอย่างไรให้สินค้ามีความต่าง ซึ่งในท้องตลาดก็มีการนำนาฬิกามาดัดแปลงแล้วขายอยู่มาก แต่เป็นการถักสายนาฬิกาเป็นส่วนใหญ่ เมื่อถามถึงความแตกต่าง ผมได้ข้อสรุปว่า จะทำนาฬิกาที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ซึ่งจะใช้หน้าปัดนาฬิกาเป็นกรอบรูป ที่สามารถบอกเวลาและพกพาได้ เพราะยังไม่มีใครทำมาก่อน และมองว่าลูกค้าจะต้องชอบ หากมีนาฬิกาที่หน้าปัดเป็นรูปของตัวเองหรือคนที่รัก” คุณชวโรจน์ เล่าให้ฟังถึงสาเหตุที่เลือกใช้หน้าปัดนาฬิกาเป็นจุดเด่นสร้างมูลค่าเพิ่ม
ในช่วงเริ่มต้น เขาใช้เวลาศึกษาเกี่ยวกับส่วนประกอบต่างๆ ของนาฬิกา กับต้องฝึกการถอดและประกอบตัวนาฬิกาอยู่นานเกือบเดือน ก่อนจะเริ่มชำนาญมากขึ้น และเริ่มรับทำนาฬิกาด้วยเงินลงทุน เพียง 4,000 บาท วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ ประกอบด้วย นาฬิกาข้อมือ โดยเลือกใช้นาฬิกาที่มีหน้าปัดทรงกลมที่สามารถแกะได้ เครื่องพรินเตอร์ กระดาษสติ๊กเกอร์ มีดสำหรับการตัดสติ๊กเกอร์ กรรไกร และอุปกรณ์สำหรับแกะนาฬิกา ที่เขาประดิษฐ์และคิดขึ้นมาเพื่อใช้งานเอง และลองขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต
ปรากฏว่าไอเดียนี้มีคนซื้อ ลูกค้าติดต่อเข้ามาเพื่อให้ทำนาฬิกาโดยตลอด ตั้งราคาขายอยู่ที่เรือนละ 360 บาท คิดกำไรจากต้นทุนวัสดุและฝีมือ 50% ของราคาขาย ปัจจุบันมีลูกค้าสั่งนาฬิกาเข้ามา เฉลี่ยอยู่ที่ 30 เรือนต่อเดือน โดยวิธีการจำหน่ายนั้นสามารถสั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์ และ Facebook โดยลูกค้าที่สนใจจะต้องเข้าไปเลือกรูปแบบนาฬิกาก่อน จากนั้นส่งรูปที่ต้องการมาทาง Email หรือ Line พร้อมโอนเงินจำนวน 360 บาท (ไม่รวมค่าจัดส่ง) หลังจากนั้นรอเป็นระยะเวลา 7 วัน คุณชวโรจน์ จะจัดส่งสินค้าผ่านทางไปรษณีย์ไปให้
คุณชวโรจน์ บอกว่า ถึงจะมีงานประจำแล้ว ก็ยังเลือกทำในสิ่งที่ชอบ และทำเป็นอาชีพเสริมอยู่ เพราะมองว่า ตลาดของงานแฮนด์เมดนั้น ยังมีโอกาสสร้างรายได้อยู่ ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาการประดิษฐ์สิ่งอื่นออกมาจำหน่ายให้มากขึ้น ที่วางแผนไว้แล้ว และกำลังศึกษาการถอดประกอบนาฬิกาแขวนผนังอยู่ รูปแบบที่จะประดิษฐ์ออกมานั้น จะเหมือนกับนาฬิกาข้อมือโดยใช้รูปภาพเป็นหน้าปัดนาฬิกา
“การที่เริ่มทำอะไรก็แล้วแต่ หากเป็นสิ่งที่ชอบจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้ สามารถขับเคลื่อนให้เราทำในสิ่งนั้นออกมาดี นอกจากนั้นจะต้องมีความพยายาม เพราะไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ไม่ประสบความสำเร็จในครั้งแรกอย่างแน่นอน ฉะนั้นจะต้องพยายามทำ เชื่อมั่นในตนเอง และทำต่อไป จะทำให้เราประสบความสำเร็จเอง” คุณชวโรจน์ กล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปเลือกซื้อนาฬิกาได้ที่ www.handmade-watch-me.com Facebook : handmadewatchme หรือ โทร. 08-1366-2495
วัสดุอุปกรณ์
1. นาฬิกาข้อมือ เลือกใช้นาฬิกาที่มีหน้าปัดทรงกลม
2.เครื่องพรินเตอร์
3.กระดาษสติ๊กเกอร์
4.มีด สำหรับการตัดสติ๊กเกอร์
5.กรรไกร
6.อุปกรณ์สำหรับแกะนาฬิกา
ขั้นตอนการทำ
1. วัดความกว้างของหน้าปัดนาฬิกาที่ต้องการทำ จากนั้นใช้รูปภาพที่ต้องการ นำไปจัดสัดส่วนภาพ ให้สามารถวางลงที่หน้าปัดของนาฬิกาได้ เมื่อตกแต่งรูปภาพในโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว พรินต์ลงในกระดาษสติ๊กเกอร์ ตัดตามแบบของนาฬิกา
2. แกะนาฬิกาออก โดยเริ่มจากฝาหลัง ถอดเม็ดมะยม และนำตัวเครื่องนาฬิกาออกจากตัวเรือน นำผ้ามาเช็ดทำความสะอาดกระจกนาฬิกาด้านใน ไม่ให้มีคราบ สิ่งสกปรก หรือฝุ่นละอองติดอยู่ ต่อมาจึงถอดเข็มนาฬิกาออกจากหน้าปัด
3. เมื่อถอดเข็มออกหมดแล้ว ให้ดูที่พื้นผิวที่จะนำสติ๊กเกอร์ที่พรินต์ไปติด จะต้องเรียบ ไม่มีรอยนูน จากนั้นนำสติ๊กเกอร์รูปภาพที่เตรียมไว้ มาติดแล้วรีดอากาศออกให้หมด
4. จากนั้นใส่เข็มนาฬิกากลับเข้าไป จัดให้เข็มตรงตามตำแหน่ง ทำการประกอบเครื่องนาฬิกาเข้ากับตัวเรือนให้เรียบร้อย ตรวจสอบให้เข็มนาฬิกาเดินตามปกติ
Food Truck ที่ดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมในขณะนี้ จนธุรกิจแฟรนไชส์อาหารและเครื่องดื่มหลากหลายค่ายให้ความสนใจ ปรับเปลี่ยนให้มาอยู่ในรูปแบบร้านมากขึ้น แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เข้าใจรูปแบบของธุรกิจมากเท่าที่ควรวันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะมาบอก 6 เรื่องสำคัญต้อ
ใครที่กำลังคิดจะเปิดร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด สินค้าราคาเดียว ห้ามพลาดสิ่งนี้ วันนี้ ชี้ช่องรวย มีเทคนิคดีๆ มานำเสนอกันอีกแล้ว กับ 3 รูปแบบ 9 วิธี สำหรับขายสินค้าเบ็ดเตล็ด สินค้าราคาเดียว ที่จะทำให้ร้านของคุณนั้นประสบความสำเร็จ มียอดขายทะลุเป้าได้ไม่ยากหากทำ
การทำธุรกิจอะไรก็ตามแต่ การมีทำเลที่ดี ก็จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ดั่งคำที่ว่า “ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” แต่รู้หรือไม่ว่าต่อให้ทำเลดีแค่ไหน หากไม่เหมาะกับธุรกิจนั้นๆ มันก็ไม่มีประโยชน์ วันนี้ ชี้ช่องรวยจึงอยากจะมาแนะนำ 6 ประเภทภาพรวมว่าควรจะเลือกทำเลแบบไหนถึงจะดีที่สุด 1.โฮมออฟฟิศ ปัจจุบันโฮมออฟฟิศเป็นที่นิยมมากของผู้ประกอบการรายใหม่ โดยการดัดแปลงห้องภายในบ้านให้กลายเป็นที่ทำงาน แน่นอนว่าการใช้ที่พักอาศัยเป็นที่ทำงานจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่ข้อเสียที่ต้องทำใจคือ อาจพักผ่อนได้ไม่เต็มที่เพราะหันไปทางไหนก็มีแต่กองงาน และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะทำให้ขาดแรงกระตุ้น แรงบันดาลใจต่างๆ ดังนั้นคุณควรช่างน้ำหนักให้ดีว่าจะเลือกความเป็นส่วนตัวหรือเลือกงาน หากเลือกความเป็นส่วนตัวก็ควรเลือกทำที่สงบ ถ้าต้องการมีแรงกระตุ้นในการทำงาน ควรเลือกทำเลที่มีคนพลุกพล่าน นอกจากนี้คุณควรคำนึงถึงหลักกฎหมายด้วยว่าบ้านของคุณสามารถดัดแปลงเป็นที่ทำงานได้หรือไม่ 2. แฟรนไชส์ ร้านค้าปลีก หรือการบริการต่างๆ รูปแบบนี้เราอาจจะพบเห็นกันโดยทั่วไป ซึ่งหลักการสำหรับร้านขายปลีก และร้านบริกานั้นจะต้องเป็นจุดสังเกต ดึงดูดลูกค้า เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ตลาด ย่านชุมชน หรือเลือกทำเลที่อยู่ใกล้กับกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากเปิดร้านเครื่องเขียนก็ควรตั้งอยู่ใกล้โรงเรียน ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นควรตั้งอยู่ในศูนย์การค้า ร้านอาหารตามสั่งอยู่ในแหล่งที่มีหอพัก เป็นต้น ทั้งนี้ข้อควรระวังอีกอย่างคือ อย่าตั้งร้านใกล้ร้านดังที่ขายสินค้า และบริการแบบเดียวกับคุณเด็ดขาด เพราะมีความเสี่ยงที่ลูกค้าจะไม่ใช้บริการร้านเปิดใหม่ของคุณ 3.ธุรกิจเคลื่อนที่ หรือ Food truck หากคุณจะทำธุรกิจเคลื่อนที่ คุณจำเป็นต้องมีพาหนะที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณเสียก่อน ซึ่งพาหนะนี่แหละที่จะพาสินค้าและบริการของคุณไปสู่ทำเลที่ดี […]
