โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

ชี้ช่องรวย แนะอาชีพเลี้ยง “ตะพาบน้ำ” ในบ่อซีเมนต์ สร้างรายได้หลักแสน

“ตะพาบ” ถือเป็นสัตว์อีกหนึ่งชนิดที่มีคนให้ความนิยมเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีคนให้ความสนใจเพาะเลี้ยงขาย ด้วยความที่ว่าตะพาบเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายตายยาก สามารถอยู่อาศัยได้ทุกสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะตะพาบน้ำพันธุ์ไทยที่มีอายุยืนเป็นสิบๆ ปี น้ำหนักตัวอาจสูงถึง 100 กิโลกรัม ที่สำคัญราคาจำหน่ายดีอีกด้วย น้ำหนักอยู่ที่ 800 กรัม ถึง 1 กิโลกรัม ต่อตัว ราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 220 บาท

วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะมาแนะนำวิธีการเลี้ยง ตะพาบน้ำ สร้างอาชีพสร้างรายได้ให้ทราบกันว่าจะต้องทำอย่างไร และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

การเลือกสถานที่เลี้ยงตะพาบน้ำ ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกสถานที่เลี้ยงตะพาบน้ำ

1. ต้องเป็นน้ำจืดสามารถถ่ายเทน้ำได้สะดวก
2. บ่อเลี้ยงควรเป็นบ่อดินหรือมีโคลน
3. บ่อเลี้ยงตะพาบควรเป็นบริเวณที่มีความเงียบสงบ
4. ไม่ควรอยู่ใกล้กับโรงงานอุตสาหกรรมหรือแหล่งชุมชน
5. การคมนาคมสะดวกและใกล้แหล่งของตลาด
6. บ่อเลี้ยงตะพาบอยู่ใกล้บริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก

บ่อเลี้ยงตะพาบน้ำ แบ่งออกได้ 3 ลักษณะ คือ

1. บ่อพ่อแม่พันธุ์
2. บ่อเลี้ยงตะพาบส่งตลาด
3. บ่ออนุบาล

บ่อพ่อแม่พันธุ์ ถ้าผู้เลี้ยงจะเลี้ยงตะพาบเพื่อจำหน่ายเป็นตะพาบเนื้อ บ่อพ่อแม่พันธุ์ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสร้าง แต่ถ้าจะเลี้ยงแบบต่อเนื่องหรือครบวงจรแล้ว บ่อพ่อแม่พันธุ์จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการที่เราเพาะลูกตะพาบได้ เองจะเป็นการลดต้นทุนการผลิตได้อย่างแน่นอน บ่อเลี้ยงตะพาบจะแบ่งออกเป็น3 ส่วน คือ ส่วนที่อยู่อาศัย ส่วนที่ให้อาหารและที่สำหรับวางไข่ แล้ว บ่อพ่อแม่พันธุ์จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการที่เราเพาะลูกตะพาบได้ เองจะเป็นการลดต้นทุนการผลิตได้อย่างแน่นอน บ่อเลี้ยงตะพาบจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่อยู่อาศัย ส่วนที่ให้อาหาร และที่สำหรับวางไข่

ตะพาบน้ำจะอาศัยอยู่ทุกบริเวณของพื้นที่ในบ่อเลี้ยง บ่อเลี้ยงควรมีผนังบ่อเป็นคอนกรีตให้สูงประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อป้องกันตะพาบหลบหนี และผนังคอนกรีตควรเทคอนกรีตลึกลงไปในดินอีกประมาณ 70 เซนติเมตร เพื่อป้องกันตะพาบขุดดินหนี ส่วนพื้นที่บ่อควรเป็นดินเหนียวขนาดของบ่อเลี้ยง ตะพาบน้ำพ่อแม่พันธุ์ไม่มีการกำหนดพื้นที่ตายตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนพ่อแม่พันธุ์

ส่วนที่ให้อาหาร ควรมีความสำคัญประการหนึ่ง ซึ่งจะสร้างให้อยู่ภายในบริเวณที่อยู่อาศัยนั่นเองเหตุที่จะต้องสร้างที่ให้อาหารโดยเฉพาะก็เพราะว่าตะพาบน้ำชอบอาศัยในบ่อที่มีความสะอาด น้ำไม่เน่าเสีย ถ้าให้อาหารภายในบ่อโดยตรง โดยที่ไม่มีบริเวณที่ให้อาหารจะทำให้เศษอาหารที่เหลือเน่าเสีย และทำให้น้ำเสียเร็วขึ้น ทั้งยังทำให้ตะพาบเจริญเติบโตช้าไม่แข็งแรงอาจเกิดโรคได้

บริเวณที่ให้อาหาร อาจสร้างเป็นเนินลาดชันไปจากตัวบ่อและวาง อาหารไว้บนเนิน หรือสร้างคันเตี้ย ๆ กั้นระหว่างที่วางอาหารกับส่วนที่อยู่อาศัยให้แยกจากกันเพื่อป้องกันไม่ให้เศษอาหารเหลือตกลงไปในบ่อทำให้น้ำเน่าเสีย

โรงเรือนเพาะฟักไข่ตะพาบน้ำ อาจจะสร้างไว้ภายในบ่อพ่อแม่พันธุ์หรือแยกส่วนออกไปต่างหากก็ได้ บริเวณฟักไข่จะทำเป็นคอกคอนกรีตรูปสี่เหลี่ยมขนาด 2 x 4 เมตร มีความสูงประมาณ 50เซนติเมตร อาจจะใช้อิฐบล็อกกั้นเป็นผนังบ่อก็ได้ โดยปรับพื้นบ่อให้เรียบ แล้วนำทรายน้ำจืดที่สะอาดใส่ลงไปให้สูงประมาณ 30 เซนติเมตร เพื่อเตรียมไว้ฝังไข่ภายในบ่อฟักไข่ใช้อ่างน้ำดินเผาขนาดปากกว้างประมาณ 12 นิ้ว หรือก่อเป็นอ่างปูนกว้างประมาณ15-20 นิ้ว ฝังไว้ให้เสมอกับพื้นทรายเป็นระยะ ๆ ทใส่น้ำให้เต็ม เพื่อเตรียมไว้ให้ลูกตะพาบน้ำลงไปในอ่างหลังจากฟักออกจากไข่

โรงฟักไข่หรือคอกฟักไข่ จะต้องสร้างหลังคาคลุมไว้เพื่อป้องกันฝนซึ่งจะทำให้ทรายมีความชื้นมากเกินความจำเป็น และควรกั้นผนังโดยรอบเพื่อป้องกันศัตรูที่จะมากินไข่ตะพาบน้ำได้ คอกฟักไข่ออกแบบได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่

บ่อเลี้ยงตะพาบน้ำส่งตลาด

บ่อขุนตะพาบน้ำมีไว้เพื่อเลี้ยงตะพาบที่คัดออกจากบ่ออนุบาล แล้วนำมาเลี้ยงจนถึงขนาดที่จะส่งขายได้ ซึ่งต้องใช้เวลาตั้งแต่ 8-12 เดือน ก็จะได้ น้ำหนักตัวประมาณ 6 ขีด -1 กิโลกรัมได้ขนาดตามที่ตลาดต้องการ บ่อขุน ตะพาบน้ำนั้นมีลักษณะการสร้างบ่อเป็นแบบเดียวกับพ่อแม่พันธุ์ แต่ความลึก อาจตื้นกว่าเล็กน้อย ส่วนเนินทรายสำหรับวางไข่ไม่มีความจำเป็น บ่อขุนตะพาบ น้ำอาจมีหลังคาพรางแสง โดยใช้ตะข่ายสีดำทำเป็นหลังคาเพื่อช่วยลดอุณหภูมิ

บ่อใช้เลี้ยงตะพาบมี 2 แบบ

บ่อคอนกรีต เหมาะสำหรับสร้างในพื้นที่ที่เป็นดอนหรือดินทราย ซึ่งเก็บน้ำไม่อยู่โดยก่อสร้างบ่อคอนกรีตโบกปูนด้านล่างตลอด เพื่อกันน้ำไม่ให้รั่วซึมใส่ดินเหนียวตกแต่งให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุดแล้วใส่ผักตบชวาบางส่วน

บ่อดิน จะเป็นบ่อที่กว้าง มีความจำเป็นที่จะต้องก่ออิฐโบกปูนโดยรอบบ่อ ความสูงประมาณ 80เซนติเมตร-1 เมตร เพื่อป้องกันตะพาบหลบหนี ในบ่อควรสร้างเป็นร้านขนาดพื้นที่ 4 ตารางเมตรสามารถให้ตะพาบน้ำคลานขึ้นมาพักผ่อนได้เช่นกัน ในบ่อควรใส่ผักตบชวาเพื่อให้เป็นร่มเงา หรือที่สำหรับตะพาบน้ำหลบซ่อนได้

ระดับน้ำที่ใช้ในการเลี้ยงตะพาบน้ำ บ่ออนุบาลตะพาบน้ำควรมีระดับ น้ำประมาณ 20 เซนติเมตรบ่อเลี้ยงตะพาบเพื่อส่งออก ระดับน้ำประมาณ 40-80 เซนติเมตร

อัตราการปล่อยตะพาบน้ำลงบ่อ บ่อพ่อแม่พันธุ์ปล่อยในอัตรา 3-5 ตัว/ตารางเมตร ขนาดตะพาบน้ำฟักออกจากไข่ได้ประมาณ 3 วัน ปล่อยในอัตรา 50 ตัว/ตารางเมตร ตะพาบน้ำอายุได้ 2 เดือน ปล่อยในอัตรา 20 - 25 ตัว/ตารางเมตร ตะพาบน้ำอายุได้ 6 เดือน ปล่อยในอัตรา 3 – 5 ตัว/ตารางเมตร อัตราการเจริญเติบโตของตะพาบน้ำ ตะพาบน้ำที่ฟักออกจากไข่ ได้ประมาณ 3 วัน จะมีน้ำหนัก 25 ตัว/1 ขีด หรือ 250 ตัว/กิโลกรัม ตะพาบน้ำที่มีอายุได้ประมาณ 2 เดือน จะมีน้ำหนักประมาณ 0.5 ขีดตะพาบน้ำ ที่มีอายุประมาณ 4 เดือน จะได้น้ำหนักประมาณ 1 ขีด

ตะพาบน้ำอายุได้ประมาณ 6 เดือน จะมีน้ำหนักประมาณ 2 ขีด ตะพาบน้ำ อายุได้ประมาณ 7-16เดือน จะมีน้ำหนักประมาณ 3 ขีด-1 กิโลกรัม สำหรับผู้บริโภคหรือขนาดที่ตลาดต้องการ ตะพาบน้ำขนาดตั้งแต่ 4-7 ขีด ส่วนผู้ซื้อที่ ต้องการซื้อไปเป็นพ่อแม่พันธุ์ควรมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 6 ขีดขึ้นไป