ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

เช็ก! ความเชื่อมั่น SMEs ต่อเศรษฐกิจและธุรกิจในไตรมาส 4/2565 เติบโตมากน้อยแค่ไหน


ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดทำผลการสำรวจดัชนีเชื่อมั่น SMEs ต่อเศรษฐกิจและธุรกิจในไตรมาส 4/2565 พร้อมคาดการณ์อนาคต

ผลการสำรวจ พบว่าความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ และธุรกิจในไตรมาส 4 อยู่ที่ 65.66 เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ซึ่งมีดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ 56.82 โดยปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นเพิ่มสูงขึ้นมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวและต่างชาติที่เพิ่มขึ้น มาตรการเปิดประเทศที่ช่วยความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและธุรกิจ และสถานการณ์โควิดที่ทำให้ธุรกิจกลับมาดำเนินการได้อย่างปกติ

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น มีดังต่อไปนี้
• นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น คิดเป็น 37%
• มาตรการเปิดประเทศ คิดเป็น 17.40%
• สถานการณ์โควิดคลี่คลายลง คิดเป็น 13.80%
• กำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น และเศรษฐกิจโดยรวมที่ดีขึ้น คิดเป็น 13.00%

เมื่อพิจารณาดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEs ใน 4 ด้านระหว่างไตรมาสที่ 2-4 พบว่า SMEs เชื่อมั่นว่าผลประกอบการ การลงทุน และสภาพคล่องของธุรกิจเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 SMEs มีความกังวลต่อต้นทุนการประกอบการสูงใกล้เคียงไตรมาสก่อน

ประเด็นที่น่าสนใจ ในไตรมาส 4 กำไรของผู้ประกอบการ SMEs ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงสถานการณ์โควิด โดยภาพรวม SMEs ที่ยังไม่ฟื้นตัวมีกำไรลดลงเฉลี่ยร้อยละ 17.99 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด ซึ่งปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 โดยกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ขนาด Micro และภาคบริการมีการฟื้นตัวที่เด่นชัดกว่ากลุ่มอื่น

ส่วนแนวทางการบริหารต้นทุนทางการเงิน หลังการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสถาบันทางการเงิน SMEs มีแนวทางการจัดการต้นทุนทางการเงินโดยการเจรจาต่อรองกับธนาคารเพื่อคงอัตราดอกเบี้ย คิดเป็นร้อยละ 50.40 และหาแหล่งเงินกู้ใหม่เพื่อทำการ Refinance เงินกู้เดิม คิดเป็นร้อยละ 30

 

แยกแนวทางในการจัดการต้นทุนทางการเงิน หลังจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน
• เจรจาต่อรองกับธนาคารเพื่อให้คงอัตราดอกเบี้ยเดิม คิดเป็น 50.40%
• หาแหล่งเงินกู้ใหม่ที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า (refinance) คิดเป็น 30.00%
• ลดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นแทน คิดเป็น 6.40%
• ใช้เงินทุนส่วนตัวชำระคืนเงินต้นคงเหลือ 1.60%
• ลดการลงทุน คิดเป็น 1.20%