ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

“มาโนอิ” แบรนด์แรกของไทย ที่ทำให้ชานมไข่มุกกับการรักสุขภาพ เดินไปด้วยกันได้


แม้ธุรกิจชานมในประเทศไทย จะเป็นแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้ซื้อสินค้า End-user มากมายที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ กังวลเรื่องส่วนผสมบางอย่างที่ทำให้อ้วนหรือน้ำหนักขึ้น โดยเฉพาะน้ำตาลและไขมันทรานส์ ครั้งนี้เราจึงแนะนำให้รู้จัก MANOI แฟรนไชส์ชานมไข่มุกที่จะมาฮีลใจ คนรักสุขภาพ แต่นิยมความกลมกล่อมของชานม

 

ร้านชานมไข่มุก MANOI (มาโนอิ) ก่อตั้งมาจากความต้องการทำธุรกิจชานม ไปพร้อมกับการดูแลใส่ใจสุขภาพของตัวเจ้าของแบรนด์ ซึ่งออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ด้วยความชื่นชอบดื่มชานมทำให้ยังคงอ้วนอยู่ จากการเริ่มต้นศึกษาวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ส่งผลดีต่อร่างกาย พร้อมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากมาย จึงตัดสินใจพัฒนาการใช้ความหวานจากธรรมชาติที่ช่วยเผาผลาญได้จริง มาใช้ทดแทนน้ำตาลไฮฟรุกโตสคอร์นไซรัป หรือที่เรียกว่าน้ำเชื่อมข้าวโพดชนิดฟรุกโตส ซึ่งมีอยู่ตามร้านชานมทั่ว ๆ ไป เนื่องจากเป็นน้ำตาลสังเคราะห์ที่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงมากมาย เช่น โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน และไขมันพอกตับรวมถึงการเลือกใช้วัตถุดิบไม่มีไขมันทรานส์ ไม่ใส่สารกันบูด ส่วนชาและไข่มุกก็ต้มสดใหม่วันต่อวัน

MANOI เปิดสาขาแรกที่อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อปี 2561 กับเงินทุน 1 แสนบาท หลังจากลูกค้าให้การตอบรับอย่างคับคั่ง และมีผู้ขอซื้อแฟรนไชส์ จึงเข้าไปศึกษาการสร้างระบบแฟรนไชส์มาตรฐานจากหลายสถาบัน พร้อมใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ “ป่าล้อมเมือง” เพื่อขยายธุรกิจอย่างมั่นคงจึงไม่เร่งขยายจนเกินไป เมื่อเฟรนไชส์ซีซื้อแล้วพร้อมดูแลกันต่อเนื่อง ปัจจุบันขยายสาขาไปแล้วทั้งสิ้น 113 แห่ง ทั่วประเทศ และเตรียมขยายธุรกิจไปยัง CLMV เร็ว ๆ นี้

 

 

ในแง่จุดเด่นของการทำธุรกิจแฟรนไชส์ ผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูง เจ้าของร้านสามารถออกแบบด้วยตนเอง ภายใต้คอนเซปต์ขาวคลีน มินิมอล มีซุ้มโค้ง และยังนำขนมหรืออาหารอื่นมาขายควบคู่กันกับเครื่องดื่มได้ ทั้ง MANOI ยังมีระบบการบริหารจัดการที่ได้มาตรฐาน เช่น ระบบการสั่งซื้อสินค้า ระบบการเคลมกรณีสินค้าเสียหาย มีทีมบริการหลังการขายคอยซัพพอร์ทและให้คำปรึกษาด้านการบริหารร้าน ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ยอดขาย การบริหารพนักงาน การลงระบบ Delivery การวางแผนภาษี ไปจนถึงให้เครื่องมือสำหรับผลิตสื่อโฆษณา พร้อมการฝึกอบรมให้รอบด้านผ่านการฝึกฝนในสถานที่ขายจริงจนกว่าจะชำนาญ และอัพเดทเมนูใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีเมนูรวมทั้งสิ้นมากกว่า 63 เมนู แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ ชานม นมสด น้ำผลไม้ผสมโซดา ชาผลไม้ ชาไทย และมัทฉะ ซิกเนเจอร์เมนู คือ ชานมไต้หวัน โกโก้พรีเมียม และสตรอเบอร์รี่โกโก้พรีเมียมคุ๊กกี้ครีม

 

 

อีกความพิเศษที่ทำให้ MANOI ขยายตลาดได้อย่างรวดเร็วคือ ราคาขายปลีกที่เริ่มต้นเพียงแก้วละ 19 บาท จนถึง 59 บาท กำไรต่อแก้วสูงถึง 50% แต่ยังคงความคุ้มค่า เนื่องจากวัตถุดิบที่เสาะแสวงหามาจากต้นน้ำ ได้ถูกผสมผสานกันอย่างลงตัวได้รสชาติชานมไต้หวันที่ถูกปากคนไทย เช่น ใบชาที่ผ่านกระบวนการบ่มตามกรรมวิธีแบบไต้หวัน ไข่มุกที่ใช้มันสัมปะหลังสดของไทยผสานกับเครื่องปรุงของไต้หวัน ผงมัทฉะจากยอดชาเขียวแท้ 100% นำเข้ามาจากเมืองนิชิโอะ ประเทศญี่ปุ่น
รวมถึงท็อปปิ้งอื่น ๆ อย่าง บุกผลไม้ ไข่มุกบราวน์ชูก้า บุกแคลลอรี่ต่ำ ไข่มุกป๊อปโยเกิร์ต และเนื้อว่านหางจระเข้ที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ

 

 

 

 

 

การลงทุนแฟรนไชส์ MANOI มีให้เลือกทั้งสิ้น 4 รูปแบบ เริ่มต้นเพียง 39,900 บาท กับเซ็ต MANOI Delivery ขายได้ทุกที่ไม่ต้องมีหน้าร้าน ถัดมาเซ็ต MANOI Save Cost ราคา 69,900 บาท เหมาะสำหรับทำเลตลาดนัด ถนนคนเดิน หน้าบ้าน หน้าสำนักงาน เซ็ต MANOI Standard ราคา 99,900 บาท เหมาะสำหรับขายในอาคารสำนักงานหรือห้างสรรพสินค้า เซ็ต MANOI Stand-alone ราคา 199,900 บาท เหมาะสำหรับตั้งในพื้นที่โล่ง โดยทุกรูปแบบจะได้รับวัตถุดิบและอุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน

จากสถิติผู้ลงทุนแฟรนไชส์ MANOI พบว่ามีตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยเกษียณ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ดื่มได้ทุกเพศทุกวัย เรียกได้ว่าเป็นแฟรนไชส์ชานมไข่มุกรายแรก ๆ ที่ผสานเรื่องสุขภาพเข้ากับธุรกิจได้อย่างลงตัว อัตราการคืนทุนขึ้นอยู่กับค่าเช่าทำเลและงบประมาณการลงทุนเป็นหลัก แต่ก็มีผู้ลงทุนจำนวนไม่น้อยที่นิยมซื้อแฟรนไชส์ไปวางขายเพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ ซึ่งเป็นอีกเทรนด์การลงทุนที่ช่วยสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจได้

 

ยกตัวอย่าง คุณสาโรจน์ บุญเรือน แฟรนไชส์ซี MANOI สาขาอยุธยา ซึ่งเปิดร้านมาเพียง 1 ปี แต่สามารถคืนทุนได้ตั้งแต่ 3 เดือนแรก “ผมเลือกลงทุน MANOI เพราะชอบสไตล์ร้านแบบมินิมอล ราคาขายยังเข้าถึงง่ายเพียง 19 บาท และดีต่อสุขภาพด้วย อีกอย่างคือแฟรนไชส์ซอร์มีความยืดหยุ่นมาก เราสามารถเอาวาฟเฟิลมาขายเสริมได้ ปัจจุบันมีฐานลูกค้าประจำ ยอดขายต่อวันไม่ต่ำกว่า 100 แก้ว”

 

 

คุณจีรวัฒน์ มงคลทิพย์ แฟรนไชส์ซี MANOI สาขาลำปาง คนรุ่นใหม่ วัยเพียง 24 ปี ที่ตัดสินใจลงทุนฟรนไชส์ MANOI ถึง 2 สาขาในจังหวัดลำปาง “ผมตกงานช่วงโควิดแรก ๆ เลยนำเงินมาลงทุน MANOI สาขาแรกที่อำเภองาว จังหวัดลำปาง เพราะชอบการดีไซน์ร้านที่ดูน่ารัก และมีโลโก้กระต่ายจดจำง่าย หลังจากมีรายได้เริ่มแน่นอน จึงเปิดสาขาต่อมาที่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ปัจจุบันรายได้รวม 2 สาขาอยู่ที่หลักแสนบาทลูกค้าที่มาซื้อส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเด็ก และวัยรุ่น ผมชอบ MANOI ตรงที่เวลามีปัญหาจะโทรติดทันที และมีเมนูใหม่มาให้เราเอาไปเพิ่มยอดขายอยู่ตลอดเวลา”

จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ทำให้ MANOI เดิบโตมาอย่างต่อเนื่อง คือเรื่องการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์เทรนด์การรักสุขภาพของผู้คนที่กำลังมาแรง บวกกับการมีพาร์ทเนอร์ผู้ค้าส่งวัตถุดิบที่มีศักยภาพ สามารถควบคุมต้นทุนและคุณภาพได้ดี และเรื่องของการดีไซน์ร้านยังเรียบง่ายสบายตา แต่ให้ความรู้สึกโดดเด่นเข้ากับยุคสมัย พร้อมระบบต่าง ๆ คอยซัพพอร์ทตลอดเวลา ซึ่งสะท้อนถึงความจริงใจในการเป็นคู่ค้า จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ตลาด Red Ocean ชาไข่มุกของไทย จะมีชื่อ MANOI อยู่ในใจกลุ่ม End-user และผู้ลงทุนเป็นเบอร์ต้น ๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม
Facebook Page: https://www.facebook.com/manoith
Website: https://www.manoithailand.com/