ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

กฎหมายคุ้มครองแรงงาน ที่ ม.33 ต้องรู้ “ถูกเลิกจ้าง” แบบไหน หมดสิทธิได้รับเงินทดแทน


กฎหมายคุ้มครองแรงงาน และประกันสังคมจะให้ความช่วยเหลือ ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ออกจากงานและอยู่ในสถานะว่างงาน ถูกไล่ออก ถูกเลิกจ้าง ว่างงาน โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามข้อกำหนด และไม่ได้มีการกระทำความผิดใดๆ แต่หากเป็นกรณีที่ผู้ประกันตนเป็นผู้กระทำความผิด หรือมีเหตุบางข้อที่เข้าข่ายเงื่อนไขทำให้นายจ้างสามารถให้ออกจากงานได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้ประกันตนจะไม่สามารถรับสิทธิชดเชย หรือเงินทดแทนใดๆ ได้ ตามกรณีดังต่อไปนี้ 

ทุจริตทำผิดกฎหมาย

หากลูกจ้างทุจริตต่อหน้าที่กระทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง เช่น ลูกจ้างกระทำการโกงเงิน ยักยอกเงิน หรือแสวงหาผลประโยชน์จากบริษัทเพื่อไปเป็นของตัวเอง

จงใจทำให้บริษัทฯ เสียหาย

ลูกจ้างทำโดยความตั้งใจ หรือเจตนาที่จะสร้างความเสียหายให้กับนายจ้าง หรือบริษัท ถือว่าเข้าข่ายกระทำความผิดโดยบริษัทสามารถเลิกจ้างได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า

ฝ่าฝืนข้อบังคับร้ายแรง

การทำงานย่อมมีกฎระเบียบข้อบังคับ หรือคำสั่งจากนายจ้างที่ต้องถือเป็นข้อถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากลูกจ้างกระทำการฝ่าฝืนหรือทำผิดระเบียบอย่างร้ายแรง หรือกระทำความผิดซ้ำๆ แม้ได้รับจดหมายตักเตือนแล้ว

ไม่มาทำงานติดต่อกัน 7 วัน

ลูกจ้างละทิ้งหน้าที่โดยไม่แจ้งลา ไม่บอกกล่าวล่วงหน้าติดต่อไม่ได้ต่อเนื่อง 7 วัน และทำให้นายจ้างหรือบริษัทได้รับความเสียหาย และไม่มีเหตุผลอธิบายการละทิ้งหน้าที่อย่างสมเหตุสมผลมากพอ

ประมาทเลินเล่อ

การกระทําการใดๆ โดยปราศจากความระมัดระวัง หรือละเลยในสิ่งที่ควรกระทํา ทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง

ติดคุกและต้องโทษคดี

ลูกจ้างที่กระทำความผิดและถูกศาลพิพากษาให้รับโทษจำคุก นายจ้างมีสิทธิให้ออกจากงานได้ทันที และลูกจ้างไม่สามารถเรียกร้องขอค่าชดเชยหรือเงินทดแทนต่างๆ ได้

การถูกเลิกจ้าง หรือให้ออกจากงานอาจเป็นสิ่งที่หลายๆ คน ไม่อยากให้เกิดขึ้น ยิ่งกรณีที่ไม่ได้เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า อาจยิ่งทำให้ลำบาก ยิ่งการออกโดยมีความผิดติดตัว นอกจากจะเสียโอกาสดีๆแล้ว ยังเสียโอกาสในการรับสิทธิประโยชน์และความคุ้มครองต่างๆ ด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง