ถ้าพูดถึงเรื่องเครื่องดื่มสักอย่างหนึ่ง หลายคนต่างก็คงมีเครื่องดื่มในดวงใจทั้งเมนูน้ำผลไม้แบบเย็นและปั่น กาแฟ เบียร์หรือน้ำโซดาเพื่อคลายร้อนเพิ่มความสดชื่น แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เมนูชา ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของเครื่องดื่มที่คนไทยนิยมดื่มเป็นประจำ โดยเฉพาะชานมไข่มุกที่ดื่มกันทุกเพศทุกวัยและแตกแขนงออกไปผสมกับวัตถุดิบอื่น ๆ อีกมากมาย ทว่าเมนูคลาสสิกอย่าง ชาไทย ก็ยังคงเป็นที่ 1 ในใจของหลายคน และต้นกำเนิด ชาไทย ก็มาจากแบรนด์ตำนานในวัยเด็กอย่าง ชาตรามือ นี่เอง วันนี้เราจะพาไปดูจุดเริ่มต้นของทั้ง ชาตรามือ และ ชาไทย ว่ามีที่มาอย่างไร…
จุดเริ่มต้น ชาตรามือ ตำนานแบรนด์ชาของไทย
เรื่องราวจุดเริ่มต้นต้องเล่าย้อนกลับไปในปี พ.ศ.2463 หรือประมาณ 103 ปีก่อน ทางพี่ชายคนที่สามของพ่อเจ้าของชื่อ ซาแป่ ได้พาพี่น้องอพยพจากประเทศจีน เมืองแต้จิ๋ว เข้ามาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ประเทศไทย ผ่านไป 5 ปี คุณซาแป่ ก็ได้ริเรื่มก่อตั้งร้านชาจีนชื่อ ลิมเมงกี ที่เฉลิมบุรี ถนนเยาวราช โดยจะมีชาจีน ชาอู่หลง ชาเขียว ทั้งหมดนำเข้าโดยตรงจากจีน
ธุรกิจกำลังไปได้ด้วยดีตลอด 20 ปี จนมาปี พ.ศ.2488 หรือ ค.ศ.1945 ตรงกับปีที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 พอดี และร้านก็ถูกทำลายจากระเบิด จากผลกระทบของสงครามทำให้ต้องย้ายร้านไปซอยผดุงด้าว ถนนเยาวราช ซึ่งสินค้าภายในร้านยังคงจำหน่ายเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือนำชาแดงเข้ามาขายในไทยด้วยนั่นเอง
ปีพ.ศ.2488 ทางร้านได้มีการนำชาแดงมาทำเป็น ชาไทย และชาดำเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง เนื่องจากอากาศประเทศไทยค่อนข้างร้อน ชาร้อนจึงไม่เป็นที่นิยมมากนัก ถือเป็นการปรับตัวเพื่อทำเมนูชาออกมาใหม่ เนื่องจากตอนนั้นความนิยมเรื่องชาร้อนลดลง มีเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนที่ยังดื่มกันอยู่ และมีผลิตภัณฑ์น้ำเปล่าบรรจุขวดมากขึ้น ขณะเดียวกันตอนนั้นคนเริ่มสังเกตโลโก้ของชาว่าเป็นรูปมือ จึงเรียกกันต่อ ๆ กันมา กลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ “ชาตรามือ”
การเติบโตของ ชาตรามือ ความนิยม เอกลักษณ์
ชาตรามือ มีที่มาจากจุดเริ่มต้นเป็นเพียงร้านชาธรรมดาบนถนนเยาวราช สู่การจดทะเบียนเป็นบริษัทที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ ใช้ชื่อว่า บริษัท ชาไทย อินเตอร์เนชั่นเชล จำกัด จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ทำให้ชาไทยที่ทางบริษัทผลิตนั้นมีคุณภาพ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พิถีพิถันทุกขั้นตอนการผลิต ทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
นอกจากนี้ การสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นในการผลิตให้ได้มาตรฐานนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จึงพัฒนามาตรฐานการผลิตในโรงงานให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น GMP Codex, Halal และยังคงคุณภาพที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายเป็นผู้ที่สามารถผลิตชาได้ทุกชนิด
ปัจจุบันแบรนด์ ชาตรามือ มีสาขามากกว่า 140 สาขา ความนิยมของแต่ละสาขามิได้ลดน้อยลงไปเลย สังเกตได้จากทุกสาขาไม่ว่าจะอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรือที่ใดก็ตาม ลูกค้าจะรอต่อแถวเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์อย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์แถวจะยาวเป็นพิเศษ ใครผ่านไปผ่านมาก็มักจะได้กลิ่นใบชาหอม ๆ เย้ายวนชวนซื้อ รูปลักษณ์ของร้านที่ตกแต่งสวยงามผสมความคลาสสิกของเอกลักษณ์ร้านชาสมัยก่อนรวมเข้ากับความโมเดิร์น มินิมอลของยุคสมัยใหม่ลงไป ช่วยดึงดูดทั้งกลุ่มลูกค้าเก่าและใหม่
เมนูของชาตรามือ สร้างชื่อเลื่องลือระดับโลก
เชื่อว่าพูดชื่อ ชาตรามือ ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดีว่ามีชื่อเสียงในเรื่องของชามาเป็นอันดับแรก เมนูเครื่องดื่มจึงเน้นที่ชาเป็นหลัก โดยเฉพาะเมนูขึ้นชื่ออย่าง “ชาไทย” ที่ได้รับความนิยมสูงมาก ด้วยรสชาติที่อร่อย กลมกล่อม หวาน มัน หอมกลิ่นชา ทานแบบเย็น ๆ เพิ่มความสดชื่นและคลายร้อนได้ดีสุด ๆ จนสามารถติดอันดับ 7 ในหัวข้อเมนูเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์อร่อยที่สุดในโลก จัดโดยเว็บไซต์อาหารชื่อดังอย่าง TasteAtlas
เมนูชาอื่นของทางร้านก็ยังคงได้รับความนิยมมากไม่แพ้กัน ในส่วนของเมนูแนะนำอื่น ๆ เช่น ชาเขียวนม ชาไทยลาเต้ ชานมอัสสัมไข่มุกและเจลลี่บราวน์ชูการ์ ชากุหลาบนม ชากุหลาบน้ำผึ้ง ชากุหลาบลิ้นจี่น้ำผึ้งมะนาว จะเปลี่ยนสายเป็นสายกาแฟก็มีให้บริการด้วย เช่น กาแฟตรามือ ลาเต้ เอสเปรสโซ่ อเมริกาโน่ มอคค่า คัปปุชชิโน ฮันนี่คอฟฟี่ สายชอบรสเข้มข้นอย่างโกโก้ก็อร่อยไม่แพ้เมนูอื่น หรือจะไปเป็นเมนูทางเลือกสุขภาพก็ได้คิดค้นขึ้นมาเพื่อเข้าคู่กับเทรนด์สุขภาพที่คนเริ่มหันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันมากขึ้นมีทั้งชา-กาแฟ 1ศูนย์ 2 ต่ำ
ปัจจุบันทาง ชาตรามือ อยากให้สินค้าเข้าถึงวัยรุ่นและกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น อยากให้เป็นเมนูที่เข้าถึงได้ทุกวัน จึงคิดเมนูใหม่ออกมา โดยการนำชาและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองมาดัดแปลงเป็น ไอศกรีมซอฟเสิร์ฟชาไทย ซอฟเสิร์ฟทริปเปิ้ลดาร์ค ซอฟเสิร์ฟไทยโก้ และซอฟต์เสิร์ฟชาเขียวเอ็กซ์ตร้ากรีน เพื่อสร้างความแปลกใหม่ส่งผลให้ดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นตามไปด้วย
ความนิยมของชาตรามือในต่างประเทศ
ชาตรามือ สามารถสร้างชื่อเสียงให้เมนูอย่าง ชาไทย ดังไกลระดับโลกได้ ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทยก็ได้ลิ้มชิมรสชาติเครื่องดื่มของชาตรามือและถูกอกถูกใจกันเป็นอย่างมาก จึงมีการขยายการตลาดออกสู่ต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง จุดนี้สามารถดูได้จากแต่ละประเทศที่ชาตรามือได้ไปเปิดสาขาเอาไว้ ได้แก่ เมียนมาร์ 15 สาขา, มาเลเซีย 7 สาขา, บรูไน 5 สาขา, จีน 5 สาขา, ฮ่องกง 5 สาขา, เกาหลีใต้ 2 สาขา, กัมพูชา 2 สาขา, สิงคโปร์ 1 สาขา และฟิลิปปินส์ 1 สาขา
รายได้และกำไรของชาตรามือ
รายได้และกำไรของ ชาตรามือ อ้างอิงจากเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในช่วงปี2564-2565 รายได้รวมของชาตรามืออยู่ที่ 1,977,435,267.02 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ถึง 23.59% มีกำไร(ขาดทุน) สุทธิ 32,505,612.02 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ถึง 25.38% และการเงินล่าสุดในปี 2565 รายได้รวมของชาตรามืออยู่ที่ 2,104,891,892.82 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่ 6.44% และมีกำไร(ขาดทุน) สุทธิ 34,527,518.27 บาท มากกว่ากำไรจากปี 2564 ที่ 6.22%
ชาตรามือมีแฟรนไชส์หรือไม่?
คำตอบคือ ไม่มีแฟรนไชส์ และไม่อนุญาตให้ใช้โลโก้ของชาตรามือหรือชื่อร้านชาตรามือ เนื่องจากชื่อและเครื่องหมายการค้าชาตรามือเป็นลิขสิทธิ์ของทางบริษัท ฯ แต่ใครที่เปิดกิจการขายเครื่องดื่มสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ของชาตรามือวางตกแต่งหน้าร้านได้ โดยให้ใช้ชื่อและโลโก้ในนามของตัวเอง
