ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

ชี้ช่องรวย โอกาสรวยของคนตัวเล็ก

อาหาร

เจาะเวลาย้อนอดีตของ ทิพรส แบรนด์น้ำปลารายแรกของประเทศไทย


ถ้าพูดถึงสินค้าเครื่องปรุงในครัวของคนไทย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจะต้องมีแบรนด์น้ำปลาอย่าง ทิพรส อยู่ในครัวอย่างแน่นอน ด้วยความที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหารได้อย่างกลมกล่อม มีกลิ่นหอม อร่อย เหตุผลเหล่านี้จึงทำให้ ทิพรส ครองใจครัวเรือนไทยมานานเป็นศตวรรษ และนี่ก็คือเรื่องราวจุดเริ่มต้นของ ทิพรส แบรนด์น้ำปลารายแรกของไทย

 

ย้อนวันวานการสร้างแบรนด์ ทิพรส

 

ผู้ริเริ่มการทำน้ำปลาในประเทศไทยคือ นายไล่เจี๊ยง แซ่ทั้ง ในปี พ.ศ.2456 หรือประมาณ 110 ปีก่อนที่จังหวัดชลบุรี มีการทดลองการผลิตน้ำปลาโดยการนำปลาสายพันธุ์ต่าง ๆ มาหมักกับเกลือในโอ่งดินเพื่อนำมาเปรียบเทียบรสชาติว่าน้ำปลาจากปลาสายพันธุ์ใดดีที่สุด จนมาพบว่าปลากะตัก ให้น้ำปลาออกมาดีที่สุดในบรรดาทั้งหมด ให้รสชาติที่อร่อย หอม หลังจากนั้นจึงได้ผลิตน้ำปลาจากลปากะตักออกวางจำหน่ายเรื่อยมา ทว่าในช่วงเวลานั้นคนไทยยังไม่รู้จักน้ำปลา ยังนิยมปรุงอาหารโดยใช้เกลืออยู่ กระแสตอบรับจึงยังไม่ได้ดีมาก แต่นายไล่เจี๊ยงก็ไม่ยอมแพ้ มุ่งมั่นตั้งใจทำคุณภาพให้ออกมาดีที่สุด จนใช้เวลาไม่กี่ปีก็สามารถเอาชนะใจชางบ้านแถวจังหวัดชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียงได้ หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ผู้บริโภคเพิ่มจำนวนมากขึ้น นายไล่เจี๊ยงจึงเปลี่ยนจากการหมักปลาในโอ่งดินมาเป็นหมักในถังไม้ใหญ่ เพื่อการทำปริมาณที่มากขึ้นได้

 

เมื่อกิจการการขายน้ำปลาเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ในปีพ.ศ. 2462 นายไล่เจี๊ยงจึงได้ก่อตั้งโรงงานผลิตน้ำปลาชื่อ ทั่งซังฮะ บริเวณท่าเรือฮกเกี้ยน จังหวัดชลบุรี ก่อสร้างบ่อหมักที่ทำจากคอนกรีตขนาดใหญ่ยื่นออกไปในทะเล โดยนายไล่เจี๊ยงเป็นผู้ควบคุมและออกแบบการสร้างทั้งหมด และมีการตั้งชื่อให้กับแบรนด์น้ำปลาของตัวเองว่า ทิพรส ที่เป็นชื่อที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

 

พัฒนาการคุณภาพของน้ำปลาทิพรส

 

คุณภาพของ ทิพรส นั้นเริ่มมาจากการคัดเลือกปลาที่มีคุณภาพที่ดี โดยใช้ปลากะตักในการทำน้ำปลา มีคำยืนยันจากการทดลองและคำพูดจากนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญว่า น้ำปลาจากปลากะตักนั้นให้รสชาติที่กลมกล่อม หอม อร่อยที่สุด อีกทั้งยังผ่านกรรมวิธีการผลิตจากทำแบบบ้าน ๆ ง่าย ๆ กลายมาเป็นการผลิตด้วยเทคโนโลยียุคใหม่ ใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการผลิตทุกขั้นตอน มีมาตรฐานและคุณภาพที่มั่นใจได้อย่างแน่นอน

 

ผลิตภัณฑ์ของ ทิพรส จากอดีตจนถึงปัจจุบัน

 

ผลิตภัณฑ์ของ ทิพรส แน่นอนว่าจะต้องเป็นน้ำปลาแท้ตราทิพรส ขนาดต่าง ๆ รสชาติที่คุ้นเคยที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน หอม อร่อย กลมกล่อม ครบรส

นอกจากนี้ก็ยังมีน้ำปลาอื่น ๆ ทั้งน้ำปลาตราโบว์แดง ปลาตราเด็กอ้วน น้ำปลาตราดีหนึ่ง หรือจะเป็นด้านน้ำส้มสายชูกลั่น 5% ผงปรุงรส และยังมีผลิตภัณฑ์ซอสหอยนางรมชนิดผงอีกด้วย

 

รายได้ของ บริษัท ไพโรจน์ (ทั่งซังฮะ) จำกัด

 

รายได้และกำไรของ ทิพรส อ้างอิงจากเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในช่วงปี2564-2565 รายได้รวมปี 2564 อยู่ที่ 2,901,087,334.35 บาท น้อยกว่าปี 2563 อยู่ที่ -4.29% มีกำไร(ขาดทุน) สุทธิ 437,812,070.41 บาท น้อยกว่าปี 2563 อยู่ที่ -11.68%
ในขณะที่รายได้รวมปี 2565 อยู่ที่ 2,887,385,456.12 บาท น้อยกว่าปี 2564 อยู่ -0.47% มีกำไร(ขาดทุน) สุทธิ 402,706,932.17 บาท น้อยลงมาจากปีก่อน -8.01%

 

สามารถซื้อสินค้าของทิพรสได้ที่ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ทุกสาขา ทุกที่ทั่วประเทศไทย
Facebook : Tiparosbrand
Website : https://www.tiparos.com/

Related Posts

ปลาเผา

อาชีพรวย เปิดร้านปลาเผา น้ำจิ้มรสเด็ด ใช้งบลงทุนเท่าไหร่ ต้องเตรียมอะไรบ้าง

อีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจ และเชื่อว่าหลายคนคงชอบทานเมนูนี้ นั่นคือ “ปลาเผา” วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะมาแนะนำอาชีพเปิดร้านปลาเผาว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง และที่สำคัญต้องใช้งบลงทุนเท่าไหร่ถึงจะเปิดร้านได้  เรามาดูกันเลยว่าจะมีวิธีการขั้นตอนอย่างไรบ้าง ก่อนเริ่มเปิดร้านจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ? มองหาทำเลสำหรับขาย แน่นอนว่าการเปิดร้านขายอาหารจะต้องอาศัยทำเลที่มีผู้คนพลุกพล่อน เช่น ตลาดนัด แหล่งชุมชน ย่านธุรกิจ ย่านโรงงาน ย่านที่พักอาศัย แหล่งท่องเที่ยวเป็นต้น ซึ่งจะมีโอกาสขายได้มาก มีแหล่งซื้อวัตถุดิบ สิ่งสำคัญที่สุด คือ ปลา เราควรจะมีแหล่งซื้อวัตถุดิบที่ดีสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ปลานิล ปลาทับทิม ปลาดุก สำคัญต้องได้ในราคาที่ดี และมีของให้ซื้ออยู่เสมอ นอกจากนี้จะเป็นวัตถุดิบอื่น ๆ อย่าง ผักต่าง ๆ ก็วรเลือกที่สดใหม่มีคุณภาพดี มีสูตรน้ำจิ้มรสเด็ด อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ได้คงหนีไม่พันน้ำจิ้ม เพราะแน่นอนว่าปลาย่างก็ต้องทานคู่กับน้ำจิ้มรสแซ่บไม่ว่าจะเป็น น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มถั่ว เป็นต้น ฉะนั้นเราจะต้องมีสูตรเด็ดหรือทำให้ถูกปากลูกค้ามากที่สุด เตรียมเงินลงทุน สำหรับการเปิดร้านใหม่จำเป็นต้องจัดเตรียมอุปกรณ์หลายอย่างอยู่พอสมควร เราจะมีเงินทุนโดยประมาณ 10,000 – 20,000 บาท อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีสำหรับเปิดร้าน โต๊ะขนาดกลาง ราคาประมาณ […]

โจ๊กสยาม ตำนานโจ๊กบางกอก ที่การันตรีความอร่อยจาก “เชลล์ชวนชิม”

เมื่อพูดถึงอาหารเช้า ทุกคนนึกถึงเมนูอะไรกัน บ้างก็ว่ากาแฟก็พอ แซนด์วิชก็ดี ปาท่องโก๋ หมูปิ้งก็น่าอร่อยไม่แพ้กัน แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือ “โจ๊ก” นั่นเอง ข้าวสวยหอม ๆ พร้อมเนื้อสัตว์รสเลิศ ท๊อปปิ้งด้วยไข่ ปาท่องโก๋ เส้นกรอบหรืออื่น ๆ แล้วแต่ร้าน นั่นเป็นมื้อเช้าที่อิ่มกำลังเช่วยให้มีแรงทำงานได้สบาย ทว่าร้านโจ๊กที่ดังก็มีหลายเจ้า แต่เจ้านี้ไม่แพ้ใครแน่นอน “โจ๊กสยาม” ตำนานความอร่อยกว่า 20 ปี ไปดูกันว่า 20 ปีมานี้เกิดอะไรขึ้นกับแบรนด์เขาบ้าง และตอนนี้ก็เปิดขายแฟรนไชส์แล้วด้วย รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามได้เลย..โจ๊กบางกอก จุดเริ่มต้นของธุรกิจ โจ๊กสยาม.ย้อนกลับไปเมื่อ 22 ปีก่อน ในปีพ.ศ. 2545 คุณสมชัย ธุระกิจเสรี และคุณวนาพร ธุระกิจเสรี เริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารเปิดร้านโจ๊กแห่งแรกขึ้นในย่านโชคชัย 4 มีการคิดค้น พัฒนา ปรับปรุงโจ๊กที่ถูกใจคนในท้องถิ่น สูตรโจ๊กนี้ไม่ได้มาจากเมืองจีนหรือฮ่องกง แต่เป็นโจ๊กแบบฉบับของคนไทย เน้นให้มีความอร่อยถูกปากคนไทยเราโดยเฉพาะ อร่อยจนได้รับเครื่องหมายรับประกันความอร่อย “เชลล์ชวนชิม” จาก มรว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ภายใต้ชื่อ “โจ๊กบางกอก” […]

ชี้ช่องรวย แนะ 8 ขั้นตอนลดการสูญเสียในธุรกิจร้านอาหาร ทำตามนี้กำไรเพิ่มขึ้นแน่นอน

รู้หรือไม่ว่าธุรกิจร้านอาหารมีจุดรั่วไหลของกำไรอยู่ที่อะไรมากที่สุด คำตอบ คือ เศษอาหาร เศษของการตัดแต่งอาหาร ทำอย่างไรที่จะลดปริมาณความสูญเสียเหล่านี้ นอกเหนือจากการช่วยลดโลกร้อนแล้ว สิ่งหนึ่งที่ได้กลับมาตรงๆ คือต้นทุนที่ลดลง และมีโอกาสในการสร้างกำไรกลับคืนสู่ร้านค้า นี่คือวิธีลดการสูญเสีย 1.วัสดุอุปกรณ์ประกอบอาหารควรนึกถึงว่าจะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ตัวอย่างเช่นผ้าปูโต๊ะ การนำกลับมาซักใหม่ดีกว่าการใช้กระดาษเป็นตัวถาดรองอาหาร เพราะเมื่อสิ่งเหล่านี้ใช้เสร็จแล้วได้กลายเป็นขยะร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้ว่าจะดูสวยงามหรือจัดการง่ายก็ตาม 2.นำระบบแอปพลิเคชันสั่งเมนูมาใช้ ช่วยให้พนักงานสามารถใช้คำสั่งซื้อแบบดิจิทัลแทนที่จะเขียนลงบนกระดาษเพื่อลดปัญหากระดาษเสีย ระบบแอปพริเคชั่นช่วยให้ร้านอาหารสามารถติดตามสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งหมายความว่าง่ายต่อการทราบว่ารายการใดที่ต้องสั่งซื้อใหม่และจำนวนสินค้าแต่ละรายการ สิ่งนี้จะช่วยป้องกันการสั่งซื้อเกินซึ่งอาจนำไปสู่เศษอาหาร 3.ตรวจสอบปริมาณของเสียในร้านอาหารอย่างสม่ำเสมอด้วยการแยกประเภทของเสีย เพื่อที่จะได้รู้ว่าประเภทไหนมีปริมาณมากน้อยเพียงใด แล้วหาสาเหตุ เช่นส่วนใหญ่ร้านอาหารจะมีความสูญเสียเกิดจากการตัดแต่งก็ต้องแก้ไขและลดการสูญเสียนี้ด้วยการอบรมพนักงานให้มีทักษะในการตัดแต่งให้เหลือเศษน้อยที่สุด 4.ควรมีการบริหารอายุของวัตถุดิบและอาหารแล้วหาแหล่งจัดซื้อที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่นผักจะเน่าเร็วกว่าเนื้อ หรือของแห้งอื่นๆ การเลือกซื้อในพื้นที่ที่ใกล้กับร้านอาหารของเราจะช่วยในแง่ของอายุของความสดในการใช้งาน ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ เป็นต้น 5.จัดการกับวัตถุดิบด้วยระบบ First in First out หรือระบบมาก่อนใช้ก่อน วิธีนี้จะช่วยลดอัตราของเสียได้เป็นอย่างดี โดยเมื่อสินค้ามาถึง ควรเขียนระบุวันที่ เวลาของวัตถุดิบที่เข้าถึงร้าน แล้วเลือกใช้ก่อน วางไว้ข้างหน้า ส่วนวัตถุดิบที่มาใหม่เลือกไว้ข้างหลัง เพื่อใช้ต่อตามลำดับ 6.ควรเก็บอาหารแต่ละชนิดในอุณหภูมิที่เหมาะสมดังนี้ • อุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส: เหมาะสำหรับการจัดเก็บอาหารแห้ง อาหารกระป๋อง • อุณหภูมิ 2 ถึง […]