โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

ชี้ช่องรวย แนะ “ร้านค้าราคาเดียว” เลือกสินค้ามาขายอย่างไรให้โดนใจลูกค้า

อีกหนึ่งธุรกิจที่ไม่ได้มาแรงมากนัก แต่ดูเหมือนว่าจะอยู่รอดได้ในทุกสถานการณ์อย่าง “ร้านค้าราคาเดียว” ถือเป็นธุรกิจค้าขายที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ด้วยราคาที่เริ่มต้นไม่แพง มีสินค้าให้เลือกหลากหลายแทบจุทุกประเภททำให้ธุรกิจนี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง วันนี้ ชี้ช่องรวย จะมาแนะนำวิธีการเลือกสินค้ามาขายให้กับผู้ที่เปิดธุรกิจนี้ หรือกำลังจะเริ่มธุรกิจได้เป็นแนวทาง เพื่อให้เจาะกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น เรามาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

1.สินค้าต้องมีหลายหมวดหมู่

ในการเลือกซื้อสินค้ามาวางขายในร้านค้าราคาเดียว จำเป็นต้องยึดความหลากหลายของหมวดหมู่สิ้นค้า เพื่อครอบคลุมทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เป็นประเด็นสำคัญ เช่น ของเล่น-เด็ก เครื่องเขียน-นักเรียนนักศึกษา กิ๊ฟช็อป-วัยรุ่นวัยทำงาน เครื่องครัว-แม่บ้าน เครื่องมือช่าง-พ่อบ้าน เป็นต้น แต่สัดส่วนและปริมาณของสินค้าจะแตกต่างกันไป

โดยคำนึงถึงว่าลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่เป็นกลุ่มใด ก็ให้น้ำหนักในการเลือกซื้อสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนั้นเป็นพิเศษ ยกตัวอย่างเช่น ในละแวกนั้นกลุ่มลูกค้าหลักเป็นแม่บ้าน ก็ต้องหาสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันมาเติมเต็มในร้าน สินค้าที่ขายดีเป็นพวกตะกร้า ทัพพี ที่หนีบผ้า ไม้แขวนเสื้อ หรือหากลูกค้าเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา สินค้าขายดีและเป็นที่ต้องการ จะเป็นกลุ่มเครื่องเขียน สินค้าลิขสิทธิ์ กิ๊ฟช็อป หากเป็นสาวโรงงาน สินค้าที่ขาดไม่ได้เลยคือ เครื่องประดับ ลิบสติก น้ำยาทาเล็บ กระเป๋าแฟชั่น เป็นต้น

2.สินค้าต้องมีหลายแบบให้เลือก

ในสินค้า 1 ชนิด ควรคัดสรรสินค้าหลากหลายแบบมาให้ลูกค้าได้สนุกกับการเลือกชม เลือกซื้อ เช่น กระเป๋าที่มีหลายๆสีคละกันไป ยางลบที่มีรูปตัวการ์ตูนหลายๆ แบบ เป็นต้น ทั้งนี้เจ้าของร้านค้าราคาเดียวจะต้องหมั่นติดตามเทรนด์ พิจารณาว่าช่วงนี้สินค้าตัวไหนขายดี สินค้าตัวไหนกำลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภค ก็พยายามไปจัดหามาให้ลูกค้า

ส่วนหนึ่งอาจได้รับคำแนะนำจากร้านค้าส่งที่มักมีสินค้าใหม่ๆ โดนใจตลาดมานำเสนออยุ่เสมอ สำหรับการเติมสินค้ามีเทคนิคว่า กรณีสั่งยางลบมา 20 แบบ แต่จะโชวฺขายในร้านแค่ 2-3 แบบเท่านั้น แบบไหนหมดก็ค่อยเอาแบบใหม่มาเติม ไม่ควรลงสินค้าที่เดียวทั้ง 20 แบบ เพราะพฤติกรรมโดยส่วนใหญ่ของลูกค้ามักจะแวะเข้ามาที่ร้านค้าราคาเดียวทุกวัน หากเจอสินค้าแบบเดิมๆ ซ้ำๆ ก็จะเกิดอาการเบื่อ และจะถามหาแบบที่ 21 หรือแบบใหม่ๆ อย่างไม่สิ้นสุด ฉะนั้นการทยอยนำสินค้าขึ้นชั้นวางจะทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนร้านค้ามีสินค้าใหม่ตลอดเวลา

3.สินค้าต้องมีขนาดย่อมเยา

การจะเลือกสินค้าเข้ามาขาย ต้องพิจารณาพฤติกรรมของผู้บริโภคในพื้นที่ และลักษณะการใช้งานของสินค้านั้นๆ ประกอบด้วย เช่น หากเป้นสินค้าที่ใช้แล้ว หมดไป ลุกค้าต้องกลับมาซื้อใช้ใหม่ ขนาดของสินค้าควรมีขนาดเล็กหรือขนาดกลาง ไม่ควรเป็นสินค้าที่มีขนาดใหญ่ไซส์บิ๊ก นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่ภายในร้าน เป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ยังช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาที่ร้าน เพื่อซื้อสินค้าชนิดนั้นซ้ำบ่อย รวมทั้งสินค้าตัวอื่นด้วย

4.สินค้าต้องมีสภาพดี สินค้าต้องมีคุณภาพ          

ไม่แตกหักเสียหาย บรรจุอยู่ในหีบห่อที่ดูดี ฝุ่นไม่จับ ซองไม่ฉีกขาด แม้จะเป็นสินค้าราคาไม่แพง แต่ก็ต้องเป็นของที่ดูแล้ว น่าซื้อ น่าใช้ และเมื่อซื้อไปแล้วก็ต้องใช้งานได้จริง ที่สำคัญสินค้าทุกชิ้น สามารถขายตัวเองได้ โดยไม่ต้องมีพนักงานมาคอยอธิบายคุณสมบัติของสินค้า เพียงแต่ผู้ประกอบการจะต้องหมั่นเติมสินค้าใหม่ๆ หรือพลิกแพลงเทคนิควิธีการขาย เพื่อให้สินค้าขายได้หมดทุกวัน