โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

ชี้ช่องรวย แนะ 11 วิธีคิด ที่ทำให้ “ธุรกิจ” ประสบความสำเร็จไม่ว่าทำธุรกิจอะไรก็ใช้ได้

ในทุกๆ ปีเชื่อว่าหลายคนคิดจะเริ่มต้นลงมือทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ โดยเฉพาะกับผู้ที่มีความมุ่งหวังที่จะให้ธุรกิจของตัวเองประสบความสำเร็จ วันนี้ ชี้ช่องรวย ได้นำเอา 11 แนวคิดที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้ในทุกๆ ธุรกิจหรือทุกช่วงเวลาที่คุณเริ่มทำธุรกิจ มาฝาก เพื่อจะได้นำไปปรับใช้ รับกับปีใหม่ในทุกๆ ปี ดังนี้

1.ทิศทาง

คุณต้องมีทิศทางเป้าหมายที่ชัดเจน เพราะมันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณได้วาดวางแผนว่าคุณจะทำอะไรก่อนหลัง คุณจะต้องเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ต้องมีความคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์นั้นๆ

2.ความรวดเร็ว

เมื่อวางทิศทางไว้แล้วว่าคุณจะเดินก้าวต่อไปอย่างไร ก็ควรมีการพัฒนาเรื่องของความรวดเร็ว เพราะธุรกิจของคุณบางอย่างไม่สามารถรอได้ คุณต้องตัดสินใจทันที เพราะหากคุณชักช้าเพียงแค่นาที คู่แข่งของคุณอาจจะก้าวล้ำหน้าคุณไปแล้วก็ได้ ดังนั้น ควรปรับปรุงตัวเสียใหม่

3.ความเข้าใจด้านการเงิน

ข้อนี้สำคัญอย่างมากสำหรับผู้ที่ตั้งใจจะเริ่มต้นธุรกิจ สิ่งที่คุณต้องคิด คือ การรู้จักประเมินงบประมาณการจัดการ หรืองบลงทุนว่าคุณมีศักยภาพหรือมีความสามารถระดับไหน แล้วลงทุนไปโดยที่คุณจะไม่เดือดร้อนในภายหลัง อยากให้นึกถึงสุภาษิต “นกน้อยทำรังแต่พอตัว” แต่แค่ในระยะแรกเท่านั้นนะคะ เพราะการทำธุรกิจอาจทำการประเมินความสำเร็จเป็นระยะๆ ได้ หากได้รับผลตอบแทนดี การที่จะขยับขยายธุรกิจก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด

4. Connection

การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าทางธุรกิจ หรือเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้คุณทำงานเหนื่อยน้อยลง เพราะคุณมีผู้ช่วยและมีพันธมิตรทางธุรกิจที่จะช่วยย่นระยะเวลา การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ที่สำคัญคุณอาจจะได้ทีมที่ปรึกษามือดีมาช่วยให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าแบบไม่มีสะดุดได้ สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากจะแนะนำ คือ ความจริงใจและซื่อสัตย์กับคู่ค้า ที่สำคัญเมื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีแล้ว ก็อย่าลืมสร้างความสัมพันธ์หรือหา Connection อื่นๆ ใหม่ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง

5.การอุทิศตน

สำหรับใครที่เป็นสตาร์ทอัพหรือเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ การอุทิศตนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเป็นสิ่งจำเป็น เพราะคุณจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับทีมงานที่ร่วมมือกับคุณ เรียกว่าสร้างแรงฮึดให้ทีมงานช่วยเหลืองานเดินหน้าให้ไปสู่เป้าหมายโดยสำเร็จ ความเป็นผู้นำจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นที่มีความมุ่งมั่นในการทำงาน และเป็นแบบอย่างให้ พนักงานทุกคนจะต้องมีความมุ่งมั่นและทุ่มเทเพื่อเป้าหมาย

6.ความเพียร

การทำธุรกิจไม่ว่าจะประเภทไหนก็ตาม ย่อมต้องมีอุปสรรคและขวากหนาม มาคอยเป็นบทพิสูจน์ความกล้าของคุณแทบทั้งนั้น อาจมีล้มลุกคลุกคลานกันบ้าง อาจมีความท้อเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็อย่าถอย เพราะทุกอุปสรรคเป็นบทเรียนที่มีค่าที่เราสามารถเรียนรู้กับมันได้ การเริ่มต้นใหม่ ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ดังนั้น เมื่อรู้ว่ามาทางนี้แล้วผลมันเป็นอย่างนี้ ก็เริ่มต้นทำใหม่แล้วไม่ทำผิดอีก อาศัย “ความเพียร” เป็นที่ตั้ง สู้ไม่ถอย รับรองสำเร็จแน่นอน

7.รวดเร็วในการปรับตัว

ในโลกยุคดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ใครช้าแน่นอนว่าย่อมต้องเสียเปรียบ ดังนั้น เมื่อคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ ในฐานะที่คุณเป็นผู้นำจะต้องมองการณ์ไกล และเรียนรู้อย่างชาญฉลาด การรู้จักปรับตัวและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา จะช่วยให้คุณก้าวทันโลกและไม่ตกยุค การศึกษาข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณอยู่ตลอดเวลา จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนธุรกิจได้ง่ายดายขึ้น สามารถรู้หลีกกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นโดยผ่านการวิเคราะห์อย่างถูกต้องของคุณได้

8.รู้วิธีดึงดูดนักลงทุน

ปัจจุบันการทำธุรกิจไม่อาจทำเพียงคนเดียวได้ เพราะจะเกิดความเสี่ยงและปัญหาอื่นๆ ตามมามากมาย การจะใช้เงินทุนของคุณเพียงอย่างเดียวบางครั้งอาจจะไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องหานักลงทุนหรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์และอุดมการณ์เดียวกันมาร่วมทำธุรกิจด้วย ยิ่งถ้าได้ผู้ที่มีความสามารถมาช่วยด้วยแล้ว ธุรกิจที่คุณตั้งใจทำมีหวังสำเร็จได้ไม่มากก็น้อย

9.ความมั่นใจ

เพราะคุณเป็นเจ้าของกิจการและธุรกิจ คุณจะต้องเชื่อมั่นและมั่นใจในตัวบริษัท พนักงาน พาร์ทเนอร์ และความมถ่งมั่นในตัวคุณเอง เพราะทุกอย่างจะสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับ “ความเชื่อ” เมื่อคุณคิดว่า “สำเร็จ” มุ่งมั่นทำเต็มที่ ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นกับคุณได้แน่นอน

10.จัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
ทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่ทำไมคนประสบความสำเร็จไม่เหมือนกัน นั่นเพราะผู้ที่สำเร็จมีการบริหารจัดการเวลาอย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ บางคนถือคติไม่มีเวลาหยุดพักสำหรับการเริ่มต้น เพราะหากมัวเสียเวลาความสำเร็จก็จะยิ่งไกลห่างออกจากตัวคุณมากเท่านั้น

11.ลงมือทำทันที!!

ข้อนี้สำคัญมาก เพราะหากคุณทำทั้งหมด 10 ข้อแล้ว แต่ไม่ลงมือทำ ผลของงานจึงเกิดขึ้นไม่ได้ และจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นหากคุณไม่เริ่มต้นลงมือทำ ฉะนั้น เมื่อวางทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ลงมือทำได้เลย