โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

ชี้ช่องรวย แนะ 8 ขั้นตอนสำหรับการเปิด ร้านขายเครื่องสำอาง ทำอย่างไรให้สำเร็จ

ทุกวันนี้เครื่องสำอางถือเป็นปัจจัยหลักของสาวๆ ทุกคนบนโลกใบนี้ ทำให้ธุรกิจร้านขายเครื่องสำอางเติบโตอย่างต่อเนื่อง วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงิยากจะมาแนะนำวิธีการเปิดร้านขายเครื่องสำอางให้สำหรับใครก็ตามที่กำลังจะเปิดธุรกิจนี้ได้ไปปรับใช้กันดู เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ถึงจะขายดี รวยๆ ปังๆ

การจะเริ่มทำธุรกิจร้านขายเครื่องสำอางต้องคำนึงถึงสิ่งดังต่อไปนี้

1.ต้องเริ่มต้นจากการมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางและเป็นคนรักสวยรักงามก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะปัจจุบันนี้เครื่องสำอางมีอยู่หลายประเภท หลายแบรนด์ และหลายระดับ มีทั้งอย่างที่เป็นการทำจากสารสังเคราะห์ อย่างที่เป็นสมุนไพร คนที่จะทำธุรกิจนี้ต้องมีความรู้ อย่างน้อยต้องพอตอบคำถามพื้นฐานให้กับลูกค้าได้ เมื่อลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้า และคำถามพื้นฐานนี่แหละจะเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า และจะนำพาลูกค้ามาเป็นลูกค้าประจำในโอกาสต่อไป

2.ต้องมองทำเลออก ใช่ว่าทุกที่จะขายเครื่องสำอางได้ สถานที่ที่จะขายเครื่องสำอางได้ต้องเป็นชุมชนขนาดใหญ่ เช่นใกล้ตลาดขนาดใหญ่ อยู่ในอำเภอ อยู่หน้าปากซอยที่มีป้ายรถเมลคนเดินไปมา คนต้องพลุกพล่านเพียงพอ หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องในห้างสรรพสินค้าเป็นต้น

3.เงินลงทุน สิ่งแรกที่ต้องคิดคือเงินลงทุนในการตกแต่งร้าน ซื้อชั้นอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และสไตล์ของการตกแต่ง เงินทุนอีกก้อนหนึ่งคือเงินเพื่อไปซื้อสินค้า กุญแจความสำเร็จของการทำธุรกิจร้านเครื่องสำอางคือจะต้องมีสินค้าให้หลากหลายและดูแน่นร้าน ดังนั้นจึงต้องใช้เงินในการซื้อสินค้ามากพอสมควรให้เต็มร้าน จากประสบการณ์ผู้รู้บอกว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 1 แสนบาท แต่ไม่ควรมีสต๊อกให้มาก เพราะจะทำให้เงินจม

4.การเลือกสินค้า ตรงนี้ต้องศึกษากลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพราะปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มนิยมสินค้าจากต่างประเทศ แบรนด์หรือยี่ห้อไหนที่เขานิยมเราก็ต้องตามเทรนด์ให้ทัน เพราะสินค้าเครื่องสำอางมีส่วนหนึ่งที่เขาใช้เป็นประจำยังไงก็ไม่เปลี่ยนแบรนด์ แต่ก็มีบางส่วนที่เขาเปลี่ยนแบรนด์ไปตามกระแส พวกนี้เราต้องตามให้ทัน ตลาดสำเพ็งเป็นแหล่งสำคัญที่เราควรหาเวลาไปเดินบ่อยๆ เพราะที่นั่นจะเป็นตัวบอกเทรนด์ให้เราได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากการศึกษาผ่านอินเทอร์เน็ต

5.มาตรฐานสินค้า การที่ร้านค้าจะอยู่รอดและเติบโตได้ สินค้าต้องมีมาตรฐาน และกลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง นับเป็นกลุ่มสินค้าที่มีการลอกเลียนแบบได้ง่ายที่สุด ดังนั้นเวลาเราซื้อจากแหล่งผลิต เราต้องแน่ใจ มีการรับประกันคุณภาพ สินค้าไม่บุบสลาย ไม่หมดอายุ ในส่วนของร้านค้าเองก็ต้องมีการรับประกันคุณภาพกับลูกค้าด้วย นับเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการระหว่างการขายและหลังการขายและที่สำคัญที่สุด เมื่อเราสามารถสร้างร้านของเราได้มั่นคง เติบโตได้ระยะหนึ่ง จะมีเซลล์จากบริษัทผู้ผลิตมาติดต่อเราด้วย ก็จะทำให้สินค้าเราหลากหลายมากขึ้น แต่ต้องระวังเรื่องคุณภาพ

6.การบริการ เนื่องจากร้านค้าเรามีหน้าร้าน จึงมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาหาเราอยู่ตลอดเวลา เราหรือพนักงานขายของเราต้องมีความพร้อมในการต้อนรับลูกค้าด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส สามารถตอบคำถามต่างๆ ให้ลูกค้าได้อย่างกระจ่าง สามารถแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ หรือหากเรามีระบบการขายออนไลน์ด้วย ก็ต้องสามารถตอบคำถามลูกค้าบนออนไลน์อย่างทันท่วงที เพราะหากปล่อยนานไป การขายบนออนไลน์จะไม่ประสบความสำเร็จ

7.การทำการตลาดและโปรโมชั่น เนื่องจากยุคนี้ร้านขายเครื่องสำอางเกิดขึ้นมาก และยังไม่นับรวมถึงการทำตลาดเครื่องสำอางออนไลน์ที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ด ทำให้ตลาดเครื่องสำอางแข่งขันกันดุมาก ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นที่ทางร้านจะต้องคิดหากลยุทธ์การตลาด การโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม มาเล่นเป็นระยะบ้าง แต่การเล่นนี้ต้องมีเป้าหมาย เช่นเล่นเพื่อแนะนำสินค้าใหม่เข้าร้าน เล่นเพื่อล้างสต๊อกสินค้าเดิม ไม่ให้อยู่ค้างร้านจนนานจะเป็นปัญหาสินค้าหมดอายุ เป็นต้น

8.อันนี้เป็นข้อห้ามที่ห้ามกระทำโดยเด็ดขาด คือนำสินค้าที่ไม่ผ่าน อย. มาขายในร้าน นอกเหนือจากไม่ได้มาตรฐานแล้ว เมื่อ อย.จับได้ ยังผิดกฎหมาย ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ยิ่งหากมีการแนะนำสินค้าลงไปบนออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือโซเชียลต่างๆ หาก อย.จับได้ จะถูกลงโทษทั้งในแง่ปรับและจำคุก