ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

งานประจำ vs ธุรกิจส่วนตัว เลือกแบบไหนดีกว่ากัน?


เมื่อคุณเข้าสู่วัยทำงาน มีงานประจำทำไประยะหนึ่งแล้ว จะมีคำถามยอดฮิตที่เกิดขึ้นในใจ “อยากทำงานประจำต่อไป หรือ ออกไปทำธุรกิจส่วนตัว” เพราะงานประจำถึงจะมั่นคง สวัสดิการมี ทำงานเป็นเวลาแต่เรื่องรายได้ก็อาจไม่ได้สูงมาก หากไม่ใช่สายงานเฉพาะทางอย่างแพทย์ ไอที นักบิน ฯลฯ
.
กลับกันหากออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ยิ่งขายดีก็ยิ่งมีรายได้สูงจนตามไปด้วย แต่ก็ต้องพร้อมรับความเสี่ยงต่าง ๆ ตลอดเวลา เพราะอาจไม่ได้ขายดีทุกวันก็ได้ ยิ่งช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาจะเห็นภาพได้ชัดที่สุด เนื่องจากหลายธุรกิจต้องปิดตัวลงอย่างช่วยไม่ได้ แล้วเลือกแบบไหนดีกว่ากัน เราลองมาหาคำตอบไปพร้อมกัน!
.
.

งานประจำมั่นคงดี แต่รายได้สวนทางค่าครองชีพ

งานประจำ เป็นงานที่แทบทุกคนจะต้องผ่านหลังเรียนจบ หากจบสายเฉพาะทางอย่างแพทย์ พยาบาล นักบิน แอร์โฮสเตจ วิศวะ ฯลฯ ก็การันตีเงินเดือนที่สูง สวัสดิการ ความมั่นคงได้แม้จะแลกมาด้วยการทำงานที่หนัก แต่ในสายงานที่รองลงมาจนไปถึงระดับรากหญ้าถึงแม้ด้านความมั่นคงจะพอรับไหวและมีรายได้ทุกเดือน ทว่ารายได้นั้นอาจไม่พอในทุกเดือนก็ได้ ถ้าพอก็เดือนชนเดือนแบบที่หลายคนเป็น ไม่ใช่ทุกคนจะเหลือเงินเก็บ ยิ่งทำงานในกรุงเทพฯ ก็ยิ่งยาก นั่นทำให้การเก็บเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉินแทบเป็นไปไม่ได้เลย หากอยากได้เงินมากขึ้นก็ต้องย้ายงานแต่ก็ใช่ว่าจะง่าย บางคนย้ายงานได้บางคนก็ทำไม่ได้
.

ธุรกิจส่วนตัวเงินมาดี แต่ความเสี่ยงก็สูงตามไปด้วย

เป็นดั่งคำว่า “การลงทุนคือความเสี่ยง” เพราะการออกมาทำธุรกิจส่วนตัวต้องทุ่มแรงกาย แรงใจ แรงทรัพย์มากพอสมควรเพื่อให้ธุรกิจออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน จำเป็นต้องศึกษาการทำธุรกิจให้รอบด้าน ศึกษาตลาด คู่แข่ง เทรนด์โลก ลูกค้า ทำเลที่ตั้ง ทุกอย่างล้วนต้องจัดการเอง หากคุณเลือกเป็นนายตัวเองแล้วก็มีแต่ต้องเดินหน้าลุย สำคัญสุดต้องมีเงินก้อนฉุกเฉินหากไม่สามารถดำเนินกิจการต่อได้ ธุรกิจล้มได้แต่เราจะล้มตามธุรกิจไปด้วยไม่ได้ กลับกันถ้าทุกอย่างออกมาดี ลูกค้าเข้า สินค้าถูกจริต บริการประทับใจ ก็เตรียมรับทรัพย์เต็มกระเป๋าได้เลย
.
.

งานประจำ – ธุรกิจส่วนตัว มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร?

.

เวลา

งานประจำ : คุณจะมีเวลาที่ค่อนข้างแน่นอน เข้างานตามบริษัทกำหนด ทำงาน 8-9 ชั่วโมงเสร็จก็กลับบ้านพักผ่อน นั่นทำให้คุณมีเวลาให้กับตัวเอง ครอบครัว และคนรอบข้างมากขึ้น ใส่ใจตัวเองได้มากขึ้น มีเวลาไปเที่ยวทุกสุดสัปดาห์ มีวันหยุดที่แน่นอน

ธุรกิจส่วนตัว : เวลาการเข้างานอาจไม่จำเป็น จะเข้าเที่ยงเลิกเย็นก็ทำได้เพราะมันคือธุรกิจของเราเอง แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ทุ่มเวลาให้กับธุรกิจกันหมด ธุรกิจเปรียบเหมือน “ลูก” ทำให้เกิดมาก็ต้องเลี้ยงดูให้ดี คอยหมั่นหาความรู้ พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ใส่ใจอย่างถึงที่สุดเพื่อทำให้ธุรกิจเติบโต แข็งแรง มั่นคง และเมื่อถึงวันที่ธุรกิจยืนด้วยตัวมันเองได้ ผลตอบแทนคือรายได้ที่เข้ามาโดยไม่ต้องลงแรงหรือ Passive Income นั่นเองแต่กว่าจะถึงเวลานั้นได้ต้องใช้ “เวลา” ไม่น้อยเลยทีเดียว
.

รายได้

งานประจำ : รายได้หลักมาจากเงินเดือน ค่าคอมมิสชันหรือ OT บ้างตามโอกาส ถ้าอยากได้เงินเดือนสูงขึ้น ก็ต้องพัฒนาความสามารถ สั่งสมประสบการณ์แล้วย้ายงานไปสายงานโตขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมีรายได้แน่นอนก็ทำให้การใช้จ่ายเงินง่ายขึ้น วางแผนการใช้เงินได้ตามอัตราเงินเดือนที่ได้รับ

ธุรกิจส่วนตัว : รายได้เป็นสิ่งไม่แน่นอน ต้องโฟกัสเงินเป็นรายวันว่าขายดีหรือไม่ ขายได้เท่าไร ต้องแก้ปัญหาตลอดเวลาเพื่อหารายได้และกำไรโดยคนซื้อก็ซื้อไหวคนขายก็อยู่รอด การทำธุรกิจจะมีจุดที่รายได้ติดลบเลยก็ว่าได้ ทำให้คนที่เตรียมใจไม่มากพอถอดใจปิดกิจการไปเสียก่อน กว่าจะทำให้ลูกค้ามาใช้บริการจนตั้งตัวได้มีอย่างน้อย 6 เดือน – 3 ปีแน่นอน แต่ถ้าทำได้ก็การันตีรายได้ที่มากกว่างานประจำหลายเท่าตัว
.

การทำงาน

งานประจำ : ในบริษัทมักจะมีทีมที่ช่วยกันทำงาน ทำโปรเจ็กต์ให้ออกมาสำเร็จตามเป้าอยู่แล้ว เราก็มีหน้าที่ที่เฉพาะ ทำงานตามมอบหมาย ในเรื่องของเพื่อนร่วมงานก็มีทั้งดีและไม่ดี เจอดีก็ถือว่าโบนัส เจอที่แย่ก็อาจย้ายแผนกหรือย้ายงานเพื่อชีวิตการทำงานที่ดีขึ้นได้

ธุรกิจส่วนตัว : การเริ่มธุรกิจนั้นมักเริ่มจากคนไม่กี่คน อาจเป็นเพื่อนหรือครอบครัวร่วมกันสร้าง ยิ่งคนน้อยงานก็ยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย เพิ่มเริ่มทำธุรกิจก็ยังไม่มีเงินจ้างพนักงานก็ต้องทำงานด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งงานเยอะเกินไปจนล้มป่วยก็มี
.

แล้วแบบไหนที่ดีกว่ากัน คือสิ่งที่ทุกคนต้องตัดสินใจให้เข้ากับตัวเองมากที่สุด เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ผิด เลือกทำงานประจำอย่างเดียวก็ได้หากคุณมองว่ารายได้มากพอ บริหารจัดการจนมีใช้ยามเกษียณได้ก็ถือว่าดี หากมาทำธุรกิจก็ต้องมั่นใจว่าพร้อมทั้งกายใจและเงินทุน เพราะความเสี่ยงค่อนข้างสูงมาก แต่ถ้าศึกษามาเป็นอย่างดี บริหารจัดการอย่างเป็นระบบ การมีธุรกิจก็ช่วยให้คุณมีเงินใช้อยู่ตลอดและสืบทอดกิจการให้คนรุ่นหลังได้ ทั้งหมดนั้นอยู่ที่ว่าคุณพอใจและพร้อมกับตัวเลือกไหนเท่านั้นเอง