“ถ้ามองในมุมธุรกิจ ผมเริ่มจากจุดที่เล็กมากๆ คือ ทำคนเดียวตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ อาศัยว่าเราเป็นนักปั่นและเป็นคนในพื้นที่ เราคุ้นเคยกับเส้นทางในป่าเขาเป็นอย่างดี แล้วก็เข้าใจความต้องการของนักปั่นดาวน์ฮิลล์ เราก็จะพาเขาไปได้ทุกที่ พอเขาประทับใจก็บอกต่อๆ กันว่าถ้ามาปั่นที่เชียงใหม่ ก็ต้องติดต่อผม”
ธุรกิจ X-Biking เป็นบริการนำทางกึ่งๆ นำเที่ยว พร้อมกับรับทีมงานเข้ามาเพิ่ม ซึ่งก็เป็นพี่น้องนักแข่งด้วยกัน ทุกคนสามารถดูแลลูกค้าได้ ตั้งแต่ปั่นไม่เป็นเลย อยากหัดปั่น จนถึงระดับนักปั่นอาชีพ มีเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก คือเครื่องมือที่ คุณพรเทพ นำมาใช้สื่อสารการตลาดใช้ตัวเองเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เมื่อปั่นผ่านป่าเขาน้ำตกหรือยอดดอยใด ก็จะถ่ายรูปสวยๆ แล้วแชร์ผ่านโลกออนไลน์ กระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความเชื่อใจมาใช้บริการ
ปัจจุบันมีบริษัทเปิดให้บริการทัวร์จักรยานอย่างคึกคัก แต่ คุณพรเทพ ก็ไม่หวั่นกับการแข่งขัน เพราะรู้ดีว่าธุรกิจของเขามีดีมากพอที่ลูกค้าจะตัดสินใจจับจองใช้บริการ การันตีได้จากการที่ X-Biking เป็นบริษัททัวร์ที่ได้รับประกาศนียบัตรชนะเลิศการบริการยอดเยี่ยมจาก Trip Advisor 3 ปีซ้อน (2012-2014)
“เรามีจุดแข็งหลายอย่างที่บริษัททัวร์ทั่วไปทำไม่ได้ ถึงจะมีเงินลงทุนมากก็ตาม หลักๆ คือ ลูกค้ามาเพราะอยากขี่กับผม หากผมไม่ติดอะไร กระทั่งลูกค้าคนเดียว ผมก็จะไปด้วยทุกครั้ง”
สำหรับเส้นทางขี่จักรยาน ส่วนใหญ่แต่ละบริษัทจะมีเส้นทางให้ลูกค้าเลือกว่าจะขี่ในเส้นทางใด ระดับความยากง่ายที่รับได้ แต่ X-Biking จะเลือกและออกแบบเส้นทางปั่นให้กับลูกค้า เพื่อความปลอดภัยไปตลอดทาง
“นักปั่นบางคนมีความมั่นใจสูง เลือกเส้นทางแบบยากๆ เลย เอาเข้าจริงก็เกิดอุบัติเหตุ บางคนหมดสนุก เพราะขี่ไม่ได้ ต้องเปลี่ยนจากปั่นมาเป็นเดินก็มี บางคนทักษะดี เจอเส้นทางง่ายๆ ก็กลายเป็นน่าเบื่อ วิธีของเราจะเน้นความยืดหยุ่น ใช้ประสบการณ์ประเมินลูกค้า แล้วเลือกเส้นทางที่เหมาะกับทักษะของเขา เพื่อให้ลูกค้าสนุกกับการปั่นมากที่สุด”
ทั้งนี้ เกือบ 100% ของลูกค้า X-Biking เป็นชาวต่างชาติ อาทิ ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อเมริกา ออสเตรเลีย และ 70% เป็นนักปั่นจักรยานอาชีพ ที่บินมาเชียงใหม่พร้อมจักรยานคู่ใจ เพื่อใช้เวลา 3-5 วันในการเข้าป่าปั่นเสือภูเขาโดยเฉพาะ อีก 30% เป็นนักท่องเที่ยวที่อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศทัวร์ด้วยจักรยาน ซึ่ง คุณพรเทพ ก็ได้เตรียมจักรยานทั้งครอสคันทรีและดาวน์ฮิลล์ให้เช่าวันละ 500 บาท และ 800 บาทตามลำดับ
สำหรับอัตราค่าบริการนำทัวร์มีค่าใช้จ่ายคนละ 2,000 บาท/คน/วัน หากมาเป็นกลุ่มหรือลูกค้าเก่าคุณพรเทพ ยังจะมีส่วนลดพิเศษให้อีกด้วย ซึ่งการออกทริปนำทัวร์แต่ละครั้ง ก็จะมีรถกระบะ 1 คัน สำหรับรับ-ส่งลูกค้า โหลดรถ ตลอดจนคอยบรรทุกอาหารและเครื่องดื่มสำหรับให้บริการลูกค้า
“ธุรกิจนี้ถือว่าสร้างรายได้ที่ดี มีกำไรอยู่ที่ประมาณ 40% แต่คนที่จะมาทำอาจจะยากสักหน่อย ถ้าไม่ใช่นักปั่น หรือคนในพื้นที่ เพราะธุรกิจค่อนข้างเฉพาะทาง อย่างช่วงหน้าฝนซึ่งเป็นโลว์ซีซั่น รายได้จะน้อยหน่อย ก็ต้องอยู่ให้ได้ และใช้ช่วงนี้สำรวจเส้นทางใหม่ รวมทั้งดูแลรักษาเส้นทางเก่า เพื่อให้พร้อมรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการจำนวนมากในช่วงไฮซีซั่น”
แม้จะหันมาทุ่มเทให้กับธุรกิจเต็มตัว แต่ คุณพรเทพก็ยังไม่ทิ้งสนามแข่งขัน ยังคงสะสมประสบการณ์การขี่จักรยานดาวน์ฮิลล์ถึงวันนี้ก็ 14 ปีแล้ว ขณะเดียวกันก็ผันตัวเองมาเป็นออแกไนเซอร์จัดการแข่งขันดาวน์ฮิลล์นานาชาติ รายการ Chiangmai Downhill Challenge ปี 2012 และ 2013 สร้างสีสันให้ตลาดสองล้อเมืองไทย