หลังจาก “การ์เร็ต ป๊อปคอร์น” จากอเมริกาบินตรงเข้ามาทำตลาด ส่งผลให้ตลาดป๊อปคอร์นในประเทศไทยเริ่มมีความคึกคักมากขึ้น เห็นได้จากผู้ประกอบการต่างให้ความสนใจเข้ามาชิงแชร์ในตลาดป๊อปคอร์นครั้งนี้ จากช่องว่างของตลาดป๊อปคอร์นในประเทศไทยที่ยังมีให้เข้าไปทำตลาดอีกมาก ทำให้ คุณฤกษ์วัส อินทะกนก เปิดธุรกิจป๊อปคอร์นแบรนด์ “ป๊อปคอร์นเนอร์” ขึ้นมา และมุ่งขยายสาขาไปทุกจังหวัด
ความโดดเด่นของธุรกิจ เริ่มตั้งแต่รูปแบบรถเข็นทำจากสแตนเลส ขนาดกะทัดรัด สะดวกและง่าย ในการเคลื่อนย้าย ตกแต่งร้านด้วยสีสันสะดุดตาอย่างสีฟ้า – สีเหลือง รวมไปถึงกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ในส่วนของวัตถุดิบก็คัดสรรคุณภาพ ตั้งแต่การนำเข้าวัตถุดิบ อย่างเมล็ดข้าวโพด ต้องมีลักษณะเรียวเมื่อนำมาคั่วด้วยความร้อนจะแตกฟูเป็นรูปคล้ายๆ ผีเสื้อ เนยก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่สำคัญซึ่งได้ทำการปรุงเป็นเนยสูตรสำเร็จเพื่อความสะดวก ในการปรุงป๊อปคอร์น
“รสชาติก็สามารถครีเอทได้หลากรสอย่างไม่มีเบื่อกับ 12 รสชาติ ที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้วว่าล้วนได้รับความนิยมและขายดี ได้แก่ รสเค็มดั้งเดิม รสคาราเมล รสชีส รสบาร์บีคิว รสลาบ รสเบคอน – ชีส รสข้าวโพด รสต้มยำ รสโนริสาหร่าย รสซาวครีม รสปาปริก้า และ รสพิซซ่า ทุกๆ รสชาติมีความอร่อยที่แตกต่างกันไปและมีความกรอบยาวนาน” คุณฤกษ์วัส กล่าวถึงจุดเด่นเรื่องรสชาติอีกหนึ่งจุดขายสำคัญของป๊อปคอร์นเนอร์
ทั้งนี้ ป๊อปคอร์นเนอร์ เปิดขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ มีให้เลือก 2 การลงทุน ประกอบด้วย
แพ็คเกจ M รูปแบบคีออสก์รถเข็นแบบไม่มีหลังคา ราคา 29,900 บาท สามารถผ่อนชำระได้ สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับ คือ คีออสก์รถเข็น สแตนเลสเกรด Aตู้อบป๊อปคอร์น ป้ายร้าน กล่องป๊อปคอร์น 300 กล่อง อุปกรณ์ที่จำเป็นในการขายทุกรายการ เช่น กล่องเก็บของ
ถุงหิ้ว ช้อนถ้วยตวง อุปกรณ์ทำความสะอาด และวัตถุดิบที่ใช้ผลิตป๊อปคอร์น เช่น เมล็ดข้าวโพด เนย และผงปรุงรสต่างๆ สำหรับขาย 300 กล่อง
แพ็คเกจ L รูปแบบคีออสก์รถเข็นแบบมีหลังคา ราคา 39,900 บาท สามารถผ่อนชำระได้ สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับ คือ คีออสก์รถเข็น สแตนเลสเกรด A โครงหลังคาสแตนเลส ป้ายร้าน กล่องป๊อปคอร์น 1,000 กล่อง อุปกรณ์ที่จำเป็นในการขายทุกรายการ เช่น กล่องเก็บของ
ถุงหิ้ว ช้อน ถ้วยตวง อุปกรณ์ทำความสะอาด และวัตถุดิบที่ใช้ผลิตป๊อปคอร์น เช่น เมล็ดข้าวโพด เนย และผงปรุงรสต่างๆ สำหรับขาย 600 กล่อง
คุณฤกษ์วัส กล่าวถึงความน่าสนใจของธุรกิจป๊อปคอร์นเนอร์ว่า มีความเสี่ยงน้อย กำไรสูง สามารถ
คืนทุนได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 เดือน เป็นสินค้าที่มีวัตถุดิบน้อยรายการและเก็บรักษาง่าย ไม่มีวันเสียต้นทุนต่ำ ขายได้ราคาสูง ยกตัวอย่าง กล่องเล็กต้นทุน5 บาท ขาย 20 บาท และกล่องใหญ่ต้นทุน 8 บาท ขาย35 บาท ระยะคืนทุนประมาณ 2 เดือน
อีกทั้งบริหารงานได้ง่าย สามารถจ้างพนักงานขายแทนได้ เพราะมีการตวงวัดวัตถุดิบทุกอย่างตามสูตรสามารถเช็คยอดขายได้ง่ายจากการนับกล่อง นอกจากการลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์แล้วยังมีบริการให้เช่าธุรกิจชั่วคราวในรูปแบบแพ็คเกจอีเว้นท์อีกด้วย เริ่มตั้งแต่ 100 กล่องขึ้นไปกับป๊อปคอร์นกล่องใหญ่ ลงทุนเริ่มต้นที่ 3,000 บาท โดยระบบการขายทุกอย่างทางแฟรนไชส์จะเป็นผู้จัดการให้ทั้งหมด
ผู้ที่ต้องการลงทุนแต่ยังไม่มีทำเล คุณฤกษ์วัสขอแนะนำทำเลที่ Big C เนื่องจากในเบื้องต้นได้ทำการติดต่อไว้ให้สำหรับแฟรนไชส์แล้ว เพื่อรองรับผู้ที่อยากลงทุนแต่ยังไม่มีทำเล ก็สามารถเข้ามาลงทุนเปิดร้านได้ทั้ง Big C Market และ Mini Big C ได้ทั่วประเทศ สนใจธุรกิจติดต่อ โทร. 08-9422-3003
