เช่นเดียวกับคุณภาพและชื่อเสียงของ คุณพัฒน์จินนท์ ภูริชาบวรนิจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บางกอกบิซิเนส ออนไลน์ จำกัด ที่การันตีด้วยชื่อเสียงในการเป็นผู้ผลิตจัดจำหน่ายและมีระบบ Server ที่ทันสมัย ด้วยระบบ Cloud System รายแรกของประเทศไทย พร้อมรองรับเพื่อนร่วมธุรกิจที่เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย รวมไปถึงลูกค้าผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยได้อย่างไม่จำกัดจำนวน และยังเป็นตัวแทนจำหน่ายตู้เติมเงินออนไลน์โดยตรงจากเครือข่ายผู้ให้บริการในประเทศไทย โดยใช้งบประมาณลงทุนพัฒนาในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น Software, Hardware,Logistics, Call center รวมไปถึงสำนักงาน โดยใช้งบประมาณเงินลงทุนไปกว่า 40 ล้านบาท จนวันนี้บริษัทฯ มีความมั่นคงแข็งแรงและเป็นที่ยอมรับจากพาร์ทเนอร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอเข้าสู่ตลาด และพร้อมที่จะให้คำปรึกษากับนักลงทุนทุกระดับชั้นด้วยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์เฉพาะด้าน รวมทั้งในปัจจุบันยังเพิ่มแผนกออกแบบตกแต่งร้านค้าแฟรนไชส์ให้ครบวงจรอีกด้วย และในปี 2558 นี้ ยังคงมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเพื่อรองรับ AEC อย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจหยอดเหรียญภายใต้การดำเนินงานของบางกอกบิซิเนส ประกอบด้วย ตู้เติมเงินมือถือออนไลน์ “BB ท็อปอัพ” รุ่นไฉไล ใหม่ล่าสุด กับโมเดล Concept ตู้รูปสัตว์อารมณ์ดี (ได้รับใบลิขสิทธิ์ด้านศิลปกรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553) ผลิตจากวัสดุไฟเบอร ์(วัสดุเดียวกับเรือ) ทนแดด ทนฝน อายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี ลูกค้าสามารถเลือกสีและเปลี่ยนแปลง “หน้าตา” ได้ตามต้องการ ถือเป็นตู้เติมเงินรายเดียวในประเทศไทยที่รูปทรงมีความสวยงาม น่ารัก สะดุดตาผู้พบเห็น มีความคงทน ที่สำคัญ บางกอกบิซิเนส ยังคงเน้นเรื่องการบริการหลังการขาย เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจเกิดความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอะไหล่ ที่มีรองรับลูกค้าในระยะยาว และมีทีมบริการที่ลงพื้นที่ทุกตำบล ทั่วประเทศไทย

“ตู้เติมเงินของเราจะเน้นเรื่องของคุณภาพ และลูกค้ายังได้ผลกำไรที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทนจากเครือข่ายผู้ให้บริการ และจากค่าบริการต่อครั้ง เช่น หากเติม 20 บาท เก็บค่าบริการ 2 บาท ผู้ลงทุนได้รับ 10% บวกกับค่าบริการ 3.5%-4.5% เท่ากับผู้ลงทุนได้รับทั้งหมดประมาณ 14.5% ลูกค้าเราจะได้รับเงินเต็มจำนวนไม่โดนหักใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าเดือนนึงมีคนมาเติมเงินที่ตู้ของท่าน 30,000 บาท เท่ากับท่านจะได้รับผลกำไร 30,000*14.5% คิดเป็นรายได้ 4,350 บาท/เดือน” คุณพัฒน์จินนท์อธิบายถึงรายรับของธุรกิจตู้เติมเงิน

นอกจากนี้ บางกอกบิซิเนส ยังมีอีกหนึ่งบริการให้กับกลุ่มผู้ประกอบการตู้เติมเงินออนไลน์ที่ไม่ใช่ระบบ Server หรือที่เรียกกันว่า “ตู้ 3 ซิม” ซึ่งมีอยู่ราว 8 หมื่นตู้ทั่วประเทศ ด้วยการเตรียมเปิดรับการเชื่อมต่อระบบ Server ในชื่อ “Center Top Up” ไม่ว่าท่านจะผลิตแผงวงจรเอง หรือนำเข้าจากต่างประเทศ หรือจะเป็นตู้เติมเงินเก่ายี่ห้อใดก็ตาม ซึ่งตู้ทุกตู้และทุกแบรนด์ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ตัวรับสัญญาณใหม่ทั้งหมด เนื่องจากผู้ให้บริการเครือข่ายหมดสัมปทาน เช่น ระบบ AIS จากเดิมคลื่นความถี่ 900 MHz เปลี่ยนเป็นคลื่นความถี่ 2100 MHz, ระบบ True จากเดิมคลื่นความถี่ 1800 MHz เปลี่ยนเป็นคลื่นความถี่ 850 MHz และยังมีระบบอื่นๆ ที่จะหมดสัมปทานการให้บริการคลื่นความถี่เดิมในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะมีผลทำให้ตัวตู้เติมเงิน (แบบ 3 ซิม) มีผลทำให้ไม่สามารถรองรับ SIM CARD ใหม่ได้ เพราะอุปกรณ์โมดูลในตู้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้ ตู้ก็จะใช้งานไม่ได้

“เราจึงสร้าง Software เพื่อรองรับทั้งตู้รุ่นเก่าและตู้รุ่นใหม่ด้วยค่าเชื่อมต่อระบบ Server ใหม่เพียง 1,000 บาทต่อตู้ (ไม่รวม Hardware) โดยปีนี้ธุรกิจตู้เติมเงินมือถือออนไลน์อนาคตยังสดใส เพราะเปรียบเสมือนว่าเริ่มนับหนึ่งใหม่ในธุรกิจนี้  ซึ่งที่ผ่านมาปี 2556 มูลค่าการเติมเงินในตลาดมีหลายหมื่นล้านบาทต่อเดือน อีกทั้งการเติมเงินยังคงเป็นที่ต้องการสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้เพียงแค่โทรเท่านั้น อาทิเช่น การเล่นโซเชียล Line, Facebook, การซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่น เป็นต้น”ผู้จัดการบางกอกบิซิเนสกล่าว

นอกจากที่กล่าวมา บางกอกบิซิเนส ยังมีตู้บริการอัตโนมัติประเภทอื่นๆ ให้ร่วมลงทุน เริ่มจาก ตู้ชำระบิล “BB Dragon” ที่เราเชื่อมต่อระบบการชำระบิลโดยตรงกับผู้ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งผู้ลงทุนจะมีรายได้จากการรับชำระบิล ตั้งแต่ 4-10 บาท (ได้รับตลอดชีวิต) อาทิเช่น ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าผ่อนสินค้า, ค่าบัตรเครดิต ฯลฯ ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงแค่ลูกค้านำบิลไปที่จุดสแกนบาร์โค้ดที่อยู่บนเครื่อง แล้วเครื่องจะประมวลผล หลังจากนั้นจ่ายธนบัตรใส่ในตู้ แล้วรอรับใบเสร็จ เป็นอันจบขั้นตอน ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว เงินที่ท่านชำระก็จะนำส่งไปยังผู้ให้บริการโดยตรงทันที สะดวก ปลอดภัย โปร่งใส เพียงแค่เสียค่าธรรมเนียมการใช้บริการเพียงเล็กน้อย เสมือนท่านไปชำระที่เคาน์เตอร์บริการทั่วไป

ตู้เติมน้ำมันอัตโนมัติ “BB PUMP” โดยบางกอกบิซิเนส ซึ่งเราได้คัดเลือกอุปกรณ์และผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงพลังงานว่าถูกต้องตามกฎหมายและปลอดภัย สามารถขอใบอนุญาตต่างๆ ได้ครบถ้วน รวมถึงเรื่องอุปกรณ์ และอะไหล่ ซึ่งนำเข้าจากประเทศอิตาลี เครื่องมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการให้บริการ

ในส่วนผลตอบแทน ผู้ลงทุนจะได้ส่วนต่างจากราคาน้ำมัน ยกตัวอย่าง แก๊สโซฮอล์ 91 ราคาตามสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 38 บาท สามารถตั้งราคาขายโดยบวกกำไรได้ลิตรละ 5-10 บาท พร้อมทั้งออกแบบ mini ปั๊ม ให้เกิดความสวยงามและได้มาตรฐานกับลูกค้าฟรี! ซึ่งสามารถนำแบบไปก่อสร้างปั๊มน้ำมันขนาดย่อมได้

ตู้ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ แบรนด์ “บรูซลีฮียอล” สไตล์เกาหลี ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีผู้ประกอบการมากกว่า 100 สาขาแล้ว และในปี 2558 นี้ ยังคงขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดโอกาสให้กับเจ้าของธุรกิจร้านอาหารในสไตล์บุฟเฟ่ต์นำเครื่องทำไอศกรีมไปใช้ฟรี! ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก เพียงมีเงินค้ำประกันเครื่อง 2 หมื่นบาท (ซึ่งปกติราคาเครื่องจำหน่ายอยู่ในราคา 89,000 บาท) เช่น ร้านเนื้อย่างเกาหลี ร้านกุ้งย่าง เป็นต้น โดยร้านที่รับเครื่องไปแค่ซื้อวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตจากเรา อาทิเช่น ผงไอศกรีม ในราคาเพียง ถุงละ 200 กว่าบาท เท่านั้น โดยแคมเปญนี้มีประมาณ 100 เครื่องเท่านั้น รับเฉพาะร้านบุฟเฟ่ต์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล

กลุ่มธุรกิจบริการ “mPAY STATION” คือ จุดรับชำระค่าสินค้าและบริการในรูปแบบเคาน์เตอร์บริการโดยผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งเราเป็น Master Agent ที่ทำธุรกิจร่วมกับ บริษัท แอ๊ดวานซ์ เอ็มเปย์ จำกัด เปิดให้บริการมากว่า 10 ปี และยังเป็น Master Agent ให้กับ “ทรูมันนี่” อีกหนึ่งธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับจุดรับชำระค่าสินค้าและบริการ โดยใช้ชื่อว่า “ทรูมันนี่ เอ็กซ์เพรส” ซึ่งมีบริการที่หลากหลาย

ทั้ง “mPAY STATION ” และ “ทรูมันนี่ เอ็กซ์เพรส” ได้รับอนุญาตจาก “ธนาคารแห่งประเทศไทย” ให้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และยังได้รับใบอนุญาตจาก “กรมสรรพากร” ในการเป็นตัวแทนรับชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆ อีกด้วย

“ลงทุนเริ่มต้นจัดซื้ออุปกรณ์การทำงานและฝึกอบรม โดยใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 23,000 บาท ไม่มีค่าบริการรายเดือน ไม่มีค่าบริการรายปี เหมาะกับทุกๆ ธุรกิจ อีกทั้งสมาชิกยังได้ผลตอบแทนจากการชำระบิล ในทุกๆ รายการ เฉลี่ย 6-8 บาทต่อบิล ขึ้นอยู่กับสินค้า ทุกคนสามารถเข้าร่วมธุรกิจนี้ได้ ไม่ว่าท่านจะเป็นร้านค้าหรือไม่มีร้านค้าก็ตาม ตัวอย่างเช่นที่ผ่านมาเรามีลูกค้าเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งลูกค้าท่านนี้ต้องการมีรายได้เสริมจึงได้มาปรึกษาเราเพื่อขอนำระบบรับจ่ายบิลไปรับจ่ายบิลให้กับเพื่อนๆ ในโรงงาน ซึ่งมีพนักงานกว่า 2,000 คน ด้วยการขอการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานชำระบิลกับเขาเพียงคนละ 1 บิล/เดือน ซึ่งมีเพื่อนร่วมงานเขาจำนวนมากที่ให้การสนับสนุนจนทำให้เขามีรายได้กว่า 12,000 บาท/เดือน (1 บิลได้ผลตอบแทนจากระบบ 6-8 บาท) โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนเป็นแสนเพื่อเปิดธุรกิจบริการรับชำระค่าสินค้าและบริการแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีรายได้ที่ถาวรตลอดไป เพียงแค่จัดซื้ออุปกรณ์เพื่อใช้ในการทำงานเพียงครั้งเดียว” พัฒน์จินนท์กล่าวถึงช่องทางในการหารายได้เสริม

นอกจากนั้นยังมีธุรกิจชุดโปรแกรมสำเร็จรูปพร้อมอุปกรณ์สำหรับร้านมินิมาร์ท หรือที่เรียกว่าชุด “POS” สำหรับผู้ประกอบการ ที่ทำธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ด้วยเงินลงทุน 59,000 บาท พร้อม Software อีก 3 ตัว ได้แก่ Software บริหารจัดการร้านค้า (สามารถบริการสินค้าได้กว่า 9,000 รายการ) และระบบชำระค่าสินค้าและบริการ mPAY STATION และ “ทรูมันนี่ เอ็กซ์เพรส” อีกด้วย

ผู้จัดการของบางกอกบิซิเนสยังบอกอีกว่า  ล่าสุดบริษัทเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนอีกหลายแอปพลิเคชั่น ฯลฯ

จากก้าวเดินที่มั่นคงและการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งหมดนี้จึงเป็นการตอกย้ำว่า บางกอกบิซิเนส คือ ตัวจริง สำหรับนักลงทุนทุกท่านอย่างปฏิเสธไม่ได้