ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

ชี้ช่องรวย ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

แบรนด์

Richesse แฟรนไชส์เบเกอรี่ ประสบการณ์กว่า 35 ปีที่สร้างความอร่อยและอาชีพด้วยมาตรฐานคุณภาพสูง

Richesse แฟรนไชส์เบเกอรี่ สายขนมหวาน ขนมเค้ก ขนมปัง ดำเนินงานภายใต้บริษัท เค้ก แอนด์ เบเกอรี่ จำกัด มีประสบการณ์ด้านการผลิตสินค้ากลุ่มเบเกอรี่มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 หรือราว 35 ปีมาแล้ว โดยเกิดจากการร่วมทุนกับบริษัทเบเกอรี่ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นหนึ่งในเครือสหพัฒน์ ที่สามารถผลิตเบเกอรี่คุณภาพสูงได้ โดยมีวิธีการผลิตและเทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน ได้รับเครื่องหมายมาตรฐานการผลิตสินค้าทั้ง GHP, HACCP, HALAL และ SGS ที่บอกเลยว่าแต่ละเครื่องหมายไม่ได้ได้มาง่าย ๆ ก็ต้องฝ่าฟัน ต้องของดี คุณภาพได้ ถึงจะได้รับการรับรองในระดับสากล   จุดเด่นของ Richesse -มีโรงงานผลิตสินค้าและพัฒนาสินค้าได้อย่างมีมาตรฐาน ได้รับการยอมรับจากสากล -สินค้าที่ทำออกมามีหลากหลายรูปแบบทั้ง เค้กหน้าตาน่าทาน เบเกอรี่ประเภทต่าง ๆ อย่างพวกขนมปัง และเครื่องดื่ม -มีระบบการอบรมพนักงานขาย สำหรับการขายหน้าร้าน การผลิตสินค้า และการบริการโดยรวม ข้อมูลการลงทุน งบลงทุนที่ใช้ : 280,500 บาท (รูปแบบ A) ขนาดพื้นที่จำเป็น […]

ขายของออนไลน์

3 เทคนิคขายของออนไลน์ง่าย ๆ สำหรับผู้เริ่มต้น ไม่ต้องสต๊อกสินค้า ทำที่ไหนรายได้ก็เข้า

การขายของออนไลน์ ถือเป็นช่องทางการหารายได้ชั้นดีในยุคโซเชียลมีเดียทุกวันนี้ บางคนเลือกทำเป็นอาชีพเสริม บางคนก็ทำเป็นอาชีพหลักแต่แน่นอนว่าต้องใช้เวลาค่อนข้างมากกว่าการทำงานประจำที่มีกรอบเวลาชัดเจน จึงมีความกลัวไม่กล้าจะลอง กลัวไม่ดี กลัวเวลาไม่พอในการทำ วันนี้เราขอมาแนะนำเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณขายของบนโลกออนไลน์ได้ง่าย ๆ แถมไม่ต้องสต๊อกสินค้าด้วย 1.Pre-Order วิธีนี้ถือว่าค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะไม่ต้องไปลงทุนซื้อของมาสต๊อกไว้ก่อน เพียงแค่หาสินค้าที่กำลังเป็นกระแส สินค้าที่น่าสนใจ สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการในช่วงนี้ของผู้บริโภค บวกราคากำไรเข้าไปเล็กน้อย แล้วไปโพสต์รับพรีออเดอร์สินค้าในเพจหรือช่องทางของตัวเอง พร้อมกำหนดขอบเขตเวลาการสั่งให้เรียบร้อย เมื่อมีออร์เดอร์เข้ามาก็คัดแยกรวบรวมออร์เดอร์ให้ดี เป็นระเบียบ ดูว่าลูกค้าต้องการสินค้าอะไรบ้าง (ในกรณีที่โพสต์ขายสินค้าหลายชิ้น) จากนั้นก็ทำการสั่งซื้อจากร้านค้าที่วางขาย โรงงานที่ผลิต หรือสั่งจากต่างประเทศเข้ามา โดยจ่ายค่าส่งเพียงครั้งเดียวแถมได้ราคาส่งจากร้านค้า ไม่ต้องจัดพื้นที่สต๊อกของ ไม่ต้องมีต้นทุนก็ได้กำไรแบบง่าย ๆ แต่เน้นย้ำว่าร้านค้าหรือแหล่งที่เราสั่งซื้อมานั้นต้องน่าเชื่อถือ คุณภาพดี ไม่หลอกลวง จัดส่งตรงเวลา มิฉะนั้นเราเองที่จะมีชื่อเสียมากกว่าชื่อเสียง 2.Dropship วิธีนี้จะเรียกว่า “ระบบตัวแทน” เป็นการเอาสินค้าของคนอื่นมาลงขายบนโลกออนไลน์ ซึ่งวิธีการคล้ายกับการพรีออเดอร์ แต่วิธีนี้จะมีสินค้าพร้อมส่งได้ทันทีโดยใช้ร้านของเราเป็นตัวแทนขาย ไม่ต้องรอรวบรวมออเดอร์แล้วรอผลิตก่อนถึงจะจัดส่งได้ ตัวแทนมีหน้าที่แค่หาช่องทางการขายและโพสต์ขาย ทำให้ลูกค้าสนใจสินค้าเท่านั้น แต่สำหรับหน้าที่ของการผลิต สต๊อกสินค้า การแพ็กของ ส่งของถึงมือลูกค้า เป็นหน้าที่ของเจ้าของแบรนด์ หรือร้านค้าที่เราเข้าไปเป็นตัวแทนขายด้วย 3.Affiliate Marketing หลายคนคงเคยได้ยินและได้เห็นวิธีนี้กันมาไม่น้อย […]

คุณค่าแบรนด์

5 เทคนิคสร้างคุณค่าแบรนด์ เพิ่มความไว้ใจ สร้างสายใยกับลูกค้า

การสร้างคุณค่าแบรนด์ เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากในวงการธุรกิจทั่วโลก เพราะมันเป็นการสร้างความไว้วางใจ ความเชื่อใจ และความผูกพันกับกลุ่มเป้าหมายของเราโดยตรง เพื่อให้มีเอกลักษณ์และคุณภาพที่ลูกค้าต่างพึงพอใจ จะมีอะไรบ้างที่เพิ่มคุณค่าให้แบรนด์เราได้ ไปดูกัน! 1.หากลุ่มเป้าหมายที่ใช่ กลุ่มเป้าหมายเป็นเรื่องสำคัญลำดับแทบจะแรกสุดในธุรกิจ เพราะพวกเขาคือคนนำเงินมาให้เราแลกกับความต้องการของตัวเอง แบรนด์จะแข็งแกร่งได้ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายด้วย อีกทั้งเราจำเป็นต้องเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายเรานั้นต้องการอะไร เจอปัญหาอะไร แล้วปัญหานั้นเราแก้ได้หรือไม่ และข้อดีของการรู้กลุ่มเป้าหมายคือ เราจะได้ปรับปรุงสินค้า-บริการของแบรนด์เราให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้นได้ คุณค่าในตัวก็มากขึ้นตามไปอีก 2.หาเอกลักษณ์แบรนด์ เอกลักษณ์แบรนด์จะช่วยทำให้แบรนด์ของเราดูแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น ๆ สะท้อนค่านิยมหลักของแบรนด์ ทำให้เห็นวิสัยทัศน์ขององค์กรได้มากขึ้นว่าใส่ใจผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด ทำให้ความเชื่อใจของลูกค้าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ การใช้สี โลโก้ และการออกแบบที่สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแบรนด์จะช่วยสร้างการจดจำในใจของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 3.สื่อสารอย่างเข้าใจง่าย จะสร้างคุณค่าทั้งทีก็ต้องมีการสื่อสารที่ดีด้วย และการสื่อสารที่ดีก็ควรสื่อความด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ควรใช้ศัพท์เฉพาะที่ซับซ้อนหรือมีการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน เพราะอาจทำให้ลูกค้าเกิดความสับสนและไม่เข้าใจว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณมีประโยชน์อย่างไร ควรใช้ภาษาเรียบง่ายที่สื่อถึงคุณสมบัติเด่นของผลิตภัณฑ์และประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับอย่างชัดเจน หรือจะเพิ่มกรณีศึกษาเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นด้วยก็จะดีมาก 4.สื่อผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เครื่องมือที่ทรงพลังมากที่สุดในการสื่อสารและทำการตลาดก็คงหนีไม่พ้น “โซเชียลมีเดีย” ทั้ง Facebook Instagram TikTok หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่กลุ่มเป้าหมายของเราใช้ เพื่อสื่อสารและแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของแบรนด์เรา อาจมีคอนเทนต์สนุก ๆ แคมเปญ การรีวิว กรณีศึกษาต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือเข้าไปอีกก็ได้ 5.ติดตามผลและปรับปรุง […]

การสร้างภาพลักษณ์

5 วิธีสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้โดนใจ ใช่สำหรับผู้บริโภค เห็นแล้วเชื่อใจ น่าใช้บริการ

การสร้างภาพลักษณ์ เป็นหนึ่งในวิธีสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของเราสามารถแข่งขันกับแบรนด์อื่น ๆ ได้อย่างสูสี เพราะนอกจากคุณภาพสินค้าและบริการแล้ว ก็มีภาพลักษณ์องค์กรด้วยที่จะต้องมีคุณภาพเช่นเดียวกัน ให้ลูกค้าเห็นแล้วเกิดความมั่นใจ ไว้ใจ เชื่อใจ ในองค์กรของคุณ แล้วจะสื่อสารเรื่องนี้ไปได้อย่างไรลองไปหาคำตอบกัน! 1.First Impression ครั้งแรกย่อมสำคัญเสมอ ถ้าลูกค้ายังไม่ได้รู้จักแบรนด์เรา หรือยังไม่เคยใช้สินค้าของเรามาก่อน การสร้างประสบการณ์แรกนั้นจำเป็นที่สุด ลูกค้าจะรู้เลยว่าแบรนด์คุณเป็นอย่างไรตั้งแต่แรกเห็น อาจเห็นแบรนด์คุณจากเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย คำบอกเล่า ถ้าแบรนด์คุณมีดีไซน์ที่สวย ดูดี เรียบง่าย มีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ ก็สามารถสร้างความประทับใจและรู้สึกดีต่อแบรนด์คุณได้ 2.ขายจุดเด่นของสินค้า ทุกสินค้าต่อให้จะเหมือนกันแต่ก็จะต้องมีตุดแตกต่างที่เป็นขอโดดเด่นของตนเอง ไม่ว่าคุณภาพ สีสัน รูปทรงบรรจุภัณฑ์ วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ราคา ให้ใช้จุดนั้นเป็นตัวชูโรงในการขายสินค้า เพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าในตัวมันเอง 3.ตอบคอมเมนต์อย่างฉลาด ในโลกออนไลน์ใช่ว่าจะมีแต่คอมเมนต์ด้านบวกเสมอไป คอมเมนต์ด้านลบก็มีมากไม่น้อยเช่นเดียวกัน แต่มันอยู่ที่ว่าจะจัดการคอมเมนต์เหล่านั้นอย่างไร ไม่นิ่งเฉย ผิดก็แก้ ลูกค้าไม่พอใจก็ไปขอโทษ ภาพของแบรนด์จะดูเป็นเชิงบวกมากขึ้น น่าเข้ามามากยิ่งขึ้น 4.สร้างการมีส่วนร่วมบนโลกออนไลน์ ทุกช่องทางบนโลกออนไลน์ทั้ง Website Facebook Instagram TikTok ฯลฯ เราจำเป็นต้องสื่อสารกับผู้บริโภค โต้ตอบกับลูกค้า ทั้งการพูดคุย จัดกิจกรรม […]

เรื่องเล่าแบรนด์

4 วิธีสร้างเรื่องเล่าแบรนด์ เพิ่มจุดเด่น เน้นจุดขาย ได้ผลประโยชน์

เรื่องเล่าแบรนด์ เป็นเหมือนหน้าหนังสือ เรื่องย่อ หรือคำนำที่จะบอกเล่าเรื่องราวว่า ธุรกิจนี้มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร เริ่มต้นตั้งแต่แรกมาอย่างไร ใช้แนวคิดอะไรในการสร้างองค์กร การฟันฝ่ากับวิกฤตต่างๆ ด้วยความมุ่งมั่น แนวทางการทำธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือการบอกเล่าจุดยืนของแบรนด์ในการแก้ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อ่านเกิดการรู้จักและจดจำแบรนด์ไปในทางที่ดี จะมีอะไรบ้างไปดูกัน! 1..เข้าใจง่าย ไม่วกวน ไม่งุนงง การเล่าเรื่องที่ดี เริ่มมาจากการวางโครงเรื่องที่ดี เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน โดยจะต้อง เล่าเรื่องตามลำดับเวลา มีบทเกริ่นนำ ตามด้วยเนื้อหาหลัก และจบด้วยบทสรุปที่น่าจดจำ 2.สร้างจุดเด่นให้น่าจดจำ การเล่าเรื่องแบรนด์ตัวเองเหมือนกับกับการทำคอนเทนต์ไม่มีผิด เพราะต้องมีการเล่าให้มีเอกลักษณ์ น่าจดจำ สร้างความโดดเด่นให้อยู่เหนือกว่าคู่แข่ง หากแบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างตรงจุดก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้อีกทางหนึ่ง ยิ่งลูกค้าจดจำเราได้มากเท่าไร ยิ่งเป็นประโยชน์ในระยะยาว 3.สร้างสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า การเล่าเรื่องนั้นต้องมีทั้งความจริง ความจริงใจ และตรงประเด็นเพื่อการสื่อสารที่ตรงจุดกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เมื่อลูกค้าอ่านแล้วรู้อิน มีอารมณ์ร่วมมากเท่าไร จะทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกร่วมกับแบรนด์มากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเป็นเรื่องราวความยากลำบาก ดราม่าสักหน่อย เล่าว่ากว่าจะประสบความสำเร็จต้องผ่านอะไรมาบ้าง จะยิ่งเห็นผลดี 4.กระตุ้นการตัดสินใจ หลังจากที่ลูกค้ารู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับแบรนด์แล้ว ต่อมาที่จะเกิดขึ้นคือ ความภักดีต่อแบรนด์ หรือ Brand Loyalty เพราะความน่าเชื่อถือ ประวัตติต่าง ๆ ที่เล่าลงไปแล้วลูกค้าเชื่อใจจึงทำให้เกิดสิ่งนี้ […]

5 ขั้นตอนให้คนจดจำชื่อแบรนด์ พูดปุ๊บ นึกถึงปั๊บ ไต่ระดับท็อปในใจผู้บริโภค

การที่ลูกค้าจดจำชื่อแบรนด์ของเราได้นั้นเป็นเรื่องที่แสนวิเศษณ์ยิ่งกว่าโชคหล่นทับ แสดงว่าเราโดดเด่น มีเอกลักษณ์ โอกาสการขายก็มากขึ้น รายได้ก็มากขึ้น เป็นที่พูดถึงมากขึ้นนั่นหมายความว่าแบรนด์ของเราเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าแล้ว แต่กว่าจะให้เกิดกรณีแบบนี้นั้นไม่ได้ง่ายดายแน่นอน วันนี้ชี้ช่องรวยก็จะมาบอกขั้นตอนสักหน่อยว่าทำอย่างไรได้บ้างที่จะทำให้แบรนด์เราเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคและจำแบรนด์เราได้ มีอะไรบ้างไปดู! 1.ต้องเป็นท็อปในใจใครทุกคน ถ้าอยากให้คนจำแบรนด์เราได้ เราก็ต้องมีคุณภาพมากพอที่จะยึดส่วนแบ่งทางการตลาดจากคู่แข่งให้ได้ด้วย ยิ่งเห็นเยอะ คนยิ่งจำเยอะ วิธีนี้จำเป็นต้องใช้การทำคอนเทนต์ หรือ Content Marketing มาช่วยเรียกยอดสักหน่อย โดยทำเนื้อหาที่มีประโยชน์ เกิดคุณค่าแก่ผู้บริโภคเพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ในเชิงบวก ให้ลูกค้าจำภาพที่ดีของแบรนด์ ทำออกมาทุกรูปแบบทั้งรูป รส กลิ่น เสียง เดี๋ยวลูกค้าจะค่อย ๆ จำบแรนด์ของเราไปเอง 2.มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร เอกลักษณ์ประจำแบรนด์ หรือ การมี Personality เป็นเรื่องสำคัญมาก จ้องโดดเด่น ชัดเจน มีตัวตนที่คนจำไม่ลืม เพราะอะไรที่เหมือนกันแบบทั่ว ๆ ไป คนมักไม่จำ คนเราจะจำอะไรที่แตกต่างจากชาวบ้านเขาอยู่เสมอ อาจเพิ่มการเล่าเรื่องให้น่าสนใจยิ่งขึ้นก็ช่วยสร้างภาพจำให้ได้ 3. สร้างความมั่นใจให้กลุ่มลูกค้า การสร้างความน่าเชื่อถือทำได้หลายวิธีมาก อาจทำคอนเทนต์ที่ให้ความรู้ ข้อควรรู้ต่าง ๆ ลงโซเชียลมีเดีย ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูดี มีความรู้ น่าเชื่อถือ […]

ความสำเร็จ

6 ตัวชี้วัดความสำเร็จของแบรนด์ หมุดหมายที่ต้องรู้ว่าแบรนด์โตแค่ไหน

ความสำเร็จของแบรนด์ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรรู้ไว้ให้ดี นอกจากจะเป็นความภาคภูมิใจเพราะเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญแล้ว มันยังสะท้อนให้เห็นอีกว่าแบรนด์มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน ถูกใจกลุ่มผู้บริโภคมากเท่าไร การเข้าใจในเรื่องของความสำเร็จของแบรนด์จะช่วยให้คุณสามารถประเมินศักยภาพของตัวคุณเอง ว่าสิ่งที่คุณเป็นสิ่งที่คุณทำและสิ่งที่คุณสื่อสารนั้นมันประสบผลสำเร็จมากน้อยแค่ไหน   1.วัดที่ Brand Awareness   หากอยากรู้ว่าแบรนด์เราดังแค่ไหน ก็ต้องรู้ว่าสินค้าหรือบริการของเราอยู่ในสายตาและการรับรู้ของผู้บริโภค  โดยสามารถจำแนกได้ 2 แบบคือ -การวัดเชิงปริมาณ : วัดจำนวนคนที่รับรู้การมีอยู่ของแบรนด์เราอาจมาจากทั้งการทำคอนเทนต์รูปภาพ-วิดิโอลงแฟนเพจ รวมไปถึงการเข้าคลิกดูเว็บไซต์แล้วมาดูที่ยอดผู้ติดตาม ยอดกดไลก์ กดแชร์ จำนวนคนคอมเมนต์ตามโพสต์ต่าง ๆ ยิ่งมากเท่าไร แสดงว่าแบรนด์เราติดตลาดและสำเร็จไปมากระดับนึงแล้ว -การวัดเชิงคุณภาพ : การสอบถามจากลูกค้าโดยตรงว่ารู้สึกอย่างไรกับแบรนด์ ชอบและไม่ชอบตรงไหนในตัวของสินค้าและแบรนด์ทั้งหมด ยิ่งผลออกไปทางบวกก็ยิ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจมากขึ้นไปอีก 2. การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ต้องมาดูว่าผู้ใช้งานสินค้าและบริการของเรา มีกลุ่มเป้าหมายที่ตั้งใจไว้อยู่เท่าไร สามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายเพิ่มได้มากน้อยแค่ไหน ผลลัพธ์นี้จะออกมาในรูปแบบของเปอร์เซ็นยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดเมื่อนำไปเทียบกับคู่แข่งที่ขายของประเภทเดียวกัน ยิ่งมีทิศทางบวกที่มากจะทำให้แบรนด์อยู่ในสายตาผู้บริโภคมากขึ้น ความนิยมก็มากขึ้นตามไปด้วย 3.ความชื่นชอบในแบรนด์   ตัวชี้วัดนี้จะโฟกัสไปที่ความรู้สึกของผู้บริโภคโดยตรง สิ่งที่เกิดจากประสบการณ์ทั้งการซื้อสินค้าไปใช้งานว่าตอบโจทย์ผู้บริโภคมากหรือน้อยเพียงใด คุณภาพเป็นที่น่าพึงพอใจหรือไม่ ทั้งยังรวมไปถึงการบริการทั้งขณะซื้อและหลังการขายด้วย ลูกค้ามักต้องการการบริการที่ดี ใส่ใจดูแลอย่างเต็มที่ ยิ่งตอบสนองจุดนี้ได้ดีก็เพิ่มความนิยมไปอีกขั้น เมื่อทิศทางลมเป็นเชิงบวก นั่นคือแบรนด์คุณดังอย่างไม่ต้องสงสัย 4.หนึ่งในใจผู้บริโภคไทย วิธีที่วัดง่ายที่สุด ตรงไปตรงมาที่สุด บ้าน ๆ […]