สุรินทร์ พิศสุวรรณ “เมืองขึ้น” กับดักไทยเดินหน้าอาเซียน
หลังการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) นับเป็นโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการชาวไทยที่จะเดินหน้าเต็มตัวเพื่อเข้าสู่การแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งแน่นอนว่า การเตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู่สนามแข่งขันในตลาดเออีซี โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและเล็ก เป็นการบ้านที่นักลงทุนและผู้ประกอบการต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ การเรียนรู้ช่องทางในการทำธุรกิจในกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการ รวมทั้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของอดีตเลขาธิการอาเซียนอย่าง ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ จะทำให้การลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนไปได้อย่างถูกทิศทาง ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ กล่าวไว้ในงานเสวนาหัวข้อ Moving Towards AEC 2015 Chances and Challenges ว่าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนคือการร่วมสร้างศักยภาพของกลุ่มประเทศอาเซียน โดยท่ีประเทศไทยมีความได้เปรียบในเรื่องทำเลที่ตั้งในฐานะประตูสู่ตลาดอาเซียน เป็นศูนย์กลางของความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (ASEAN Connectivity) โดยเป็นทางผ่านของหลายเส้นทางที่สำคัญต่อการเชื่อมโยงการค้าและการคมนาคมในภูมิภาค อดีตเลขาธิการอาเซียนได้เปรียบเทียบไทยกับประเทศสมาชิกอื่นๆ ไว้อย่างน่าสนใจ เช่น สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซีย รวมถึงฟิลิปปินส์ กำลังก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายหลังยุคอาณานิคม แต่ประเทศไทยซึ่งไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใครอาจจะติดอยู่กับอดีตนานเกินไป “เราอาจจะภูมิใจกับการไม่ได้เป็นเมืองขึ้นของใคร และใช้เป็นข้อแก้ตัวว่าภาษาอังกฤษของเราไม่ดี เพราะเราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร เราใช้ข้อแก้ตัวแบบนี้มาตั้งแต่ประเทศเพื่อนบ้านพ้นจากการเป็นอาณานิคมจนกระทั่งปัจจุบัน โดยลืมไปว่าสถานการณ์โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว” ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านที่พ้นจากการเป็นอาณานิคมจำต้องพิสูจน์ว่า คุณสมบัติที่ดีมีอะไรดีและไม่ควรจะเป็นเมืองขึ้นของประเทศอื่นๆ ซึ่งดูเหมือนว่าความคิดดังกล่าวช่วยให้ประเทศเพื่อนบ้านเข้มแข็งและอยู่รอดในเวทีโลกได้มากกว่าไทย เช่น ประเทศเวียดนามซึ่งเคยถูกมองว่าล้าหลัง กำลังเร่งพัฒนาภายใน ทั้งในด้านภาษาและเทคโนโลยี และกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีการคาดการณ์ว่าในอนาคตเวียดนามจะกลายเป็นเสือตัวใหม่ของอาเซียน เป็นต้น “เราต้องตระหนักว่าถ้าทักษะทางภาษาอังกฤษของเราไม่แข็งแรงพอ เราก็ไม่สามารถไปต่อสู้ทางเศรษฐกิจกับชาติอื่นได้ […]



