กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จัดโครงการ “พัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย” ประจำปี 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับนักออกแบบและวงการแฟชั่นไทยสู่เวทีการแข่งขันในระดับโลก และผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของอาเซียนในปี 2560
นวัตกรรมด้วยตัวเอง เนื่องจากการขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาโครงการนวัตกรรมที่ดี และยังขาดตัวกลางในการเชื่อมโยงแหล่งความรู้กับภาคการผลิตที่ชัดเจน สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จับมือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเปิดตัว “โครงการคูปองนวัตกรรมเพื่อยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถของ SME ไทย” ภายใต้งบประมาณจำนวน 500 ล้านบาท รองศาสตราจารย์ ดร.สมเจตน์ ทิณพงษ์ ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่าตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา สนช. ได้ให้การสนับสนุนและร่วมสร้างสรรค์โครงการนวัตกรรมแก่ผู้ประกอบการภาคเอกชนได้กว่า 1,115 โครงการ วงเงินสนับสนุนกว่า 941 ล้านบาท ซึ่งก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุนในธุรกิจใหม่ประมาณ 18,660 ล้านบาท โครงการคูปองนวัตกรรมฯ ถือเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาเพื่อก่อให้เกิดระบบพัฒนาโครงการนวัตกรรมสำหรับผู้ประกอบการ SME และจะเป็นการสร้างระบบผู้ให้บริการงานนวัตกรรม (Innovation Service Provider หรือ ISP) ถือเป็นมาตรการสำคัญที่รัฐบาลกำหนดให้ สนช. ส่งเสริมนวัตกรรมให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่ม SME โดยตั้งเป้าในการสร้างความเข้มแข็งให้ SME แข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีไทยไม่น้อยกว่า 250 ธุรกิจ สำหรับขั้นตอนการขอรับการสนับสนุนผ่านคูปองนวัตกรรมฯ นั้น […]
โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้เป็นพื้นที่เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกัน โดยมี ดร.กรัณย์ สุทธารมณ์ ประธาน เครือข่ายธุรกิจ Biz Club Thailand Biz Club Thailand มีนักธุรกิจกว่า 6,000 ราย ร่วมเป็นสมาชิกใน 36 ศูนย์ ประกอบด้วย ส่วนกลาง 1 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ ภาคเหนือ 9 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย แพร่ พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ พะเยา แม่ฮ่องสอน ภาคกลาง 5 แห่ง ได้แก่ กาญจนบุรี ชัยนาท สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 แห่ง […]
โดยมีความเชื่อกันแบบผิดๆ ว่าการสูบบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้ามีความปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่และยังสามารถทำให้เลิกบุหรี่ได้ด้วย ทั้งๆ ที่เป็นสินค้าอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะผู้สูบ โดยพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 ยังไม่ครอบคลุมถึงการขาย ผลิต นำเข้าสินค้าดังกล่าว ดังนั้น เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2557 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ประสานขอความร่วมมือ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พิจารณากำหนดมาตรการห้ามนำสินค้าบารากู่ไฟฟ้าและบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในราชอาณาจักร เนื่องจากสินค้าดังกล่าวมีสารพิษในกลุ่มโลหะหนัก (Metal) ได้แก่ Chromium Manganese Copper Zinc Arsenic Cadmium Mercury และ Lead เป็นต้น ด้วยความตระหนักถึงอันตราย ปัญหา และผล กระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการบริโภคบารากู่ไฟฟ้าและบุหรี่ไฟฟ้า และเพื่อให้เกิดความรอบคอบในการกำหนดมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าดังกล่าว กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์บริการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางในการกำหนดมาตรการควบคุมการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากต่างประเทศ […]
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เชิญชวนผู้ประกอบการรายย่อยที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการพี่จูงน้อง เข้าร่วมการอบรม โดยมีวิทยากรที่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ให้เกียรติมาบรรยาย บริษัทเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทที่มีเครือข่ายธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ จึงรู้จักตลาดเป็นอย่างดี และได้ถ่ายทอดความรู้ ข้อมูล ความต้องการสินค้าของผู้นำเข้ากฎระเบียบการนำเข้าของตลาด ไว้เป็นแบบอย่างการส่งออกจากประเทศไทย” ทั้งนี้ โครงการพี่จูงน้อง จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ไทย ได้พัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมเพื่อให้ได้รับการคัดเลือกส่งสินค้าไปทดลองจัดจำหน่ายในตลาดเป้าหมาย และสามารถหาคู่ค้าของตนเองได้ต่อไป รวมถึงการเป็นหนึ่งในกลไกที่ช่วยผลักดันให้การส่งออกของไทยเข้มแข็ง นำพาเศรษฐกิจไทยเติบโตไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ที่มาข้อมูล : DITP ชี้ช่องการค้า ประจำเดือนมิถุนายน 2558 / www.ditp.go.th
ด้วยความสำคัญของธุรกิจค้าส่ง-ปลีก จึงทำให้มีการก่อตั้ง สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ที่อยู่เคียงข้างผู้ประกอบการมากว่า 13 ปี โดยมีหัวเรือใหญ่อย่าง “สมชาย พรรัตนเจริญ” ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ โดยสมาคมฯ มีเป้าหมายต้องการเชื่อมโยงและกระจายสินค้าจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรงในราคาต้นทุนที่ไม่มีค่าโฆษณาหรือการส่งเสริมการขาย และปราศจาก “ค่าส่วนต่าง”แอบแฝงของพ่อค้าคนกลาง ในระยะสามสี่ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าราคาสินค้าทั่วไปในท้องตลาดมีการปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากตลาดมีการแข่งขันสูง และด้วยช่องทางการตลาดและช่องทางกระจายสินค้าที่มีพ่อค้าคนกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ต้นทุนของสินค้าที่แท้จริงถูกบวกกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% จนถึงเกือบเท่าตัว ซึ่งเกิดจากค่าดำเนินการหลายสิ่ง อาทิ ค่าเช่าตึก ค่าจ้างพนักงานขาย ค่าสต๊อกสินค้า ค่ากระจายสินค้า ค่าขนส่ง ค่าวางสินค้า ค่าจัดทำโปรโมชั่น และอีกหลากหลายปัจจัยที่ทำให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทยกล่าวว่า จากปัญหาราคาสินค้าสูงขึ้นทำให้กำลังซื้อของประชาชนในช่วงต้นปีลดลงอย่างน่าตกใจ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยสมาคมฯ ได้สอบถามจากผู้ประกอบการพบว่า ส่วนใหญ่มียอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ การซื้อขายไม่คึกคัก แต่ยังไม่ถึงขั้นเงินฝืด เพราะในต่างจังหวัดโดยเฉพาะเขตการค้าชายแดนยังคงมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภคจำนวน 40-50 ล้านคน ที่เป็นตัวกระตุ้นอยู่ และด้วยสาเหตุข้างต้นทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่ง-ปลีกไม่อาจอยู่นิ่งเฉย ทำให้ขณะนี้มีหลายรายติดต่อขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับทางสมาคมฯ หวังเป็นที่พึ่งในยามวิกฤต โดยปัจจุบันสมาคมฯ มีสมาชิกเกือบพันราย จากจำนวนที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าประมาณ 500,000 รายทั่วประเทศ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจค้าส่ง-ปลีกที่สนใจสมัครเป็นสมาชิกสมาคมฯสามารถขึ้นทะเบียนสมาชิกได้ที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ […]
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กลยุทธ์หลักที่กรมฯ ได้ใช้ดำเนินในการเปิดตลาดสินค้าวัสดุก่อสร้างในภาคการส่งออก ได้แก่ การส่งเสริมและเร่งให้มีการเจรจาเปิดตลาดสินค้าวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะสินค้าเหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็กให้มากขึ้นและพิจารณาเรื่องกฎแหล่งกำเนิดสินค้าก่อนจัดทำข้อตกลง FTA กับอินเดีย และจีน โดยเฉพาะสินค้าเหล็กเพื่อที่จะได้ทราบถึงขอบเขตทางการค้า เนื่องจากสินค้าเหล็กเป็นสินค้าที่จะต้องใช้วัตถุดิบภายในประเทศน้อยกว่า 40% และเป็นสินค้าที่มีกฎการนำเข้าเฉพาะ (Product Specific Rules) มีการออกกฎหมายเพื่อปกป้องสินค้าเหล็กภายในประเทศ เพื่อทำให้เกิดสภาวะแข่งขันภายในประเทศ และลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ไทยเสียดุลการค้าน้อยลง และส่งเสริมการขยายตลาดใหม่ที่มีการขยายตัวด้านการก่อสร้างและสาธารณูปโภค ซึ่งผู้ประกอบการไทยก็ควรเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านคุณภาพสินค้าวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูปที่เป็นจุดแข็งของไทย หรือขยายรูปแบบสินค้าสำเร็จรูปใหม่ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดและเพิ่มมูลค่าการส่งออกต่อไป ที่มาข้อมูล : DITP ชี้ช่องการค้า ประจำเดือนมิถุนายน 2558 / www.ditp.go.th
ไม่เกินไปนักถ้าจะกล่าวว่า การที่ตัวเลขการส่งออกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นั้น มาจากสาเหตุการที่ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบในเรื่องชื่อเสียงและทักษะฝีมืองานช่างที่มีความประณีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประกอบชิ้นส่วนของเครื่องประดับด้วยมือ นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายในเรื่องของการออกแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลกโอกาสส่งออกของตลาดอัญมณีและเครื่องประดับไทย เมื่อวิเคราะห์แบบเจาะเป็นรายประเทศ จะเห็นว่าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย สามารถส่งออกไปได้ดีในหลายประเทศทั่วโลก ยกตัวอย่าง สหรัฐอเมริกา สำหรับสหรัฐอเมริกาที่คาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจโดยรวมจะเติบโตขึ้นถึงร้อยละ 3.6 และโตขึ้นอีกร้อยละ 3.3 ในปี พ.ศ. 2559 ส่งผลให้ผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ จะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก่อให้เกิดความต้องการซื้อสะสมสินค้ามีค่าอย่างอัญมณีและเครื่องประดับเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้นำเข้าส่วนใหญ่จะมองมาที่สินค้าจากประเทศไทยเป็นหลักโดยเฉพาะเครื่องประดับเทียม พลอยเนื้ออ่อนเจียระไน เพชรเจียระไน และพลอยเนื้อแข็งเจียระไน เยอรมนี ด้านผู้บริโภคชาวเยอรมันยังคงนิยมซื้อเครื่องประดับที่มีคุณภาพดี ราคาสูง แต่จะนิยมซื้อสินค้าเครื่องประดับเงินและเครื่องประดับเทียมที่ชุบโลหะเพิ่มมากขึ้น เน้นดีไซน์การออกแบบที่ทันสมัย ใช้งานได้หลากหลายโอกาส เช่น สร้อยคอจะเน้นชิ้นงานที่เป็นเงินล้วน เรียบง่าย แต่ดูมีสไตล์และมีคุณค่า มีดีไซน์โดดเด่น และไม่ล้าสมัยในระยะยาว แต่ถ้าชาวเยอรมันในกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยสูง จะนิยมซื้อเครื่องประดับแท้ เครื่องประดับเพชร พลอย และอัญมณีมีค่าอื่นๆ ซึ่งมีรูปแบบสวยงาม มีเอกลักษณ์ โดดเด่น สง่างาม ซึ่งส่วนใหญ่ทำมาจากแพลทินัมหรือทองคำขาว เป็นต้น จีน-ฮ่องกง […]
นอกจากนี้ตลาดตราสารหนี้ของไทยมีการขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีขนาดราว 13 ล้านล้านบาท มูลค่าการซื้อขายคิดเป็น 76% ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ GDP แต่ยังมีมูลค่าน้อยกว่าตลาดสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่มีการปล่อยสินเชื่อ 106% ของ GDP รวมถึงตลาดตราสารทุนที่มีมูลค่าการซื้อขายคิดเป็น 114% ของ GDP ซึ่งตลาดตราสารหนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แต่ในปี 58 ตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา การกู้ยืมจากต่างประเทศลดลงเหลือเพียง 1.92% เนื่องจากรัฐบาลมีการกู้เงินผ่านตลาดตราสารหนี้มากขึ้นถึง 98% ทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้ต่างประเทศลดลงมาก ขณะที่ก็มีผู้เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนสถาบัน 40% ธนาคารพาณิชย์ 14% และที่เหลือเป็นนักลงทุนต่างชาติ จะเห็นได้ว่าต่างชาติได้ให้ความเชื่อถือตลาดตราสารหนี้ของไทยสูงมาก
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจและหน้าที่สนับสนุนให้แก่ผู้ส่งออกไทยทำการค้าระหว่างประเทศได้อย่างมั่นคง เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการให้ความรู้ด้าน การส่งออกจึงได้ร่วมจัดโครงการสัมมนาให้ความรู้ต่างๆ อย่างไม่ขาดช่วง หนึ่งในนั้น คือ โครงการ One Stop Export Service Center (OSEC) Clinic 2015 ที่ดำเนินงานโดยศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยปีนี้ OSEC จะเน้นจัดกิจกรรมในหัวข้อหลักเรื่อง “ขับเคลื่อนกลยุทธ์การค้าอาเซียน รุก-รับ AEC” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด CLMV อันประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ซึ่งจะเห็นได้จากมูลค่าการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศเพื่อนบ้านในปีที่ผ่านมา ที่มีมูลค่าสูงถึง 9.87 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.85 จากปี พ.ศ. 2556 ที่มีมูลค่า 9.24 แสนล้านบาท ดังนั้น การจัดกิจกรรมในลักษณะให้ความรู้ และอัพเดทข้อมูลสถานการณ์จริง ชนิดรู้เขารู้เรา เช่นนี้ จะช่วยสร้างความได้เปรียบทางด้านการค้าขึ้นมาอีกมากในตลาดอาเซียนอย่างแน่นอน รูปแบบการจัดสัมมนา […]
นางสาววิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า โครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ใน 18 กลุ่มจังหวัดดังกล่าว อยู่ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ที่ 4 (Power) คือการเชื่อมโยงเครือข่ายภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมและพัฒนา SME ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับวงการ SME โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว กรมหม่อนไหม กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ทางด้าน รองผู้อำนวยการ สสว. ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ปัจจุบัน การรวมกลุ่มเป็นเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจ หรือ Cluster ถือเป็นแนวทางหนึ่งในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน เนื่องจากการรวมกลุ่มก่อให้เกิดโอกาสในการสร้างความรู้จัก การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การพัฒนากิจกรรมระหว่าง SME ในอุตสาหกรรมและผู้เกี่ยวข้องทั้งในและนอกพื้นที่ ซึ่งจะสามารถต่อยอดเป็นสังคมหรือเครือข่ายที่มีพลังอำนาจในการต่อรอง และผลักดันให้ภาคธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้จึงนับเป็นการเริ่มต้นของการบูรณาการงานส่งเสริม SMEs อย่างเป็นรูปธรรม โดย สสว. ทำหน้าที่กำหนดยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนซึ่งเป็นหน่วยร่วมดำเนินการ” […]
การปรับโครงสร้างดังกล่าวได้เสร็จสิ้นไปตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมาที่ถูกจับตาเป็นพิเศษคือตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงาน ประกอบด้วย ชาวันย์ สวัสดิ์ชูโต, ชัยพร ชยานุรักษ์ และปณิตา ชินวัตร ถูกโยกไปเป็นที่ปรึกษาสำนักงาน การ “แขวน” รองผู้อำนวยการสำนักงานทั้ง 3 ราย และมาพร้อมกับกระแสข่าวลือตำแหน่ง “ผอ. คนใหม่” จะได้ลูกหม้อขนานแท้อย่าง “วิมลกานต์ โกสุมาศ” ก้าวจาก “รักษาการ” ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของ สสว. ประเด็นความแตกแยกในองค์กรของ สสว. ดร.วิมลกานต์ รองผู้อำนวยการรักษาการผู้อำนวยการ สสว. ถอนหายใจก่อนตอบว่า “การเปลี่ยนแปลงระบบภายในดังกล่าวอาจส่งผลให้พนักงานเกิดความกังวลบ้าง แต่ก็ได้สื่อสารทำความเข้าใจกับพนักงานไปแล้ว ตามมติของบอร์ดที่ประชุมจากนี้ไป สสว. จะปรับบทบาทร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้กลไกส่งเสริม SME เกิดประสิทธิภาพและไม่เกิดการซ้ำซ้อนในการทำงาน ภายใต้ 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ การวางเป้าหมายให้ สสว. เป็นหน่วยงานที่เน้นการวางแผนยุทธศาสตร์เป็นหลัก โดยทำหน้าที่วางแผน วิเคราะห์ และชี้เป้าว่าผู้ประกอบการSME ต้องการพัฒนาอะไร […]
1. สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI) คือสินค้าประเภทใดสินค้าที่มีการซื้อขายทั่วไป แต่สามารถนำไปใช้ออกแบบ/พัฒนา/ผลิต/ใช้/ดัดแปลงเป็นอาวุธที่สามารถก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งก่อสร้าง และสภาพแวดล้อมในวงกว้าง ได้แก่ อาวุธนิวเคลียร์ อาวุธรังสี อาวุธเคมี และอาวุธชีวภาพ เป็นต้น หรือที่เรียกว่า อาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง (Weapons of Mass Destruction :WMD) 2. ตัวอย่างของสินค้าที่ใช้ได้สองทางที่สามารถพบเห็นโดยทั่วไป มีอะไรบ้าง 2.1 เส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ เป็นวัสดุที่ใช้ในการผลิตไม้เทนนิส ไม้กอล์ฟ และอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ ในขณะเดียวกันก็สามารถนำไปใช้ผลิตเป็นชิ้นส่วนขีปนาวุธได้ 2.2 เชื้อไวรัส สามารถใช้ผลิตเป็นเซรุ่มได้ แต่ก็สามารถนำไปใช้ผลิตเป็นอาวุธชีวภาพ ซึ่งจะทำลายระบบทางเดินหายใจและระบบประสาท 2.3 สารโปแตสเซียมไซยาไนด์ สามารถใช้ทำความสะอาดโลหะหรือสกัดสินแร่ แต่ก็สามารถนำไปใช้ผลิตเป็นอาวุธเคมี ซึ่งจะทำลายหลอดลมและเป็นพิษต่อประสาทส่วนกลาง 2.4 เครื่องหมักเชื้อ สามารถใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น การผลิตไวน์และเบียร์ และใช้ในการผลิตยาและวัคซีน ขณะเดียวกันก็สามารถใช้ในการผลิตเชื้อโรคและสารพิษได้ 2.5 เครื่องวัดความเร่ง ใช้ในการควบคุมถุงลมนิรภัยของรถยนต์หรือใช้ตรวจจับความแรงของแผ่นดินไหว แต่ก็สามารถนำไปใช้ในด้านขีปนาวุธได้ 2.6 […]
โดยภายในงานพบกับ คุณอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมกับ คุณธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด (ข้าวตราไก่แจ้) และ คุณไกรสินธุ์ วงศ์สุรไกร กรรมการผู้จัดการ บริษัทโรงเส้นหมี่ชอเฮง จำกัด รวมไปถึงยังมีบูทที่จะให้คำปรึกษาเรื่องธุรกิจ SME จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่สนใจสามารถกรอกใบสมัครเข้าร่วมงาน ซึ่งจะมี Link ดาวน์โหลด ให้ด้านล่างของข่าวนี้ได้เลยครับ โดยกำหนดการและใบสมัคร เพื่อเข้าร่วมในวันดังกล่าว http://www.thaichamber.org/scripts/detail.asp?nNEWSID=14865 https://docs.google.com/forms/d/16h8xVorhrqucU0Ipc_uOG4PCSe19WtP0WjOcRDEK1Cc/viewform ที่มา – www.thaichamber.org/ เรียบเรียงโดย – www.ชี้ช่องรวย.com
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผยถึงผลการนำคณะผู้แทนการค้าไทย จำนวน 47 บริษัท ในกลุ่มสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์สำหรับผู้สูงอายุในญี่ปุ่น เข้าร่วมงานกิจกรรม “สินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่น” (Royal Healthy Gifts for Japanese Senior’s Life) ว่ามีนักธุรกิจญี่ปุ่นเข้ามาเยี่ยมชมงานรวม 300 คน ประกอบด้วยผู้ซื้อจากห้างชั้นนำ อาทิ ทาคาชิมาย่า, ลาฟอเร่, มาย แฟมิลี่, อิเซตัน โดยมียอดซื้อขายทันที 24,000 เหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะมีผลการสั่งซื้อภายใน 1 ปี มูลค่า 990,100 เหรียญสหรัฐ ในปี พ.ศ. 2558 กรมฯ มีแผนจัดกิจกรรมเพื่อสร้างกระแสสินค้าไทยให้มีอยู่อย่างต่อเนื่องในตลาดญี่ปุ่น อาทิ ในระหว่างวันที่ 20 พ.ค. – ส.ค.58 จะจัดส่งเสริมการค้าสินค้าที่ได้รับเครื่องหมาย TTM กับห้าง Takashimaya 3 จุด ได้แก่ […]
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ เผยว่าขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) มีมติเห็นชอบหลักการกำกับดูแล Equity-based Crowd Funding แล้ว ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับการระดมทุนผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งในขณะนี้มี 3-4 รายที่สนใจเข้ามาระดมทุนผ่านเว็บไซต์ ข้อดีของการระดมทุนด้วยวิธี CrowdFunding คือ มีต้นทุนการระดมทุนต่ำกว่าวิธีอื่นและใช้เวลาสั้นกว่าเมื่อเทียบกับวิธีอื่นโดยจากสถิติพบว่าการระดมทุนครั้งหนึ่งใช้เวลาประมาณ 3 เดือนโดยเฉลี่ยนอกจากจะได้เงินทุนมาดำเนินกิจการแล้ว ยังเป็นช่องทางที่สามารถทดสอบความต้องการของตลาดได้ด้วย เนื่องจากช่วงนำเสนอแนวคิดหรือผลิตภัณฑ์เพื่อระดมทุนนั้น เจ้าของไอเดียสามารถวัดกระแสตอบรับจากมวลชนซึ่งนำมาเป็นข้อมูลปรับปรุงพัฒนาสินค้าและบริการได้ อย่างไรก็ตาม นายประพันธ์ เชื่อว่าระบบ Crowd Funding จะเป็นตัวช่วยให้ SME ได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน และเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกิจมีโอกาสในการขยายธุรกิจได้อย่างแน่นอน ที่มา : www.smartsme.tv/ เรียบเรียงโดย : www.ชี้ช่องรวย.com
โดยเชิญ 22 ธนาคาร ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูง ระดับกลางและระดับต้น ที่มีส่วนในการอนุมัติสินเชื่อ SMEs รวมไปถึง เจ้าหน้าที่ศูนย์ธุรกิจสำนักธุรกิจ เจ้าหน้าที่สาขา ร่วมรับฟังข้อคิดเห็นและเสนอแนะ เพื่อเสริมสร้างความ เข้าใจ และความมั่นใจ ในการกระตุ้นสินเชื่อ เพื่อผู้ประกอบการ SMEs ระหว่างเดือน พฤษภาคม-สิงหาคม ทั้งนี้จะเริ่มประเดิมสัญจรแห่งแรก ที่จังหวัดนครราชสีมา (20 พ.ค.58) ณ โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส ส่วนที่เหลืออีก 3 แห่ง ก็จะจัดกันที่กรุงเทพมหานคร (17 มิ.ย.58), พระนครศรีอยุธยา (15 ก.ค.58) และ จังหวัดสุราษฏร์ธานี (19 ส.ค.58) คาดว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงสินเชื่อผ่านการค้ำประกันของ บสย.ได้มากกว่า 27,000 ราย และมียอดค้ำประกันสินเชื่อ 80,000 ล้านบาท และก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท นายวัลลภ […]
โดยให้ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิ เป็นเวลา 10 รอบระยะเวลาบัญชี ซึ่งมาตรการนี้จะเป็นการช่วยกระจายความเจริญและเพิ่มรายได้ให้แก่ท้องถิ่น และลดปัญหาแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเคลื่อนย้ายเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลาง สำหรับการดำเนินการตามมาตรการภาษีดังกล่าวจะเป็นการส่งเสริมให้มีการลงทุนในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยกระจายความเจริญและเพิ่มรายได้ให้แก่ท้องถิ่น และลดปัญหาแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเคลื่อนย้ายเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลาง ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเป็นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและประชาคมอื่นๆ โดยไม่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ เนื่องจากเป็นการให้สิทธิประโยชน์สำหรับกิจการที่ตั้งใหม่หรือส่วนขยายของกิจการ ทั้งนี้ คุณสมบัติของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้รับสิทธิในการลดอัตราภาษี คือ 1. ต้องจดแจ้งการขอใช้สิทธิการเป็นบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษก่อนปี 2560 2. ต้องไม่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน 3. ต้องไม่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและได้รับสิทธิลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับธุรกิจ SME และ 4. ต้องจัดทำบัญชีแยกรายการสำหรับกิจการที่ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและกิจการที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษออกจากกัน
โดยตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวต่างได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการจำนวนมาก และในปี พ.ศ. 2558 นี้ โครงการจะถูกมุ่งเน้นมากขึ้นในเรื่องการปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพการจัดการด้านโลจิสติกส์ ผ่านการอบรมสัมมนาเชิงวิชาการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ เช่น เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์อย่างเป็นระบบ การวิเคราะห์ปัญหา และการวางแผนดำเนินงาน ให้สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการสร้างต้นแบบแนวทางการจัดการด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ที่มาข้อมูล : DITP ชี้ช่องการค้า ประจำเดือนพฤษภาคม 2558 / www.ditp.go.th
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “ปีนี้กรมฯ วางแผนประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิและอาหารไทยในต่างประเทศกว่า 10 โครงการ ในภูมิภาคอเมริกา ภูมิภาคยุโรป ภูมิภาคจีน และภูมิภาคอาเซียน เช่น การเชิญผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในแต่ละประเทศหรือเชิญนักแสดงชื่อดังของไทยเข้าร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในหัวข้อ “ข้าวไทย” และครอบคลุมไปถึงผลิตภัณฑ์จากข้าว เช่น น้ำมันรำข้าว เส้นหมี่ทำจากข้าว และขนมขบเคี้ยวทำจากข้าว เป็นต้น” โดยในไตรมาสแรกนี้ กรมฯ ได้ดำเนินโครงการไปแล้วในประเทศฮ่องกง ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ภูมิภาคและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งความสำเร็จจากโครงการดังกล่าวนอกจากจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ข้าวหอมมะลิไทยรู้จักไปทั่วโลกแล้ว ยังจะทำให้สินค้าข้าวไทยเป็นที่ต้องการและเพิ่มยอดส่งออกในตลาดโลกมากขึ้นอีกด้วย ที่มาข้อมูล : DITP ชี้ช่องการค้า ประจำเดือนพฤษภาคม 2558 / www.ditp.go.th
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เล็งเห็นความสำคัญของข้อมูลการค้าในตลาดอาเซียน และโดยรวมแล้วยังพบว่ามีผู้ประกอบการไทยอีกจำนวนมากที่ต้องการที่จะขอรับข้อมูลและคำปรึกษาจากกรมฯ ชนิดที่ต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญของกรมฯ ตอบทุกข้อซักถามที่ตนเองอยากรู้ ด้วยความต้องการที่จะตอบโจทย์ดังกล่าว ศูนย์ AEC Business Support Center และสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้ร่วมเปิดตัวโครงการดีๆ ในชื่อ “โครงการให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านการค้าการลงทุนในตลาดอาเซียน โดยทูตพาณิชย์ไทย ผ่านระบบ VDO Conference” ขึ้น ซึ่งการจัดประชุมในรูปแบบ Video Conference นี้จะช่วยทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในต่างประเทศได้โดยตรงเสมือนประชุมอยู่ในห้องเดียวกัน ประหยัดทั้งในเรื่องเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมถึงทูตพาณิชย์ยังมีเวลาเตรียมพร้อมที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลมา Share ผลงาน เช่น PowerPoint, Worksheet, VDO ให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการได้รับทราบอย่างเต็มที่ สมัครสมาชิก DITP AEC Club โดยวิธีการและสิทธิในการเข้าร่วม “โครงการให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านการค้าการลงทุนในตลาดอาเซียน โดยทูตพาณิชย์ไทย ผ่านระบบ VDO Conference” นั้น ผู้ที่สนใจจะต้องเป็นผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก DITP AEC Club เสียก่อนแต่หากใครที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกก็สามารถศึกษาข้อมูลการสมัครและดาวน์โหลดใบสมัครสมาชิกได้ที่ aec.ditp.go.th […]
ก่อนอื่นขอเล่าถึงความสำเร็จในงาน THAIFEX 2014 ที่ผ่านมากันก่อน จากการสำรวจตัวเลขตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 5 วันในปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการต่างชาติ เข้าร่วมออกบูธ THAIFEX 2014 ในจำนวนทั้งสิ้น 3,453 คูหา จาก 1,463 บริษัท โดยมีผู้เข้าร่วมชมงานทั้งสิ้น 103,283 ราย แบ่งเป็นผู้เข้าชมงานในวันเจราจาธุรกิจจำนวน 28,631 คน และผู้เข้าชมงานในวันจำหน่ายปลีกจำนวน 74,652 คน ซึ่งได้สร้างยอดมูลค่าการสั่งซื้อสินค้าภายในงานทั้งสิ้นประมาณ 7,352.1 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าการจัดงานแสดงสินค้าที่โชว์ถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมอาหารไทยครั้งนี้ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ปริมาณความต้องการสินค้าอาหารทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการขยายตัวของตลาดสำคัญทั้งในอาเซียน และประเทศต่างๆ ทั่วโลก สำหรับ THAIFEX 2015 ที่จะมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 พฤษภาคม พ.ศ.2558 นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายขึ้นในทุกๆ ด้าน ทั้งในด้านการเชิญผู้ประกอบการไทยและต่างชาติเข้าร่วมออกบูธให้ได้ในจำนวนทั้งสิ้น 1,600 บริษัท และขยายพื้นที่จัดบูธออกเป็น 3,900 […]
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ คือ การสร้าง “วินัยการเงิน” เพื่อเป็นใบเบิกทางสู่การเข้าถึงแหล่งเงินทุน คือสิ่งจำเป็นต่อการเริ่มต้นธุรกิจหรือการขยายตัวให้กิจการมีขนาดใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงแหล่งเงินทุนยังคงเป็นปัญหาแก่ผู้ประกอบการ ไม่ว่ายุคสมัยไหน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ SME แต่ถ้าหากมีการทำความเข้าใจในตัวธุรกิจให้ดีก่อน ทราบถึงรายรับ และรายจ่าย การวางแผนทางการเงินก็ไม่ใช่เรื่องยาก แม้ว่าโดยภาพรวมการทำธุรกิจยังคงยากอยู่พอสมควร แต่ในทัศนะของ “พัชระ สมะลาภา” รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กลับมองว่ายังมีโอกาสของธุรกิจรายเล็ก ดูจากที่รัฐบาลปล่อยเงินกระตุ้นออกมาผ่านการลงทุน เงินเหล่านี้จะเข้าถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ก่อน ถึงจะวนกลับเข้ามาสู่รายเล็ก ซึ่งธุรกิจส่วนใหญ่จะอยู่ในหมวดหมู่สินค้าอุปโภคบริโภค ซื้อมาขายไป ซึ่งหากธุรกิจรายใหญ่มีการลงทุนเพิ่ม มีการจำหน่ายดีขึ้น ส่งออกดีขึ้น จึงจะส่งผลดีให้กับธุรกิจรายเล็กที่จะมีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ พัชระบอกว่า ที่ผ่านมาบทบาทหน้าที่ของธนาคารกสิกรไทยในการสนับสนุน SME สิ่งแรก คือ การให้คำปรึกษาในเรื่องที่เหมาะแก่ผู้ประกอบการเพื่อนำข้อมูลความรู้เหล่านั้นไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ หรืออาจจะเป็นแนวทางการเตรียมตัวเพื่อที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุน นอกเหนือจากนี้ก็จะมีการ “จับคู่ธุรกิจ” เพราะโดยส่วนใหญ่ผู้ประกอบการ SME ไม่ค่อยมีโอกาสพบคู่ค้าที่หลากหลายมากนัก ดังนั้นส่วนนี้จึงถือเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการเพิ่มช่องทางจำหน่าย หรือแม้กระทั่งรู้จักซัพพลายเออร์ เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันที่กำลังดำเนินการเน้นไปที่ภาคการเกษตร มันสำปะหลัง ผลการดำเนินงานจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการส่งผลให้มีตัวเลขการส่งออกที่เพิ่มขึ้น “K SME […]
