ชี้ช่องทำกิน

ทำเล “ใต้ตึก” น่าลงทุนทำธุรกิจอะไรบ้าง เลือกให้ดี ทำแล้วรวย

อีกหนึ่งทำเลทองที่ดูน่าสนใจอย่างพื้นที่ ใต้ตึก ห้องเช่า หอพัก คอนโด สำนักงาน ที่มีผู้คนอาศัยหรือสัญจรผ่านไปมา วันนี้ ชี้ช่องรวยจะมาบอกถึงว่าทำเลดังกล่าวสามารถทำธุรกิจอะไรได้บ้าง เผื่อใครที่มีทำเลแบบนี้อยู่แล้วจะนำไปใช้ในการทำธุรกิจให้เกิดประโยชน์ 1.ร้าน ซัก อบ รีด ไม่ว่าจะที่ไหนอาคารใดจะต้องมีธุรกิจนี้ ร้านซักอบรีด เพราะเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายให้กับคนเมือง ซึ่งแน่นอนว่าทำเลดังกล่าวย่อมมีลูกค้าอยู่ไม่มากก็น้อย นั่นเป็นโอกาสให้ธุรกิจนี้สามารถเติบโตได้ อีกทั้งปัจจุบันธุรกิจซักอบรีดมีรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ให้เลือกมากมาย 2.ร้านสะดวกซื้อ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจร้านค้าที่สามารถสร้างยอดขายได้จากทำเลใต้ตึก เพราะสินค้า อุปโภค บริโภค เป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนต้องใช้ ยิ่งจัดร้านให้ดีมีความหลากหลายตอบโจทย์ลูกค้ามากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นเท่านั้น 3.ร้านสารพัดบริการ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจลงทุนเป็นอย่างมาก ตอบโจทย์ผู้พักอาศัยโดยรอบ โดยมีจุดเด่น คือ งานบริการที่ครอบคลุมทั้งถ่ายเอกสาร ถ่ายภาพ ส่งแฟกส์ ส่งไปรษณีย์ จ่ายเงินออนไลน์ ค่าน้ำค่าไฟ นอกจากนี้ยัมีรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ให้เลือกหลายแบรนด์อีกด้วย 4.ร้านอาหาร ที่จริงแล้วร้านอาหารไม่ว่าจะทำเลไหนก็สามารถขายได้ แต่สำหรับทำเลใต้ตึกก็สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี ยิ่งมีบริการจัดส่งด้วยแล้วก็จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นเช่นกัน 5.ร้านกาแฟ อาจไม่ต้องเปิดเป็น Shop ใหญ่อาจเป็นเคาน์เตอร์ธรรมดา แต่มีสินค้าคุณภาพ กาแฟสดยังเป็นเมนูที่คนสนใจมาก ยิ่งในคอนโดระดับพรีเมี่ยม ราคาของกาแฟสดก็อาจจะปรับได้ตามสถานที่ หรือจะเพิ่มความน่าสนใจด้วยการทำร้านแบบมีที่นั่งไว้ให้ลูกค้าได้นั่งพักแบบชิลๆ ก็น่าสนใจเหมือนกัน 6.ร้านตัดผม […]

เคล็ดไม่ลับ! เทคนิคจัดสมดุล “ร้านอาหารตามสั่ง” ให้ดึงดูดสายตาลูกค้า ของพื้นที่ภายในร้านอาหาร

ในการจัดพื้นที่ “ร้านอาหารตามสั่ง” ให้เหมาะสมนั้น เจ้าของร้านบางคนอ่จยังไม่ให้ความสนใจเท่าใดนัก แต่คุณรู้ไหมว่า การจัดร้านให้ความเป็นสัดส่วน และมีความสะอาดถูกสุขอนามัย ก็มีส่วนในการเรียกลูกค้าเข้าร้านของคุณได้ นอกจากนี้ การจัดร้านให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย โดยเฉพาะร้านอาหารตามสั่งก็มีความสำคัญเช่นกัน โดย ชี้ช่องรวย มีข้อมูลการจัดร้านให้เรียกลูกค้า และรวยเฮงมาฝาก ดังนี้ 1.ห้องครัว ปัจจุบันร้านอาหารที่จัดแบบครัวเปิดกำลังได้รับความนิยมค่อนข้างมากไม่ใช่เพียงเพราะความสะดวกในการจัดพื้นที่ แต่ยังสามารถโชว์การทำอาหารเพื่อดึงดูดสายตาของลูกค้า การจัดผังอุปกรณ์ให้เหมาะสม มีศิลปะสร้างแรงดึงดูดควรแก่การมองและสะดวกต่อการใช้งาน 2.การจัดพื้นที่หน้าร้าน สิ่งแรกที่ต้องตระหนักคือ จะขายอะไรต้องโชว์สิ่งนั้นให้ลูกค้าเห็น อีกทั้งเรื่องของการจัดวางโต๊ะแคชเชียร์ที่ควรหันหน้าออกไปทางหน้าร้าน ตำแหน่งด้านซ้ายคือ “มังกรเขียว” ด้านขวาคือ “เสือขาว” ในทางฮวงจุ้ยแล้ว ด้านซ้ายต้องนิ่ง และด้านขวาควรต้องเคลื่อนไหว ดังนั้น ตำแหน่งโต๊ะแคชเชียร์จึงควรตั้งด้านขวาทำมุมกับประตูเพื่อดักเงินทอง 3.การตั้งป้าย ควรตั้งในลักษณะที่เรียกว่า “ตั้งป้ายให้ตัดมังกร” ซึ่งหมายถึงการตั้งป้ายให้สะดุดตา เพื่อกระตุ้นความสนใจของคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ดังนั้น การตั้งป้ายที่ดีจึงไม่ใช่แค่เรื่องของขนาด แต่ต้องมีความเหมาะสมกับพื้นที่ และสอดคล้องกับทิศทางการเดินของลูกค้าหรือทิศตัดมังกร ไม้เด็ดสำหรับร้านอาหาร การทำกิจการร้านอาหารนั้นไม่ได้มีเพียงแค่รสชาติเท่านั้นที่ต้องถูกปากลูกค้า รูปแบบการจัดตกแต่งร้านก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงด้วยอีกเช่นกัน ซึ่งตามศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยนั้น ร้านอาหารที่จะประสบความสำเร็จจะต้องมีองค์ประกอบซึ่งถือเป็นอาวุธสำคัญ 5 อย่าง ได้แก่ 1.รูป ในที่นี้หมายถึง เอกลักษณ์ของร้าน อาทิเช่น […]

เก็บไว้เป็นข้อมูล! อยากเปิด “ร้านกาแฟสด” ต้องเตรียมเงินลงทุนส่วนไหนบ้าง จะได้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง

เชื่อว่าอาชีพในฝันของใครหลายคน คือ การเป็นเจ้าของร้านเล็กๆ สักร้านที่ลงทุนไม่มาก ได้เป็นนายตัวเอง ไม่ต้องเดินทางไปทำงาน ต้องตอกบัตรเข้าออกงานและต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของบริษัท และ “ร้านกาแฟสด” ก็เป็นหนึ่งธุรกิจในฝันของคุณ บางคนใช้เวลาในช่วงการเป็นมนุษย์เงินเดือนเก็บหอมรอมริบเพื่อจะได้มีเงินทุนสักก้อนมาลงทุนเปิดร้านกาแฟในฝัน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การที่จะปิดร้านกาแฟสดสักร้านนั้น มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ชี้ช่องรวย วันนี้มีสาระดีๆ เกี่ยวกับการลงทุนเปิดร้านกาแฟสด เพื่อเป็นแนวทางให้คุณได้เตรียมตัว เพื่อที่เวลาเปิดร้านแล้วจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง ดังนี้ 1.ต้องใช้เงินลงทุนมากน้อยแค่ไหน? ขั้นต่ำของเงินลงทุนสำหรับธุรกิจร้านกาแฟสดก็จะอยู่ที่ประมาณเกือบหลักแสน เพราะต้องมีค่าลงทุนในส่วนของชุดอุปกรณ์ วัตถุดิบ และเงินทุนสำหรับหมุนเวียนในร้าน ซึ่งงบประมาณนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเตรียมงบในการลงทุนไว้ที่จำนวนเท่าไร และต้องคำนึงด้วยว่างบประมาณที่จะลงทุนนั้นเหมาะกับร้านรูปแบบไหน วิธีการเตรียมความพร้อมสำหรับต้นทุน = เงิน เงิน เงิน เมื่อคุณมีเงินทุน และคิดว่าพร้อมสำหรับการทำธุรกิจ ให้คุณแบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน” ดังต่อไปนี้ ส่วนที่ 1 คือ เงินสำหรับหมุนเวียนใช้จ่ายภายในร้าน เงินส่วนนี้เรียกได้ว่าเป็นก้อนเงินที่ใหญ่ที่สุด เพราะต้องใช้สำหรับซื้อของเข้าร้าน ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ส่วนที่ 2 คือ เงินฉุกเฉิน ก็ต้องยอมรับว่าถ้าหากยังไม่มีเงินในส่วนนี้เราไม่แนะนำให้คุณเปิดทำธุริกจใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่เพียงทำร้านกาแฟเท่านั้น การทำธุรกิจต้องมีเงินเตรียมไว้สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินที่จำเป็นต่างๆ เสมอ […]

ทริคเล็กๆ วิธี “จัดร้าน” ตลาดนัด จัดอย่างไรให้คนอยากซื้อ

ทริคน่ารู้สำหรับพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดมือใหม่ เกี่ยวกับการจัดร้านที่ ชี้ช่องรวย นำมาเสนอเพื่อจะได้เป็นแนวทางแล้วนำไปปฏิบัติ เพราะการจัดร้านนั้นถือเป็นศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่งที่จะสามารถช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาชมสินค้าได้ โดยมี 8 วิธีการ ดังนี้ 1.จัดให้มีสินค้าเยอะๆ ไว้ก่อน ตามจิตวิทยานั้น การจัดร้านที่มีสินค้าเยอะๆ และหลากหลาย จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีตัวเลือกที่เยอะกว่า ต้องวางสินค้าให้ลูกค้ารู้ด้วยว่าขายอะไร ถ้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของกิ๊ฟช้อปยิ่งจัดเต็มได้ยิ่งดี แต่ถ้าเป็นของทรงคุณค่า เช่น ภาพวาด หรือของหายาก อาจไม่ต้องจัดเต็มพื้นที่มากนักก็ได้ 2.อุปกรณ์ประกอบฉากก็สำคัญ การขายของตลาดนัด หากมีอุปกรณ์ประกอบร้านที่ดูโดดเด่นได้ เช่น การใช้หญ้าเทียมปูกันไปเลย หรือเพิ่มชั้นวางของแบบเก๋ๆ อาจจะเป็นแบบแฮนเมดด์หรือเลือกแบบที่มีดีไซน์หน่อยก็ได้ หรือไม่ก็หาของประดับที่แปลกแต่ควรให้เข้ากับสินค้าที่วางขายจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้อีกไม่น้อย 3.แต่งร้านแบบเล่นสี การเลือกใช้โทนสีในการตกแต่งทั้งร้าน จะทำให้ร้านดูโดดเด่นและมองเห็นแต่ไกลได้ เช่น ร้านขายเสื้ออาจไล่เรียงเฉดสี จากโทนอ่อนไปหาเข้ม เพื่อให้สวยสะดุดตาและง่ายต่อการเลือกซื้อของลูกค้า หรือหากร้านขายนาฬิกาอาจใช้ผ้าปูสีดำ และทำฉากหลังให้สินค้าดูมีค่ามีราคาขึ้นมา เหล่านี้ก็ถือเป็นตัวอย่างที่น่าจะมองเห็นภาพและเอาไปปรับใช้กับสินค้าที่เราต้องการวางขายได้ 4.กองสินค้าเพื่อเพิ่มปริมาณคนซื้อ เป้าหมายของสินค้าแบบกองนั้น คือ เน้นปริมาณการขายเพราะสินค้าราคาไม่สูงมาก ส่วนใหญ่ใช้กับพวกรองเท้ามือสอง เสื้อผ้า ตุ๊กตา เสน่ห์ของสินค้าแบบกองคือลูกค้าจะเข้ามาเลือกซื้ออย่างสนุกสนาน อาจมีเทคนิคลับๆที่เรียกว่าใช้หน้าม้าทำมารื้อค้นๆ เชื่อเถอะถ้าคนอื่นเห็นก็ต้องสนใจจากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสี่ ร้านจะดูคึกคักขึ้นมาทันที 5.เน้นความเป็นระเบียบ […]

เปิดศาตร์ฮวงจุ้ยธุรกิจ “คาร์แคร” ทำแบบไหนให้กิจการรุ่งเรือง พร้อม 6 ทำเลทองที่เหมาะเปิดทำการ

สำหรับเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาจับธุรกิจคาร์แคร์ ย่อมอยากมีขวัญและกำลังใจในการดำเนินธุรกิจ หนึ่งที่พึ่งนั้นก็คือ การเลือกปรับธุรกิจตามหลัง “ฮวงจุ้ย” อย่างน้อยก็อุ่นใจได้ว่า ได้เลือกสิ่งที่ถูกต้องเป็นศิริมงคลต่อธุรกิจคาร์แคร์ การปรับสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ถูกสุขลักษณะได้มาตรฐาน พร้อมบริการอย่างมิตรภาพเลือกใช้สินค้าจากโรงงานรับผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ที่เชียวชาญโดยตรง เพียงเท่านี้ภาพลักษณ์ของคาร์แคร์ก็ดึงดูดลูกค้าให้ใช้บริการได้แล้ว 3 ฮวงจุ้ยที่ดีต่อธุรกิจคาร์แคร์ ต้องใส่ใจตั้งแต่การเลือกใช้สินค้าจากโรงงานรับผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ที่มีคุณภาพ และใช้หลักฮวงจุ้ยเป็นที่พึ่งทางใจ ดังนี้ 1.ประตูร้านต้องแข็งแรง เป็นการสร้างพลังตั้งแต่ทางเข้า ประตูคือสิ่งปกป้องคุ้มครอง ต้องไม่ปล่อยให้ชำรุดหรือมีสิ่งของกีดขวาง จะทำให้พลังที่ดีไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง นั่นหมายถึงลูกค้าและเงินของลูกค้านั่นเอง 2.ปลาและต้นไม้มงคล เป็นสัญญลักษณ์ “ความร่ำรวย” ให้ตั้งรูปปั้นปลา หรือเลี้ยงปลาสวยงาม และปลูกต้นไม้มงคล อย่างขนุน มะยม หรือต้นไม้ใหญ่ นอกจากชื่อมงคล ยังให้ร่มเงา ให้อากาศที่เย็นสบาย 3.ความสะอาดต้องเป็นเลิศ ตามหลักฮวงจุ้ยความสะอาดคือ “พลังแห่งความมั่งคั่ง” ถือเป็นพื้นฐานของทุกธุรกิจบริการ ช่วยให้หน้าใช้บริการ หาสิ่งของได้ง่าย ไม่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์พาหะทั้งหลาย สำหรับทำเลทองของธุรกิจคาร์แคร์ มี 6 ทำเลน่าสนใจ ดังนี้ 1.ห้างสรรพสินค้า เป็นพื้นที่ที่มีคนมาเยือนเยอะ สามารถขายบริการอย่างอื่นนอกจากการล้างรถได้ง่าย และสามารถตั้งราคาสูงได้ แต่ก็แลกมาด้วยความคาดหวังในคุณภาพของงาน หากทำผลงานออกมาไม่ดีพอ ลูกค้าก็จะไม่เข้ามาใช้บริการอีก ซึ่งโดยปกติแล้วลูกค้าในห้างจะไม่เร่งรีบ ทำให้มีเวลาเก็บรายละเอียดงานค่อนข้างมาก […]

แนะขั้นตอนเปิดร้านขาย “เสื้อผ้าเด็ก” อีกหนึ่งธุรกิจทำเงินน่าสนใจ

หากเอ่ยถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเด็ก หลายคนมักจะนึกถึง “เสื้อผ้าเด็ก” และคิดว่าน่าจะขายได้และสร้างกำไรได้มากอยู่ เพราะบรรดาคุณพ่อคุณแม่มักจะสิ่งที่ดีให้กับลูกเสมอ แต่คุณรู้ไหมว่า การที่จะมาจับธุรกิจขายเสื้อผ้าเด็กนั้น ไม่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ เพราะจะต้องมีการตระเตรียมความพร้อม และต้องรู้หลักการบริหารแบบรอบด้าน การทำธุรกิจขายเสื้อผ้าเด็ก เป็นอาชีพยอดนิยม คิดว่าการทำธุรกิจขายเสื้อผ้านั้นทำไม่ยาก แต่คุณต้องรู้จักการเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะกับสถานที่ที่คุณขายอยู่ หลายคนกำลังคิดที่จะทำธุรกิจนี้แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร วันนี้ ชี้ช่องรวย มีคำแนะนำวิธีการเริ่มทำธุรกิจขายเสื้อผ้าเด็กมาฝาก ดังนี้ ขั้นตอนในการทำธุรกิจขายเสื้อผ้าเด็ก 1.งบประมาณ อย่างแรกคุณต้องรู้ก่อนว่าการเปิดร้านขายเสื้อผ้าเด็ก คุณตั้งงบประมาณอยู่ประมาณกี่บาท เพื่อที่เราจะสามารถคิดได้คราว ๆ เพราะการเปิดร้านขายเสื้อผ้าเด็กต้องมีใช้จ่ายหลายอย่าง เช่น ค่าเช่าร้าน ค่าของ ค่าตกแต่ง ในร้าน งบประมาณของคุณควรเหมาะสม เช่นถ้ามีอยู่ 50,000 บาท ควรลงทุนสัก 15,000 บาท ที่สำคัญควรตั้งงบที่ไม่เกินกำลังตัวเอง 2.เลือกสถานที่ขายให้เหมาะสม ควรเลือกสถานที่ที่เป็นตลาดนัดหรือมีที่ประจำ เพราะต่อให้คุณเลือกเสื้อผ้ามาดีขนาดไหนแต่ทำเลไม่ดี ไม่มีลูกค้าเดินผ่านหน้าร้านก็คงขายได้ก็คงยากหน่อย ชุมชนที่มีคนเยอะ ผู้คนพลุกพล่าน หรือมีคนเดินผ่านหน้าร้านทุกวัน สักวันหนึ่งเขาต้องมาเป็นลูกค้าเราบ้างแน่นอน 3.หาแหล่งขายส่งเสื้อผ้าเด็ก การเลือกหาร้านขายส่งเสื้อผ้าเด็ก ให้คุณได้ดูจากราคาและคุณภาพให้ดี ก่อนการทำธุรกิจขายเสื้อผ้าเด็ก โดยไปดูร้านขายส่งเสื้อผ้าเด็กหลายร้านและหลายๆ ที่แล้วค่อยเอาราคามาเปรียบเทียบกันว่าร้านใหนดีที่สุด แล้วค่อยตัดสินใจ แต่คุณต้องคิดค่าใช้จ่ายให้ดีก่อนนะ […]

6 เคล็ดลับจัด “ร้านกาแฟ” ตามหลักฮวงจุ้ย จัดแบบนี้ ปังแน่นอน

เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะเป็นเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ สักร้าน โดยเฉพาะในยุคนี้กลุ่มคนรุ่นใหม่นิยมเปิดร้านกาแฟท่ามกลางธรรมชาติ บางคนมีที่ทางหรือมีพื้นที่ท้องนาตามต่างจังหวัด ก็อาจจะไปเปิดเป็นร้านกาแฟชายทุ่ง ซึ่งรูปแบบการตกแต่งร้านก็แล้วแต่สไตล์ความชอบของเจ้าของร้านเอง แต่สิ่งที่สำคัญของการตกแต่งร้านที่ ชี้ช่องรวย อยากจะแนะนำเพื่อเป็นแนวทาง คือ ฮวงจุ้ยของร้าน เพราะตามความเชื่อหากมีการจัดวางอุปกรณ์ การวางผังของร้านที่ถูกหลักตามศาสตร์ฮวงจุ้ย โอกาสประสบความสำเร็จก็จะมีสูงขึ้นด้วย ดังนั้น การจัดวางผังร้าน และองค์ประกอบภายในร้านตามหลักฮวงจุ้ย ที่ ชี้ช่องรวย นำมาแนะนำ มีดังนี้ 1.การเลือกทำเลที่ตั้ง ในภาษาฮวงจุ้ยเรียก ทำเล ว่าพลังชี่ ซึ่งพลังชี่หมายถึงพลังงานที่มีการเคลื่อนไหวอยู่เรื่อยๆ เหมือนสายน้ำ หรือทำเลที่มีผู้คนมากมายเดินผ่าน ไม่ว่าจะเป็นตามตลาดนัดต่างๆ อาทิ ตลาดนัดจตุจักร หรือตามห้างสรรพสินค้า ตึกสำนักงานต่างๆ บางคนเลือกร้านที่อยู่ริมถนนใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าพลังชี่ในบริเวณนั้นย่อมไหลแรงไม่หยุด แต่ถามว่าทำไมถึงยังขายไม่ดี นั่นเป็นเพราะคุณไม่มีที่ดักจับพลังงาน นั่นก็คือที่จอดรถนั่นเอง สิ่งน้ำสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกทำเลที่ตั้งเลยค่ะ และนอกจากนี้ทำเลต้องห้ามของ ร้านกาแฟ ตามหลักฮวงจุ้ยคือใต้สะพาน เหตุเพราะมองเห็นยาก ดูทึบหมอง ไม่น่าเข้า วิธีแก้คือการออกแบบด้านหน้า ให้มีรูปทรงสามเหลี่ยมพุ่งเข้าใส่สะพาน แล้วควรดูแลเรื่องการจัดแสงให้ดี เน้นเรื่องป้ายให้ลูกค้าเห็นชัดเจนขึ้น 2.หลักการวางเคาน์เตอร์คิดเงิน ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว จะยึดด้านขวาเป็นมังกร ด่นซ้ายคือเสือขาว มังกรนั้นมีความหมายถึงการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เสือขาวคือการหยุดนิ่ง […]

เลือกทำเลแบบไหนให้เหมาะกับ “Food Truck”

ทุกธุรกิจจำเป็นต้องเลือกทำเลที่ดีและเหมาะสมกับธุรกิจนั้นๆ “Food Truck” ก็เช่นกันถึงแม้จะเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนก็ได้ แต่ก็ยังคงต้องหยุดอยู่กับที่เพื่อขายสินค้า ดังนั้นการเลือกทำเลก็ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย วันนี้ ชี้ช่องรวย จะมาแนะนำถึงการเลือกทำเลสำหรับ Food Truck มาดูกันว่าจะมีทำเลไหนที่เหมาะสมบ้าง ทำเล ย่านธุรกิจ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของวงการฟู้ดทรัคเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เพราะจะมีผู้คนผลุกผล่าน อย่างเช่นย่าออฟฟิศ อารีย์ สุขุมวิท ย่านสีลม ทองหล่อ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสินค้าของคุณด้วยว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ ทำเลตลาดนัด แน่นอนว่าบางครั้งถ้ากลุ่มเป้าหมายขอคุณเป็นแค่ลูกค้าทั่วไป ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเสียค่าเช่าแพงๆ ปัจจุบันเราจะเห็นฟู้ดทรัคอยู่แทบทุกตลาด นอกจากจะช่วยสร้างสีสรรให้ตลาดแล้ว ยังเรียกลูกค้าได้มากทีเดียว ทำเลเคลื่อนที่ ข้อได้เปรียบของฟู้ดทรัคก็คือสามารถย้ายสถานที่จำหน่ายได้ตามต้องการ เมื่อสถานที่เดิมทำกำไรไม่ตรงตามเป้าหมายของร้าน แต่การนำรถไปจอดตามข้างทาง ข้างถนน นั้นคุณต้องสอบถามก่อนว่าที่ตรงนั้นสามารถจอดได้หรือไม่ มิเช่นนั้นอาจเกิดปัญหาเรื่องเทศกิจ หรือเจ้าของสถานที่ได้ ทำเลงานอีเวนท์ อีกพื้นที่ที่จะทำให้ร้านของคุณเป็นที่นิยม และติดตลาดคือ การออกร้านตามงานเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้น ตัวอย่างเช่น งาน Art box, งาน FOOD TRUCK FESTIVAL หรืองานต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้ฟู้ดทรัคเข้าร่วมออกร้านด้วย ซึ่งงานเทศกาลต่าง ๆ […]

รวมศาสตร์ “ฮวงจุ้ยร้านค้า” ต้องจัดอย่างนี้ เงินทองไหลมาเทมา ค้าขายร่ำรวยจริง

ฮวงจุ้ย เป็นศาสตร์ความรู้แขนงหนึ่งของจีน มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นการศึกษาสภาพแวดล้อม ว่าด้วยเรื่องชัยภูมิ ทิศทางลม กระแสพลังงาน น้ำ อากาศ ฯลฯ แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อทำการจัดวางฮวงจุ้ยให้เหมาะสม แน่นอนว่า การจะเปิดร้านค้าสิ่งแรกที่ต้องมอง คือ การหาทำเล โดยลักษณะทำเลทองจะต้องอยู่ใกล้แหล่งชุมชน ไม่โดดเดี่ยว และพลุกพล่านไปด้วยผู้คน ซึ่งถือเป็นทำเลทองที่ใครๆ ก็ตามหา แต่หากอยากได้ทำเลทองตามหลักฮวงจุ้ย นอกจากจะต้องอยู่ในแหล่งชุมชนและมีคนพลุกพล่านแล้ว ยังต้องดูกระแสการไหลเวียนของผู้คนในบริเวณนั้นอีกด้วย หน้าร้านต้องหันให้ถูกทิศ ทิศที่เป็นมงคลตามหลักฮวงจุ้ย คือ ทิศใต้ ทิศตะวันตก และทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเชื่อว่าหากหันหน้าร้านไปทางทิศเหล่านี้จะทำให้ค้าขายดี ไม่มีอุปสรรค นอกจากนี้ หน้าร้านไม่ควรมีเสาไฟฟ้ามาบดบัง และไม่ควรมีท่อระบายน้ำ เพราะเชื่อว่าโชคลาภและเงินทองที่เข้ามาจะไหลลงท่อระบายน้ำไปนั่นเอง ประตูเข้าออกควรมีแค่ทางเดียว ประตูทางเข้าออกควรมีขนาดใหญ่ และควรเป็นแบบบานเลื่อนหรือเปิดเข้าข้างใน ควรมีประตูเข้าออกเพียงบานเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการดูแล และมองเห็นทุกคนที่เดินเข้าออกจากร้าน แต่ถ้าร้านของคุณจำเป็นต้องมีประตูหลายบาน ควรทำประตูทางออกให้เล็กกว่าประตูทางเข้า เพราะเชื่อว่าจะทำให้เงินทองไหลเข้ามากกว่าไหลออกจากร้านนั่นเอง วางโต๊ะคิดเงินในตำแหน่ง มังกร ตามหลักฮวงจุ้ยตำแหน่งการตั้งโต๊ะคิดเงินที่ดีที่สุด คือตำแหน่งที่เรียกว่า มังกร หรือทางด้านขวาของร้าน (เมื่อมองจากประตูหน้าร้านเข้ามา) อีกทั้งแวดล้อมบริเวณโต๊ะคิดเงิน ทางด้านหลังโต๊ะควรเป็นผนังทึบ […]

พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ ที่จะขายของ “ตลาดนัด” ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้สะดุด

สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ ที่อยากจะเปิดท้ายขายของหรือหารายได้เสริมในช่วงเย็นหลังเลิกงาน หรือในช่วงวันหยุด แต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก หรือไม่รู้ว่าเริ่มต้นอะไรดี วันนี้ ชี้ช่องรวย มีแนวทางและขั้นตอนดีๆ มานำเสนอเพื่อให้คุณๆ นำไปปรับใช้ ดังนี้ 1.หาตลาดที่เราต้องการขาย ลองไปเดินดูตามตลาดเป้าหมายที่เราจะนำสินค้าไปขาย หรือสำหรับใครที่ยังไม่รู้จะขายอะไรดี ไปเดินสำรวจดูก่อนแล้วค่อยหาลู่ทางก็ยังไม่สายค่ะ 2.เลือกสินค้ามาขายที่ตลาดนัด ไปเดินดูตลาดมาแล้ว รู้แล้วว่าตลาดยังไม่มีสินค้าอะไรมาวางขาย ก็ลองนำมาขายได้ อย่างน้อยเราก็ไม่มีคู่แข่งแล้ว ข้อนี้สบายใจได้ 3.แบ่งเวลาขายให้ชัดเจน (สำหรับมือใหม่อาจทำเป็นอาชีพเสริม) ถามตัวเองว่าจะขายของช่วงไหน ช่วงเย็นหลังเลิกงาน หรือช่วงเช้าก่อนไปทำงาน หรือจะขายเฉพาะวันหยุดอย่างเดียว 4.เตรียมใจให้พร้อม ให้จำขึ้นใจเสมอว่า ไม่ว่าจะทำอะไรอุปสรรคย่อมต้องมีอยู่แล้ว อย่างที่ตลาดนัดอุปสรรคสำคัญ คือ สภาพดินฟ้าอากาศ หากคุณขายสินค้าในช่วงหน้าฝน ก็ต้องทำใจที่จะต้องเจอกับสภาพเปียกแฉะ หรือลูกค้าบางตา 5.เตรียมสมุดทำรายรับรายจ่าย (สำคัญมาก) ข้อนี้สำคัญมาก เพราะคุณจะได้รู้ว่าในแต่ละวันที่คุณค้าขาย มีการลงใช้จ่าย และมีรายได้อะไรเข้ามาบ้าง เพื่อจะได้ประเมินสถานการณ์หากไม่เป็นดังใจหวัง 6.เงินทุนมากน้อยตามสินค้า เงินลงทุนถือเป็นใบเบิกทางที่จะทำให้คุณเริ่มต้นกับกิจการค้าของคุณ การขายของตลาดนัดถือว่าใช้ลงทุนน้อยมาก และบางคนแทบจะไม่ต้องใช้ลงทุนอะไรเลย เพียงนำเอาขอสมือสองที่ใช้แล้วแต่ยังอยู่ในสภาพดีมาขาย หรือจะมีค่าใช้จ่ายก็ตรง ค่าเช่าสถานที่เท่านั้น 7.โปรโมชั่นในการขาย สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ ที่ต้องการทำให้ลูกค้ารู้จักและจดจำ การทำโปรโมชั่นในช่วงเปิดร้านใหม่ หรือโปรโมชั่นกระตุ้นความสนใจก็ไม่ถือว่าผิด […]

‘วรพร’ มะม่วงแปรรูปพร้อมทานเจ้าแรกในไทย เพิ่มมูลค่าจากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ร้านเซเว่นฯ

“มะม่วง” ได้ชื่อว่าเป็นผลไม้มากคุณประโยชน์ที่อยู่คู่กับคนไทย นอกจากรับประทานสดได้ทั้งดิบ ห่าม และสุกแล้ว ยังสามารถดัดแปลงนำไปแปรรูปได้หลายอย่าง ทั้งมะม่วงแช่อิ่ม มะม่วงกวน และการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ก็นับว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับมะม่วงแปรรูป “วรพร” วางจำหน่ายที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาสูตรเพื่อให้ได้รสชาติที่ถูกปาก ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และยังช่วยกระจายรายได้ให้กับครอบครัวเกษตรกรและคนในชุมชนอย่างมั่นคง นายชัยพร โสธรนพบุตร ทายาทธุรกิจมะม่วงแปรรูปวรพร เล่าถึงที่มาที่ไปว่า ผลิตภัณฑ์มะม่วงแปรรูป “วรพร” เป็นธุรกิจที่สานต่อมาจากคุณพ่อ เริ่มจากการที่คุณพ่อตัดสินใจลาออกจากอาชีพรับราชการครู แล้วหันมาทำธุรกิจ โดยนำเงินที่เก็บหอมรอมริบมาตลอดชีวิตประมาณหนึ่งล้านบาท มาลงทุนทำธุรกิจดองผลไม้ ปรากฏว่าขายดีมาก จึงนำเงินที่ได้ไปลงทุนเพิ่ม ต่อมาตัดสินใจซื้อที่ดิน 1 ไร่ เพื่อสร้างโรงงานแรกด้วยเงินลงทุน 3 ล้านบาท แล้วใช้ความรู้ภูมิปัญญาดั้งเดิมกับความรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่ได้ร่ำเรียนมาพัฒนากิจการจากครัวเรือนเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดย่อม พร้อมปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับรองมาตรฐาน GMP, HACCP เพื่อยกระดับจากสินค้าโอทอปสู่ร้านสะดวกซื้อและส่งออกตลาดต่างประเทศ “มะม่วง ‘วรพร’ ถือเป็นเจ้าแรกที่สร้างนวัตกรรมใหม่ให้วงการมะม่วงดอง และเปลี่ยนวิธีกินแบบเดิม ๆ ตักใส่ถุง จิ้มพริกเกลือ มาเป็นมะม่วงดองพร้อมรับประทานเจ้าแรกในประเทศไทย ซึ่งนวัตกรรมนี้เกิดจากการเข้ามาร่วมทำธุรกิจกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่นเมื่อ 20 กว่าปีก่อน โดยทีมงานเซเว่นฯ เห็นผลิตภัณฑ์และชื่นชอบในรสชาติ […]

เปิดขั้นตอนเลือก “อาคาร” เพื่อทำการค้าตามศาสตร์ “ฮวงจุ้ย” อาคารสวย ทำเลดี ลูกค้าจะไปไหนเสีย

อาคารก็สวย ทำเลก็ดี อยู่ในแหล่งการค้า แต่ทำไมลูกค้าน้อย อยู่แล้วไม่รวย คำถามเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าผู้ที่มองหาอาคารสำหรับการลงทุน หรือขยายกิจการ พิจารณาอย่างรอบครอบ ด้วย 5 ขั้นตอนการเลือกอาคารที่ดีตามหลักวิชาฮวงจุ้ย ดังนี้ 1.เลือกตำแหน่งเก็บโชคง่าย ให้พิจารณาตัวถนนฝั่งเดียวกับอาคารเป็นหลัก โดยดูว่าถนนด้านหน้าอาคารมีความชันมากหรือน้อย ไม่ควรเลือกอาคารที่อยู่บนเนินหรือแอ่ง แต่ควรอยู่เลยจากเนินลงมาประมาณ 80-100 เมตร เป็นทางตรงมีความชันน้อย ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งเก็บโชคง่ายที่สุด หากพิจารณาจะทราบเหตุผลว่า อาคารที่อยู่บนเนิน หรือแอ่งมักจะมองเห็นยาก ถนนด้านหน้าอาคารมีความชันมากไม่เหมาะแก่การจอดรถ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ลูกค้าไม่เข้าร้าน 2.อาคารควรหันเปิดรับโชค อาคารร้านค้าควรหันหน้ารับกระแสพลังงานชี่ ไม่ควรบิดอาคารหนีกระแส โดยพิจาณาจากฝั่งถนนที่กำลังใช้อยู่เป็นหลักแล้วดูว่าอาคารที่เรากำลังเลือกอยู่นั้น ด้านหน้าอาคารหันหน้ามาหาเราหรือไม่ ถ้าหันมาหาเราถือว่าดี แต่ถ้าไม่เราไม่ควรเลือกอาคารนั้นเพราะจะรับพลังโชคลาภไม่ได้เลย ต่อให้อาคารนั้นสวยงามเพียงใด ในทางกายภาพอาคารที่หันข้างให้ถนนนั้นมักจะมองไม่เห็นด้านหน้าของอาคาร และไม่เชื้อเชิญลูกค้า ต่อให้ตกแต่งสวยงามมากแค่ไหนคนก็จะมองไม่เห็นและไม่สนใจ 3.หลีกเลี่ยงอุปสรรคหน้าอาคาร ในวิชาฮวงจุ้ยเรียกว่า “สั่วะ” แปลว่า อุปสรรค ในความเป็นจริงมีเยอะมาก อุปสรรคหลักๆที่ควรหลีกเลี่ยง คือ เสาไฟฟ้าหรือต้นไม้ไม่ควรอยู่ตรงกลางด้านหน้าของอาคาร ไม่ควรเลือกอาคารที่อยู่ใกล้กับหม้อแปลงไฟฟ้า (ควรเลือกถัดออกมา3-4ห้อง) ด้านหน้าอาคารไม่ควรมีบ่อพักหรือบ่อน้ำทิ้ง ด้านข้างและด้านหลังอาคารไม่ควรมีตันไม้ใหญ่โดยเฉพาะต้นโพธิ์ ต้นไทร อาคารไม่ควรต่ำกว่าถนน หรือสูงกว่าถนนเกินไป ด้านหน้าอาคารควรมีลานโล่งพอประมาณ ไม่ควรชิดติดถนนหรือทางเท้า […]

แนะ 6 วิธี วาง “ศาลเจ้า” ในร้านค้าให้เฮง และขายดี กิจการรุ่งเรือง

เวลาไปร้านค้าของคนไทยเชื้อสายจีน เรามักจะเห็นการตั้งศาลเจ้าภายในร้านค้า หรือที่เรียกกันติดหูว่า “ตี่จูเอี้ย” ตามความเชื่อคนจีนเเล้วเป็นเทพคอยดูเเลคุ้มครองคนในบ้าน ซึ่งการตั้งศาลเจ้าในร้านค้านั้นยุ่งยากกว่าหน่อย ไม่เหมือนกับการตั้งที่บ้าน โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือจะต้องหาตำเเหน่งตั้งศาลที่ถูกต้อง เพราะถ้าเกิดตั้งผิดอาจส่งผลกระทบได้ วันนี้เลยจะพามาดูลักษณะชัยภูมิที่ถูกต้องของการตั้งศาลกันค่ะ 1.ตั้งศาลตรงกับประตูทางเข้าร้าน ตำแหน่งศาลที่ถูกต้องเวลาเดินเข้าร้านจะต้องมองเห็นทันที ซึ่งตำแหน่งที่ดีที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะวางตำแหน่งนี้กันอยู่แล้ว 2.ห้ามวางศาลหลบมุมหรือมีสิ่งของมาปิดบังหน้าศาล บริเวณหน้าศาลเจ้าที่จะต้องมีพื้นที่โล่ง ห้ามมีสิ่งใดมาปิดบัง บางร้านเอาศาลไปวางหลบอยู่ด้านหลังร้าน เดินเข้าร้านมองไม่เห็นศาล ลักษณะแบบนี้ก็เข้าข่ายวางศาลผิด 3.ห้ามวางศาลพิงห้องน้ำ นี่ถือเป็นตำแหน่งต้องห้ามเลยทีเดียว เพราะศาลเจ้าที่ถือเป็นธาตุไฟ เมื่อนำไปพิงห้องน้ำ (ธาตุน้ำ) ก็เท่ากับเอาน้ำไปพิฆาตไฟ ความศักดิ์สิทธิ์ของศาลก็จะเสื่อมถอยลง หลายร้านมักจะวางแบบนี้คือมักจะไม่มีเจ้าที่ มีแต่ศาลเปล่าๆ ตั้งอยู่เท่านั้น 4.ห้ามวางศาลใต้บันไดหรือบริเวณทางขึ้นลงบันได กรณีแบบนี้จะพบบ่อยสำหรับอาคารพาณิชย์ที่หาตำแหน่งในการวางเจ้าที่ค่อนข้างจะยาก เพราะพื้นที่มีน้อย บริเวณบันไดจะก่อสภาพที่เคลื่อนไหว ศาลเจ้าที่ต้องการความนิ่งสงบ การเอาศาลไปวางบริเวณบันไดไม่ว่าจะเป็นใต้บันไดหรือทางขึ้นลงบันได ก็เท่ากับรบกวนเจ้าที่โดยตรง 5.ห้ามวางศาลใต้คาน ศาลจะถูกคานกดทับ ทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของศาลลดทอนลงไปได้เช่นเดียวกัน 6.ห้ามวางศาลพิงเสาลอย ร้านค้าส่วนใหญ่ที่เปิดโล่งมักจะมีเสาลอยกลางร้าน การเอาศาลไปพิงเสาลอย แสดงถึงความไม่มั่งคงหลังศาลควรเป็นผนังทึบไม่เคลื่อนไหวการตั้งศาลเจ้าที่ภายในร้านค้ามีเงื่อนไขค่อนข้างจะมาก จึงมีคำกล่าวว่า “ถ้าไม่มีตำแหน่งที่เหมาะสมก็ไม่ควรตั้งศาล” เพราะถ้าตั้งอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี การไม่ตั้งศาลเจ้าที่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร เราอาจใช้วิธีไหว้เจ้าที่กลางแจ้งในช่วงเทศกาลต่างๆ แทนก็ได้ และที่สำคัญตั้งศาลเเล้วก็อย่าลืมดูเเลศาลเจ้า ไม่ปล่อยทิ้งร้างด้วยนะคะ ขอขอบคุณที่มา : www.home.co.th […]

รู้ให้ลึก! ฮวงจุ้ยทำเล “สี่แยก” ต้องดูอย่างไร ที่จะทำให้การค้าขายทั้งเฮงและดี

ในหลายๆ ครั้งเรามักจะได้ยินว่าการเลือกทำเลร้านค้า สำนักงาน หรือแม้กระทั่งที่พักอาศัยอยู่บริเวณสี่แยกนั้น เป็นลักษณะของฮวงจุ้ยที่ดี แต่จากสิ่งที่เราเห็นในชีวติจริงเรามักจะพบว่า ไม่จำเป็นที่ร้านค้า สำนักงาน หรือแม้กระทั่งบ้านคนที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกนั้นจะต้องดีอยู่เสมอไป หรือแม้กระทั่งทำเลของสี่แยกเดียวกันหากอยู่คนละมุมกันนั้นก็ยังเจริญรุ่งเรืองต่างกันได้เช่นเดียวกัน หลักการเบื้องต้นของการเลือกทำเลบริเวณสี่แยกนั้นมี ดังนี้ 1.ให้เลือกทำเลที่เห็นจุดจ่าย เพราะการจัดฮวงจุ้ยนั้น เป็นการจัดเพื่อให้ร้านค้า สำนักงาน หรือที่พักอาศัยสามารถรับกระแสได้มากที่สุด โดยบริเวณสี่แยกถือเป็นที่บรรจบกันของถนนหลายสาย ทำให้เป็นจุดที่สามารถรวมกระแสพลังงานได้เยอะ อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นว่าทุกๆ มุมในด้านของสี่แยกจะต้องได้รับกระแสเยอะเสมอไป การเลือกทำเลสี่แยกที่ดีขอให้เลือกร้านที่สามารถมองเห็น “กระแส” หรือในที่นี้หมายถึง “รถ” นั้นวิ่งมาจากทางไกล เพราะยิ่งไกลก็แปลว่ายิ่งลากกระแสมาได้มากขึ้นเท่านั้น 2.เลือกทำเลที่ไม่เป็นน้ำตัดขา ในการจัดฮวงจุ้ยนั้น ต้องคำนึงถึงการกักเก็บกระแสให้ได้ด้วย หากลักษณะของทำเลแม้จะอยู่บริเวณสี่แยก และอยู่ในมุมที่มองเห็นกระแสวิ่งเข้ามาแต่ไกลและเห็นกระแสตีจากน้อยก็จริง แต่ลักษณะของกระแสนั้นอยู่กระชั้นกับประตูทางเข้าของทำเลมากเกินไป ก็จะทำให้ไม่สามารถดักกระแสได้เยอะเท่าไรนัก หรือให้คิดถึงร้านค้าที่ไม่มีที่พอให้จอดรถด้านหน้าได้ ก็แปลว่าไม่มีที่ว่างด้านหน้าไปจนถึงถนนเพียงพอให้รถจอด ก็จะทำให้โอกาสในการขายไม่ดีเช่นเดียวกัน ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นฮวงจุ้ยทำเลแบบน้ำตัดขา หรือมากไปกว่านั้นหากเราสามารถเลือกทำเลที่การวิ่งของรถนั้นเป็นไปแบบไม่รวดเร็วมากไป ค่อยเคลื่อนตัวได้แบบช้าๆ ก็จะไม่ถือว่าเป็นฮวงจุ้ยแบบน้ำตัดขา 3.หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางหน้า ร้านค้าหรือหน้าบ้าน เพราะถึงแม้ว่าเราสามารถเลือกทำเลที่สถาพโดยรวมนั้นรับกระแสได้แล้ว แต่ที่หากหน้าร้าหรือหน้าประตูร้านนั้นไปเจอกับสิ่งก่อสร้างที่กีดขวางไม่ให้กระแสหลากเข้ามาที่ประตูได้ เช่น สะพานลอย เสาไฟฟ้า ตีนสะพานข้ามแยก ต้นไม้ ตู้ไปรษณีย์ จะทำให้มีโอกาสที่เป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดีสูง ดังนั้นเมื่อเวลาที่ยืนหน้าประตูบ้านหรืออาคาร ความรู้สึกโปร่งโล่งสบายนั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง […]

เคล็ดไม่ลับ “ร้านค้าปลีก” ปรับเปลี่ยนอย่างไรให้ยอดขายทะลุเป้า

ธุรกิจร้านค้าปลีดยังคงเป็นอีกร้าค้าที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากที่สุด เพราะมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย แต่ปัจจุบันก็มีคู่แข่งทางธุรกิจอย่างร้านสะดวกซื้อเกิดขึ้นมากมาย ทำให้ร้านค้าปลีกในยุคเก่ารายได้ลดน้อยลง ซึ่งหากจะให้แข็งขันกันจริงๆ ก็อาจจะเป็นไปได้อยาก ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุด คือ การปรับเปลี่ยนและพัฒนาให้ร้านตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้นเพื่อเพิ่มยอดขาย วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะขอนำเสนอ เคล็ดไม่รับ “ร้านค้าปลีก” ปรับเปลี่ยนอย่างไรให้ยอดขายทะลุเป้า ให้ผู้ที่กำลังทำธุรกิจนี้อยู่ได้ปรับตัว มาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง เคล็ดลับการปรับหน้าร้าน 1. ลูกค้าคือใคร เราต้องรู้ให้ได้ว่าลูกค้าหลักของเราคือใคร เช่น คนที่เดินผ่านไปมาหน้าร้านเราเป็นใคร เพื่อจะได้ปรับร้านหรือหาสินค้าที่เหมาะสมให้เข้ากับลูกค้า 2. สินค้าในร้านต้องโดนใจ ยิ่งสินค้าในร้านเราตอบโจทย์ลูกค้าได้มากเท่าไหร่ เราจะได้เปรียบร้านอื่นมากเท่านั้น และยิ่งถ้าร้านเรามีสินค้าที่ร้านอื่นไม่มี ก็จะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น 3. ตกแต่งร้านสวยงาม ทุกสิ่งในร้านที่ได้รับการตกแต่ง ล้วนมีความสำคัญต่อความรู้สึกของลูกค้า ยิ่งร้านที่ตกแต่งสวย มีแสงสว่างอย่างเพียงพอ ใช้สีตกแต่งที่ดึงดูดสายตา จะมีส่วนช่วยดึงดูดให้ลูกค้าอยากเข้าร้านได้มากกว่าร้านที่ไม่มีการตกแต่งให้ดูดี 4. สินค้าต้องเตะตาลูกค้า การวางสินค้าหรือการจัดเรียงสินค้า ควรใช้หลักการที่ว่าสินค้าไหนขายดี สินค้านั้นต้องอยู่ในระดับสายตาลูกค้า เพื่อสะดวกต่อการมองเห็นและหยิบซื้อสินค้าได้ง่าย 5. มนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ การให้บริการของพนักงานและเจ้าของร้าน เป็นจุดขายที่ดีที่สุดของร้านค้าปลีก เพราะการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าจนเกิดการใช้บริการซ้ำและบอกต่อ เคล็ดลับการปรับหลังร้าน 1. หลังร้านต้องจัดระเบียบ แม้ว่าหน้าร้านสวยงาม แต่ถ้าหลังร้านไร้ระเบียบ ก็สร้างปัญหาใหญ่ได้เช่นกัน เพราะการจัดระเบียบหลังร้านช่วยให้ง่ายต่อการจัดสต็อก และทำให้เงินไม่จมไปกับสต็อกค้าง 2. ต้องเก็บข้อมูลสินค้า การเก็บข้อมูลจะทำให้เรารู้ว่าสินค้าที่วางในตำแหน่งไหนขายดี ตำแหน่งไหนขายไม่ดี ช่วยให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ว่า ควรเพิ่มหรือลดสินค้าชนิดใด 3. ทำบัญชีให้เป็นระบบ การเก็บข้อมูลให้เป็นระบบจะเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์รายได้ ค่าใช้จ่าย รวมถึงต้นทุน 4. สินค้าค้างสต็อกต้องระบายออก สินค้าในสต็อกคือ ต้นทุนที่จมอยู่ ถ้ามีสต็อกมากต้นทุนยิ่งจมมาก ต้องหาทางระบายสต็อกด้วยการลดราคาหรือจัดโปรโมชั่น […]

เลือกทำเลเปิด “ร้านอาหาร” อย่างไร ไม่ให้เจ๊ง!

“ธุรกิจร้านอาหาร” เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ใครหลายๆคนนั้นใฝ่ฝันอยากจะเป็นเจ้าของ แต่การที่จะเปิดร้านอาหารนั้นทำเลหรือที่ตั้งร้านอาหารนั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะมาแนะนำวิธีการเลือกทำเลให้กับคนที่กำลังมองหาได้ใช้หลักการนี้เพื่อเลือกที่ตั้งของร้าน และดำเนินธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ 1.รู้ก่อว่าลูกค้าเป็นใครและอยู่ตรงไหน ทำเลบางทำเลคนเยอะแต่อาจไม่เหมาะกับร้านของเราถ้าคนเหล่านั้นไม่ใช่กลุ่มลูกค้าที่เรามองหา ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนที่จะเลือกทำเลใดๆก็ตามเราต้องรู้ก่อนเสมอว่าเราจะขายใคร ในทำเลนั้นมีกลุ่มลูกค้าเราอยู่หรือไม่ พฤติกรรมเป็นยังไง การหาข้อมูลที่ดีที่สุดคือการเข้าไปนั่งในร้านอาหารที่คล้ายๆเราแล้วสังเกตุกลุ่มลูกค้า อีกอย่างคือการหาข้อมูลในบริเวณนั้นๆเช่น มีตึกออฟฟิศเยอะแค่ไหน กลางวันคนเหล่านี้ไปทานที่ไหนกัน คนผ่านหน้าร้านเยอะแค่ไหน 2.จำนวนประชากรในพื้นที่ ต้องมองหาที่ที่มีคนมากพอที่จะซื้อสินค้าของคุณ ถ้าสมมติว่าคนเดินผ่านหน้าร้านคุณ 100 คน มี 10 คนที่จะเข้ามาซื้อสินค้าของคุณ สถานที่แห่งนั้นควรจะเป็นที่ไหน ห้างสรรพสินค้า หน้าโรงเรียน ใกล้มหาวิทยาลัย ในโรงพยาบาล ใต้อาคารคอนโดมิเนียม ตลาดนัด ตลาดสด บนสถานีรถไฟฟ้า BTS ในสนามบินสุวรรณภูมิ ในขนส่งหมอชิต ริมทางเท้า หน้าโรงงาน ห้องแถวหน้าหมู่บ้าน หรือแม้แต่หน้าบ้านของคุณเอง ทำเลที่ตั้งจะเป็นตัวกำหนดประเภทของธุรกิจที่เหมาะสมให้กับคุณไปโดยปริยาย 3.กำลังซื้อหรือรายได้ในพื้นที่นั้นๆ อีกหนึ่งตัวแปลสำคัญ คือ ความสามารถในการจับจ่ายซื้อของ ถ้าคุณได้ทำเลขายของหน้าโรงเรียน สินค้าไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง แต่ต้องซื้อได้บ่อย ยิ่งมีคู่แข่งน้อยๆ โอกาสขายดีก็มีมาก แต่ถ้าเปิดร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ถึงผู้ที่เดินเข้ามาช้อปปิ้งจะมีความสามารถในการจับจ่ายซื้อหา แต่ด้วยความที่มีคู่แข่งล้นหลาม คุณก็ต้องแน่ใจว่าธุรกิจของคุณ โดดเด่น […]

เลือก “ช่องทางการขาย” อย่างไร ให้เหมาะกับสินค้า

ธุรกิจค้าขาย ไม่ว่าจะใครๆก็อยากขายดิบขายดีซึ่งการจะขายดีได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบกลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สินค้าดีมีคุณภาพ สินค้าตรงตามความต้องการของลูกค้า สินค้าที่กำลังได้รับความนิยม เหล่านี้ ล้านเป็นปัจจัยในการเพิ่มยอดขาย แต่อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่หลายคนมักจะมองข้ามไป คือ “ช่องทางการขาย” วันนี้ ชี้ช่องรวย มีเทคนิคดีๆ ในการเลือกช่องทางการขายให้เหมาะสมกับสินค้าเพื่อดันยอดให้ทะลุเป้ามานำเสนอ ไว้เป็นแนวทางสำรับคนที่กำลังอยากจะเริ่มต้นธุรกิจ หรือกำลังขยายตลาดใหม่ มาดูกันดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง 1.รู้ว่าสินค้าของตัวเองเหมาะกับลูกค้าแบบไหน นั่นก็เพราะการกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจให้ชัดเจนจะช่วยกำหนดแนวทางในการทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น ช่วยให้ผู้ประกอบการรู้ว่าควรทำอะไร เพื่อใคร และทำอย่างไร เช่น สินค้าเพื่อสุขภาพ ลูกค้าเป้าหมายของเราก็คือคนที่รักสุขภาพ ดังนั้นวัตถุดิบก็ควรเป็นส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพ บรรจุภัณฑ์ต้องสื่อถึงการมีสุขภาพดี ช่องทางการขายก็ต้องเป็นร้านที่ลูกค้าของเราจะไปเลือกซื้อสินค้า แล้วยังรวมไปถึงช่องทางในการทำตลาดและช่องทางสื่อสารกับลูกค้าด้วย ดังนั้นหากผู้ประกอบการรู้ว่าสินค้าของตัวเองเหมาะกับใคร ก็จะมีแนวทางในการทำธุรกิจชัดเจนขึ้นนั่นเอง 2.รู้จักกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของช่องทางจัดจำหน่าย นอกจากผู้ประกอบการจะต้องรู้จักลูกค้าเป้าหมายของตัวเองแล้ว ก็ต้องรู้จักลูกค้าเป้าหมายของช่องทางการขายที่เราสนใจจะนำสินค้าของเราเข้าไปวางขายด้วย ว่าใช่ลูกค้ากลุ่มเดียวกันหรือไม่ เพราะถ้าหากไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มเดียวกัน นั่นแสดงว่าสินค้าของเราไม่เหมาะสมจะวางขายในช่องทางจัดจำหน่ายนั้น โดยวิธีที่จะรู้จักกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของช่องทางก็คือ ผู้ประกอบการควรไปเดินสำรวจดูสถานที่จริง ดูสินค้าที่วางขายในช่องทางจัดจำหน่ายนั้นๆ แล้วลองพิจารณาดูว่าสินค้าของเราเหมาะจะวางเอาไว้ตรงไหนบนชั้นวาง และสังเกตพฤติกรรมของผู้บริโภค เป็นต้น 3.อายุสินค้านานเท่าไหร่ เนื่องจากในการนำสินค้าเข้าไปขายในแต่ละช่องทางจัดจำหน่ายนั้น ต้องมีระยะเวลาตั้งแต่การขนส่งไปจนถึงลูกค้าบริโภคสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงการเลือกช่องทางที่จะนำสินค้าไปขาย ซึ่งต้องมีระยะเวลาสัมพันธ์กับอายุของสินค้าด้วย เช่น ผักและผลไม้สด ต้องมีการขนส่งที่รวดเร็ว ระยะทางในการไปถึงจุดขายควรสั้นที่สุด เพื่อให้สินค้าคงความสดใหม่เอาไว้ให้ได้ หรือถ้าเป็นน้ำผลไม้แปรรูปบรรจุขวด […]

เปิด 3 เทคนิค เลือกทำเลเปิด “ร้านกาแฟ” แบบฉบับมือใหม่หัดขาย

สำหรับใครที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นดจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ แต่ไม่รู้ว่าจะดูรายละเอียดหรือวางแผนอะไรที่ง่ายๆ แบบมือใหม่อย่างคุณก็สามารถทำได้ ด้วย 3 เทคนิคเบื้องต้น มาให้ลองฝึกปรือวิทยายุทธคร่าวๆ กันก่อน ดังนี้ 1.สถานที่ตั้งต้องเหมาะสม ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดร้านคุณต้องดูว่าทำเลที่คุณจะเปิด มีผู้คนเดินผ่านไปมามากน้อยแค่ไหน ร้านกาแฟ ส่วนใหญ่นิยมเปิดใกล้กับสถานที่ทำงาน แหล่งชุมชน แหล่งท่องเที่ยว หรือสถานศึกษา ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบ บริเวณใกล้เคียง ควรจะมีลักษณะที่ไม่แออัดจนเกินไป ไม่อยู่ใกล้สถานที่ที่เกิดเสียงดังตลอดเวลาจนทำให้ลูกค้าเกิดความรำคาญ ที่สำคัญทำเลที่ตั้งต้องเป็นสถานที่ที่เดินทางมาถึงได้อย่างสะดวกสบาย เช่น ใกล้กับป้ายรถเมล์ หรือใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น 2.กลุ่มลูกค้า เมื่อกำหนดทำเลที่ตั้งของร้านแล้ว สิ่งที่ต้องดูต่อมา คือ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ควรจะตรงกับกลุ่มที่คุณตั้งไว้ด้วย เช่น คุณวางแผนไว้ว่ากลุ่มลูกค้าของคุณจะทำอาชีพใด อายุ เพศ พฤติกรรมการซื้อเป็นอย่างไร การซื้อสินค้าของกลุ่มลูกค้าของคุณมีความถี่ต่อวัน ต่อสัปดาห์เท่าไหร่ เมื่อคุณกำหนดกลุ่มลูกค้าแล้วก็จะทำให้คุณหาสถานที่ตั้งร้านในวงแคบขึ้น ไม่ต้องไปหาในสถานที่ที่ไม่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณให้เหนื่อยเปล่า เพราะคุณมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในใจอยู่แล้ว 3. คู่แข่งไม่มากเกินไป เมื่อเลือกทำเลเปิดร้านกาแฟ คุณต้องสังเกต และสำรวจบริเวณใกล้เคียงของสถานที่ที่จะเปิดร้านกาแฟด้วยว่ามีร้านประเภทเดียวกับคุณหรือไม่ จำนวนกี่ร้าน ระยะทางห่างกันมากน้อยแค่ไหน สินค้าในร้านและราคาแตกต่างกันอย่างไร การที่คุณเลือกเปิดร้านในบริเวณที่มีคู่แข่งจำนวนมากอาจจะเป็นการยากที่จะทำให้ลูกค้าหันมาสนใจร้านของคุณได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ขึ้นกับปัจจัยอื่นด้วย เช่น […]

ไปรษณีย์ไทย พาส่องเทคนิคซุป’ตาร์ดัง ขายของปัง ลูกค้าปลื้ม

ในยุคที่อีคอมเมิร์ซเติบโต อาชีพ “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์” ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างมาก แต่จะประสบความสำเร็จในการค้าขายออนไลน์กลับไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้นำด้านบริการและเบอร์หนึ่งแห่งการขนส่งโลจิสติกส์อย่าง “ไปรษณีย์ไทย” ได้แบ่งปันวิธีการสร้างจุดเด่นในการค้าขายออนไลน์ที่รับรองว่า พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ขายดิบขายดีแน่นอน ไปเริ่มกันเลย 1.คาแรคเตอร์ การมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนจะทำให้ดึงดูดคนซื้อได้มากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญคือจะต้องทำให้ลูกค้าอยากรู้ว่าผู้ขายเป็นอย่างไร และที่สำคัญควรแสดงจุดเด่นด้วยการใส่ความเป็นตัวเองลงไปในการขาย เช่น ภาษา การแต่งกาย การทักทายลูกค้า ทั้งยังต้องทำให้ผู้ซื้อรู้สึกผูกพันในชีวิตประจำวัน และไม่สามารถหาบุคลิกแบบเราได้จากที่อื่น 2.เทคโนโลยี ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกวงการธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์ที่จำเป็นอย่างยิ่งในการอาศัยช่องทางและเทคโนโลยีต่าง ๆ ในการส่งแบรนด์ของตัวเองออกไปสู่สายตาผู้คน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอนเทนต์บนเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมหรือแม้แต่การสร้างวีดีโอคอนเทนต์บนยูทูป พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะต้องใช้เทคโนโลยีที่มีในมือให้เหมาะสมกับแบรนด์ของตัวเอง เพื่อให้สินค้าของเราไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น 3.ราคา ต้องยอมรับว่าราคาคือปัจจัยในการตัดสินใจสั่งซื้อสินค้า ดังนั้นกลยุทธ์ในการตั้งราคาจึงต้องมีความรอบคอบอย่างมาก ราคาของสินค้าควรสอดคล้องต้นทุน ไม่ควรตั้งต่ำหรือสูงจนเกินไปเพราะจะทำให้ผู้บริโภคเริ่มลังเล นอกเหนือจากนี้ ยังต้องมีออกโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงดูดใจและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีความคุ้มค่าที่ใช้บริการ 4.ความแปลกใหม่ ปัจจุบันมีสินค้าที่คล้ายคลึงกันถูกวางจำหน่ายทั้งบนช่องทางออนไลน์และตลาดทั่ว ไป สินค้าจึงต้องมีความแปลกใหม่เพื่อให้สามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับธุรกิจ ทั้งในเรื่องการออกแบบ กรรมวิธีการผลิต การโฆษณา การสร้างเรื่องราวของสินค้า โดยจะต้องคำนึงให้ความแตกต่างนั้นสอดคล้องกับแบรนด์ด้วย 5.ความเร็ว นอกจากความไวในการอัพเดทสินค้าแล้ว สิ่งสำคัญอย่างมากอีกประการ คือ “การขนส่ง” ที่ต้องไวที่สุด เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจที่รับของรวดเร็วทันใจ และอาจกลับมาใช้บริการได้ในภายหลัง […]

แนะหลักการดูทำเล “ทิศทางร้านค้า” ให้เงินทองไหลมา การค้ารุ่งเรือง

หลายคนที่มีอาชีพค้าขาย หรือประกอบธุรกิจต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่ต้องคำนึงถึงทำเลที่ตั้งของร้านคาร รวมไปอาคารพาณิชย์ต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าทิศทางของตำแหน่งที่ตั้ง ก็ล้วนส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าของธรุกิจของคุณได้เช่นกัน ทิศทางกับที่ตั้งร้านค้า ทิศเหนือ ร้านค้าที่หันหน้าไปทางทิศเหนือว่าที่ตั้งไม่ดีนักการค้าจะอยู่ได้ไปเรื่อยๆ ค่อนข้างเงียบเหงา ยากจะรุ่งเรืองเฟื่องฟูตามคาดคิด ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ร้านค้าตั้งหันหน้าไปตะวันออกเฉียงเหนือที่ตั้งเป็นที่ดีมีคนรู้จักอย่างกว้างขวาง แต่จะขายสินค้าตามกระแสไม่ค่อยดี ทิศตะวันออก ร้านค้าตั้งหัวหน้าไปทางทิศตะวันออก ค้าขายดี มีกำไร เจริญเติบโตดี จะได้รับความสำเร็จการค้าอย่างรวดเร็วมั่นคงร่ำรวย ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ร้านค้าที่ตั้งตะวันออกเฉียงใต้มีความรุ่งเรือง เจริญก้าวหน้า เงินทองหมุนเวียนดี ทิศใต้ ร้านค้าที่ตั้งทางเขตทิศใต้เข้าทันทีจะเจริญอย่างรวดเร็ว ราบรื่น มีโอกาศดีๆในการค้า ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ร้านค้าที่ตั้งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นร้านค้าที่มีพลังทางด้านจิตใจ พูดง่ายๆ พอมีกำไร พอเพียง เจ้าของร้านอยู่ร่มเย็นดี ทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ ร้านค้าที่ตั้งทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ร้านค้าที่ตั้งทิศนี้จะต้องขยันขันแข็งอย่างจริงจังเพราะทิศนี้ไม่มีโชคลาภ ทิศตะวันตก ร้านค้าที่ตั้งทางเขตทิศตะวันตกจะรุ่งเรืองร่ำรวยแต่ควรใว้พระและหาของเสริมมงคลมาเสริม ขอบคุณข้อมูลจาก : amulet.in.th

มาดู! ข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง หากต้องมี “ตัวแทนจำหน่าย” สินค้า บนโลกออนไลน์

ในโลกการค้าขายออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เสื้อผ้า หรือสินค้าอะไรก็ตาม การมีตัวแทนจำหน่าย ก็เหมือนกับการมีผู้ช่วยที่จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับการจัดการบริหารระบบเอาเองว่า จะต้องวางแบบไหนเพื่อให้ไม่เกิดปัญหาหรือถ้าเกิดก็เกิดให้น้อยที่สุด การเป็น “ตัวแทนจำหน่าย” มีหลายรูปแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น สต๊อกสินค้าไว้กับตัว หรือ ไม่สต๊อกสินค้า สิทธิที่ตัวแทนจะได้รับจากการเป็นตัวแทนจำหน่าย คือ การซื้อสินค้านั้นถูกลงได้ในราคาส่ง เพื่อที่ให้ตัวแทนได้นำไปจำหน่ายต่อให้กับตัวแทนด้วยกัน หรือนำไปขายปลีก เพื่อเพิ่มพูลผลกำไร ระบบตัวแทนจำหน่ายสามารถใช้ได้กับสินค้าที่หลากหลาย เช่น เครื่องสำอาง สกินแคร์ เสื้อผ้า รองเท้า หรือสามารถใช้ได้กับธุรกิจใหญ่ได้ ระบบตัวแทนจำหน่ายจะประสบความสำเร็จได้จะต้องประกอบไปด้วยหลายเหตุผลหลัก คือ ทั้งตัวแทนและเจ้าของแบรนด์ต้องมีความพึงพอใจต่อกันทั้งสองฝ่าย ข้อดี ของการมีตัวแทนจำหน่าย 1.ลงทุนนน้อย สำหรับตัวแทนที่เป็นแบบ dropship หรือบางคนที่อยากค้าขาย ชอบค้าขาย แต่ไม่อยากผลิตสินค้าเอง หรือต้องมานั่งลงทุนเอง เพราะการลงทุน ต้องใช้เงินจำนวนมาก และยังเป็นความเสี่ยงอีกว่า หากเราทำสินค้าเองจะขายได้หรือไม่ 2.การเป็นตัวแทนจำหน่าย ช่วยให้เราได้เงินเพิ่มขึ้นจากการลงทุนน้อยๆ ความเสี่ยงจากการลงทุนก็จะน้อยด้วย ระบบตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่ตอนนี้ มักจะไม่ต้องสต๊อกสินค้าเองก็ได้ ทำให้ไม่ต้องลงทุนมาก 3.เลือกขายสินค้าที่ติดตลาดมีคุณภาพ เพราะสินค้าพวกนี้จะทำใหเราขายสินค้านั้นได้ และทำให้เราขายสินค้านั้นได้อย่างรวดเร็ว 4.ไม่ต้องยอมรับความเสี่ยง หากผลิตสินค้าขึ้นเอง […]

รวมทำเลแหล่งขาย “เสื้อผ้ามือสอง” ปักหมุดไว้แล้วไปได้เลย

สำหรับใครที่มีเสื้อผ้าที่ใช้แล้วยังอยู่ในสภาพดี ลองมาเปลี่ยนของมือสองเหล่านี้เป็นรายได้กลับสู่กระเป๋าเรา ด้วยการนำออกไปขายตามตลาดนัด หรือเปิดท้ายขายของมือสองตามแหล่งต่างๆ หรือใครที่สนใจจะเดินเลือกซื้อผ้ามือสองสภาพดี เราขอแนะนำสถานที่ทำเลหลักๆ ดังนี้ 1.ตลาดปัฐวิกรณ์ ตลาดปัฐวิกรณ์นั้นตั้งอยู่ที่ซอยนวมินทร์ 70 และ 72 ซึ่งติดกับถนนนวมินทร์ ที่ตลาดปัญวิกรณ์จะมีทั้งเสื้อผ้ามือหนึ่งและมือสอง จุดเด่น คือ เป็นแหล่งเสื้อผ้ามือสอง ราคาเริ่มต้นที่ 5 บาท 10 บาทเท่านั้น ที่สำคัญค่าเช่าพื้นที่ไม่แพง และยังจุดศูนย์กลางมีผู้เดินเดินทางพลุกพล่าน จึงเหมาะเป็นแหล่งที่จะนำเอาของมือสองมาขายอย่างมาก 2. Tul2hand โรงเกลือบางบอน ที่นี่ถือเป็นแหล่งใหญ่ และมีคนนำเอาเสื้อผ้ามืองไปขายเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กระโปรง เสื้อโค้ท คาร์ดิแกน กระโปรง กางเกง เรียกได้ว่าที่ร้านขายเสื้อผ้ามือสองนี้มีครบจบในที่เดียว บางคนอาจจะไปรับเสื้อผ้ามือสองมาขายต่อก็ยังได้ สามารถสร้างรายได้ และยังสามารถเลือกซื้อได้หลายแบบ เช่น ยกกระสอบ ชั่งกิโล หรือจะคัดเป็นชิ้นๆ ก็ยังได้ ใครที่จะนำเสื้อผ้าไปขายจะต้องมีเสื้อผ้ามือสองเยอะพอสมควร 3.ชินจูกุ Outlet ที่ชินจูกุ Outlet นี้ จะขายเสื้อผ้ามือสองเป็นขีดเพียงขีดละ 30-39 บาทเท่านั้น โดยมีเสื้อผ้ามือสองงานดี […]

มาดู! ข้อดี-ข้อเสีย เกี่ยวกับ “ทำเล” ที่ “คนตัวเล็ก” ต้องรู้ เลือกอย่างไร ให้ลงตัว

ในช่วงคลายล็อกดาวน์ ตลาดนัดเริ่มกลับมาเปิดเป็นปกติ หลายคนกำลังคิดจะเปิดท้ายขายของ หรือหาสินค้าขายตามตลาดนัดหรือตามแหล่งชุมชนต่างๆ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี ชี้ช่องรวย มีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกีบข้อดี-ข้อเสียของทำเลค้าขายแต่ละประเภท เพื่อให้ “คนตัวเล็ก” อย่างคุณๆ ใช้ประกอบเพื่อพิจารณาช่องทางค้าขายต่อไป ดังนี้ 1.ตลาดนัด หลายคนเลือกที่จะนำสินค้ามาเปิดท้ายขาย หรือนำสินค้ามาขายตามตลาดนัด เพราะเห็นว่าเป็นแหล่งค้าขายที่มีผู้คนพลุกพล่าน และเป็นจุดศูนย์กลางของชุมชน ทีนี้เรามดูข้อดี-ข้อเสียของตลาดประเภทนี้กันค่ะ -ข้อดี ของการขายของที่ตลาดนัด จะอยู่ที่ค่าเช่าที่ถูกมาก บางตลาดนัดคิดเพียงวันละประมาณ 100 บาท เท่านั้น และหากได้ทดลองค้าขายจริงโดยไม่ต้องเสียเงินก้อนโตไปกับค่าเช่าที่หลายเดือน หรือค่าเซ้งที่ ทำให้มีโอกาสทดสอบตลาดได้ว่าสินค้าเราขายได้ไหม ก่อนไปเช่าที่แพงๆ นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าจำนวนมาก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับตลาดถ้าเป็นตลาดนัดมีชื่อเสียง เช่น ตลาดนัดสวนรถไฟ ตลาดนัดตึกซัน รับรองว่าลูกค้าเยอะจริงๆ ลูกค้าแทบจะเดินเบียดกันเลย -ข้อเสีย บางตลาดนัดที่ดังๆ มีคนอยากไปขายของเยอะ ไม่รับจองพื้นที่ ใครไปก่อนได้ก่อน หรือบางตลาดก็ใช้วิธีจับฉลาก ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่อยากขายไปรอคิวเก้อได้ หรือต้องตั้งแผง เก็บแผงทุกวัน ถ้าไปขายของโดยไม่มีรถส่วนตัว ก็อาจจะลำบากในการขนย้ายแผงและสินค้าได้ ที่สำคัญเรื่องฝนฟ้าอากาศก็เป็นตัวแปรสำคัญ หากวันไหนฝนตก ลูกค้าเดินน้อย ก็ต้องรับสภาพกันไปค่ะ นอกจากนี้ […]

1 … 13 14 15 … 69