เลือกขนส่งให้เหมาะกับธุรกิจ
ต้นทุนสำคัญตัวหนึ่งของการค้าขายคือการขนส่งสินค้า หากมีการออกแบบและเลือกวิธีการขนส่งที่เหมาะสม จะทำให้ได้ต้นทุนถูก และสินค้าถึงมือลูกค้าในสภาพที่ดี โดยพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้ 1.ชนิดของสินค้า อันดับแรกที่คุณต้องรู้คือสินค้าคุณคืออะไร ต้องบรรจุแบบใด ภาษีเท่าใด ใช้สิทธิพิเศษได้หรือไม่ ต้องมีเอกสารสำคัญแนบการขนส่งด้วยหรือไม่ ต้องขออนุญาตรึเปล่า ทั้งหมดนี้ที่ต้องรู้ก็เพราะว่า สินค้าบางชนิดที่คุณเห็นว่าเป็นสินค้าธรรมดาบ้านๆ ใช้กันทั่วไป แต่มีข้อกำหนดข้อจำกัดในการนำเข้าหรือส่งออกอยู่ด้วยหรือต้องขออนุญาตหรือเปล่าในกรณีที่ต้องขนส่งข้ามเขตจังหวัดหรือการขนส่งข้ามไปยังต่างประเทศ 2.ขนาดของสินค้า ขนาดสินค้าที่จะขนส่ง พาหนะในการขนส่งของแต่ละประเภทก็มีข้อจำกัดเรื่องขนาดแตกต่างกันไป ถ้าสินค้าใหญ่มาก ตู้คอนเทนเนอร์ของรถก็ใส่ไม่ได้ รวมถึงจะขนส่งสินค้าโดยเครื่องบินก็ไม่ได้เช่นกัน คุณอาจต้องใช้ภาชนะบรรจุที่ใช้อาจจะต้องเป็น Flat Rack Container ซึ่งยืดหยุ่นมากกว่าและรองรับสินค้าขนาดใหญ่ได้ จึงอาจจะจะเหมาะสมมากกว่า ดังนั้นก่อนที่จะส่งอะไรอย่าลืมบอกขนาดกับบริษัทผู้รับจ้างขนส่งสินค้าด้วย 3.น้ำหนักของสินค้ารวมวัสดุหีบห่อ น้ำหนักสินค้า น้ำหนักรวมของสินค้าหรือ Gross weight คือสิ่งที่บริษัทขนส่งสินค้าต่างๆ จะใช้คำนวณค่าใช้จ่ายเพื่อเรียกเก็บเงินกับคุณ และน้ำหนักต่อชิ้นของตัวสินค้าก็มีผลต่อการเคลื่อนย้ายสินค้า ถ้าใช้คนยกไม่ได้แล้วมีค่าใช้จ่ายสำหรับรถยกเพิ่มขึ้นมาอาจจะขาดทุนก็เป็นได้ ดังนั้นถ้าหากสามารถลดน้ำหนักของวัสดุหีบห่อ หรือน้ำหนักรวมหีบห่อต่อชิ้นลงได้ก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งได้ด้วย 4.ต้นทาง และปลายทางของการขนส่ง ปลายทางการขนส่งของแต่ละจังหวัดหรือแต่ละประเทศก็มีลักษณะทางภูมิศาสตร์ต่างกัน บางจังหวัดมีสถานีที่เป็นชุมทางการขนส่งเช่นรถไฟ รถโดยสารหรือหรือระบบโลจิสติกส์แบบต่างๆก็จะมีตัวเลือกในการขนส่งที่หลากหลาย บางจังหวัดหรือบางประเทศก็ไม่มีพรมแดนติดทะเล การขนส่งทางเรืออาจจะไม่เหมาะนัก สำรวจดูให้ดีก่อนตกลงซื้อขายกันก่อน 5.จำนวนวันที่ใช้ในการขนส่งสินค้า ระวังเรื่องนี้ให้ดีๆนะครับ เพราะระยะทางยิ่งไกล ก็ยิ่งต้องใช้เวลามาก หรือในเส้นทางเดียวกันการขนส่งสินค้าบางประเภทอาจจะวิ่งได้เร็ว แต่บางประเภทก็ขนส่งได้ช้า ยิ่งถ้ากำหนดส่งสินค้าเข้ามาใกล้แล้ว […]