ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

ฝันให้ไกล ไปให้ถึง! อยากเป็น “เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์” ต้องทำอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ดั่งใจหวัง


มีคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่ใฝ่ฝันจะเป็นเจ้าของธุรกิจสักประเภท พร้อมทั้งใฝ่ฝันอีกว่าจะเติบโตและขยายสาขาออกไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์นี้เห็นจะไม่พ้น “ธุรกิจแฟรนไชส์” ซึ่งสามารถตอบโจทย์ธุรกิจในยุคนี้ค่อนข้างมาก

แต่การจะเปิดเป็นธุรกิจแฟรนไชส์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการจะบุกเบิกธุรกิจด้านนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษารายละเอียดอย่างเข้าใจแบบถ่องแท้ และลงมือทำอย่างใส่ใจ เพราะธุรกิจนี้มีรายละเอียดที่จำเป็นจะต้องเรียนรู้ให้เข้าใจ

ดังนั้น ชี้ช่องรวย มี 8 ขั้นตอนที่จะทำให้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ และสามารถขยายสาขาเติบโตต่อไปได้ในอนาคต ดังนี้

1.ศึกษาความเป็นไปได้

ศึกษาขนาดของตลาดก่อนว่าเป็นอย่างไร มีการเติบโตที่เหมาะสมพอที่จะสร้างแรงจูงใจให้กับการสร้างแฟรนไชส์หรือไม่ สภาวะของคู่แข่งเป็นอย่างไร ธุรกิจที่เหมาะจะก่อตั้งแฟรนไชส์ได้นั้น ต้องมีคู่แข่งน้อย มีจุดเด่นและมีความเข้มแข็งของแบรนด์ มีอัตราการเติบโตของธุรกิจอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าเลขสองหลัก

2.ตั้งค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม

ต้องประเมินค่าใช้จ่ายงบลงทุนของแฟรนไชส์ซีให้รอบด้าน เพื่อที่จะตั้งค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม เพราะแฟรนไชส์ซีเองก็ต้องแบกรับต้นทุนหลายด้านไม่ต่างจากที่คุณตั้งกิจการ ถ้าหากต้นทุนมากจนไม่สามารถบริหารให้คุ้มทุนได้ โอกาสที่จะขายแฟรนไชส์ก็ยากขึ้น

3.วางแผนสร้างแบรนด์และกระบวนการบริหารงาน

ควรมีการจัดการร้านให้เป็นระบบ มีมาตรฐานเป็นที่น่าเชื่อถือ ถ้าหากเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร การผ่านมาตรฐานต่าง ๆ เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแฟรนไชส์ซีก็ต้องทำ ในการสร้างระบบและขั้นตอนการทำงานนั้นต้องละเอียด เข้าใจง่ายและทำเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งในปัจจุบันไม่ได้ทำเฉพาะอยู่บนเอกสารเท่านั้น เราควรให้รายละเอียดงานเหล่านี้ปรากฏอยู่บนโลกดิจิทัลด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : รู้ไหม ทำไม! “แฟรนไชส์มือใหม่” ต้องทำ “Operation Manual” เพื่อให้กิจการไปต่อได้ไม่สะดุด

4.วางแผนเครือข่ายและกลยุทธ์

การที่จะสร้างแฟรนไชส์ให้ประสบความสำเร็จทั้งตนเองและผู้ที่จะมาซื้อแฟรนไชส์นั้น ต้องมีการวางแผนด้านเครือข่ายและกลยุทธ์ โดยต้องจัดการด้านเครือข่ายว่าจะให้มีจำนวนเท่าไหร่ แต่ละเครือข่ายจะมีรอบรัศมีอย่างไร เพื่อให้เขาไม่แย่งทำเลกันเอง ไม่เพียงแต่พิจารณาระหว่างเครือข่ายของคู่ค้าเราเองเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาทำเลเผื่อไปถึงการแข่งขันกับแบรนด์อื่นด้วย คุณต้องมีการวางแผนด้านกลยุทธ์ในการขยายเครือข่าย ตลอดจนกลยุทธ์ในการสนับสนุนให้คนที่มาซื้อแฟรนไชส์ได้เติบโตในธุรกิจของคุณ

5.สร้างร้านต้นแบบ

ขายแฟรนไชส์เป็นการขายระบบพร้อมกับความน่าเชื่อถือ ดังนั้น คุณควรมีการจัดตั้งร้านตัวอย่างให้กับผู้ที่จะซื้อแฟรนไชส์ได้เข้ามาศึกษา เรียนรู้และทำความเข้าใจ ในร้านตัวอย่างนี้คุณต้องทำให้เป็นไปตามแบบแผนความฝันที่คุณต้องการ จัดแต่งร้านให้มีเอกลักษณ์สร้างความแข็งแกร่งในแบรนด์ ระลึกอยู่เสมอว่าร้านนี้จะเป็นต้นแบบของการขายแฟรนไชส์

6.สร้างเอกสารสัญญาแฟรนไชส์

ความผูกพันระหว่างแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีที่จะมีต่อกันคือสัญญาที่ทำร่วมกัน ผู้สร้างแฟรนไชส์ควรมีการออกแบบสัญญาและสัญญาที่ดีควรยุติธรรมและก่อประโยชน์ในการสร้างอนาคตทางธุรกิจร่วมกันของทั้งสองฝั่ง ซึ่งผู้ที่ไม่มีประสบการณ์สามารถหาบริษัทที่ปรึกษามาให้คำแนะนำในส่วนนี้ได้

7.สร้างกระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซี

ธุรกิจที่ขยายด้วยระบบแฟรนไชส์ได้ประสบความสำเร็จนั้น เราจำเป็นต้องมีระบบการคัดเลือกแฟรนไชส์ที่เข้มแข็งด้วย ยิ่งถ้าหากแบรนด์เรามีความเข็มแข็งมากเทาไหร่ ก็ยิ่งมีคนอยากเข้าซื้อแฟรนไชส์เรามากขึ้นเท่านั้น อย่าลืมว่าหากเราเลือกไม่ดี เขาจะนำแบรนด์ของเราไปทำลายให้เสียหายหรือลดความน่าเชื่อถือได้ นอกจากนี้การเป็นคู่ค้ากันระหว่างแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีที่ไม่ประสบความสำเร็จมาก ๆ ย่อมนำมาซึ่งภาพลักษณ์ที่ไม่น่าเชื่อถือต่อไป

8.ระบบการฝึกอบรม
แม้ว่าคุณจะมีแบรนด์ที่แข็งแรง มีระบบการบริหารที่มีประสิทธิภาพและง่ายต่อความเข้าใจ แต่คุณไม่มีระบบการฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอด DNA ธุรกิจของคุณไปสู่ผู้ที่จะซื้อแฟรนไชส์ การขายหรือสร้างแฟรนไชส์ของคุณก็มีโอกาสที่จะล้มเหลว ต้องไม่ลืมว่าการซื้อแฟรนไชส์นั้นเป็นมากกว่าการซื้อขายธรรมดา แต่เป็นคู่ค้าคู่ธุรกิจที่จะสร้างอนาคตร่วมกันเลยทีเดียว

บทความที่เกี่ยวข้องคลิก : 6 เทคนิค บวก 1 “Operation Manual” ทำ “แฟรนไชส์” ให้รวยไว และยั่งยืน