“คุกกี้”ลงทุนน้อย กำไรงาม

ตลาดขนมเค้กแม้จะเติบโตมากที่สุดในบรรดาขนมอบ แต่ก็มีคู่แข่งมากทั้งรายใหญ่ รายเล็ก ขณะที่คุกกี้กลับเติบโตได้เรื่อยๆ ที่สำคัญคือ คู่แข่งรายใหญ่มีน้อยมาก จึงเป็นโอกาสสำหรับหน้าใหม่ หรือมือใหม่เพิ่งหัดทำขนมจะแทรกเข้ามาขอแจ้งเกิดบ้าง ที่น่าสนใจอีกประการคือเป็นขนมอบที่ลงทุนเพียงครั้งเดียว แถมอุปกรณ์ก็ไม่มากเท่าการทำขนมเค้ก แต่ทำกำไรดี แถมขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญที่จะทำให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จคือ ความคิดสร้างสรรค์ และการปรับปรุงสูตรให้รสชาติอร่อย เนื้อคุกกี้กรอบนุ่ม

คุกกี้ที่อร่อยจนมีลูกค้าติดใจก็สามารถสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองได้ อย่าง คุกกี้เนยยี่ห้อ Anna เป็นของฝากที่ขึ้นชื่อของประเทศเดนมาร์ก ที่เกิดจากฝีมือของสองสามีภรรยา Anna และ Marinus Kjeldsen เมื่อ 80 กว่าปีมาแล้ว หรือในช่วงเทศกาลปีใหม่พวกฝรั่งก็นิยมซื้อคุกกี้เป็นของฝากเมื่อไปเยี่ยมบ้านเพื่อนฝูง และคุกกี้ยอดฮิตของเมืองนอกก็ไม่พ้นยี่ห้อ Royal Dansk ถึงขนาดไปจดสิทธิบัตรการทำคุกกี้ในสูตรของตัวเองเอาไว้ ปัจจุบันคุกกี้ Royal Dansk มียอดขายดีที่สุดในอเมริกา และส่งออกไปขายใน 130 ประเทศ

สำหรับคุกกี้สไตล์โฮมเมดที่มีชื่อเสียงของเมืองนอก คงไม่พ้น Mrs.Fields ก็เกิดจากฝีมือของแม่บ้านอเมริกันชื่อ Debbi Fields ที่ทำซอฟต์คุกกี้ได้อร่อยจนสามารถเปิดร้านเมื่อปี 2520 ปัจจุบัน Mrs.Fields เป็นคุกกี้ระดับพรีเมียมที่มีสาขามากถึง 369 สาขา ในประเทศสหรัฐอเมริกา และในอีก 16 ประเทศทั่วโลก

เคล็ดลับของการทำคุกกี้ให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องเริ่มจากการหาสูตรคุกกี้เสียก่อน ถ้าจะทำคุกกี้สูตรทั่วไป อาทิ รสบัตเตอร์ ช็อกโกแลตชิพ ข้าวโอ๊ต กาแฟ ฯลฯ ซึ่งในท้องตลาดมีคนทำสูตรเหล่านี้ค่อนข้างมากดังนั้นถ้าอยากจะแจ้งเกิดให้ได้ ก็จะต้องแสวงหาและพัฒนาสูตรเหล่านี้ให้อร่อย แต่ถ้าคิดว่าลงไปแข่งขันกับตลาดคุกกี้รสยอดนิยมแล้วอาจจะเหนื่อยหน่อย ก็ควรจะมีความคิดสร้างสรรค์เติมลงไปในคุกกี้เพื่อสร้างความแปลกใหม่ทั้งรสชาติและรูปแบบ เพื่อลงไปสร้างลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ชอบลองของแปลกใหม่ ซึ่งในกรณีนี้มีผู้ประกอบการหลายคนทำสำเร็จมาแล้ว เช่น คุกกี้หนอน คุกกี้คอร์นเฟลกส์ หรือคุกกี้ที่ฉีกตัวเองไปจับกลุ่มคนรักสุขภาพ เป็นต้น

นอกจากตัวคุกกี้แล้ว Packaging ก็มีส่วนสำคัญอีกเช่นกัน มีหลายครั้งที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อเนื่องจากกล่องสวย หรือพูดง่ายๆ คือ ซื้อเพราะอยากได้กล่องก็เป็นได้ อ่านมาถึงบรรทัดนี้ คุณอาจจะเริ่มสนใจและกำลังหาอาชีพหลัก หรืออาชีพเสริมที่ลงทุนน้อยแต่ให้กำไรดี ขอแนะนำให้ลองมาทำคุกกี้ขายกันดีกว่า ถ้าคุณยังไม่เคยทำมาก่อน อย่าเสียเวลาลองผิดลองถูกด้วยการไปเปิดหาสูตรและวิธีการทำในอินเทอร์เน็ตเลย แม้คุกกี้จะทำไม่ยากแต่ก็ไม่ใช่ง่ายเหมือนการเจียวไข่

ลงทุนมาเรียนกับสถาบันสอนอาชีพชี้ช่องรวยดีกว่า ทางเรามีหลักสูตรคุกกี้เลิฟเวอร์ และหลักสูตรคุกกี้ของขวัญปีใหม่ สอนโดย อ.บุญประเสริฐ ว่องประพิณกุล ผู้คร่ำหวอดด้านเบเกอรี่มานานกว่า 10 ปี จะสอนตั้งแต่พื้นฐานของการทำเบเกอรี่ตามมาตรฐานสากล แนะนำให้รู้จักกับอุปกรณ์เครื่องใช้ แนะนำวัตถุดิบที่ใช้พร้อมทั้งแหล่งซื้อและเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของวัตถุดิบแต่ละยี่ห้อจากประสบการณ์ที่ทำมา ขั้นตอนการทำคุกกี้รวมถึงถ่ายทอดเคล็ดลับต่างๆ จากประสบการณ์ที่สัมผัสกับการทำเบเกอรี่มานานปี

ส่วนผสม

1. เนยสด 230 กรัม

2. แป้งอเนกประสงค์ 400 กรัม

3. น้ำตาลทราย 100 กรัม

4. ไข่ไก่ 1 ฟอง

5. ไข่แดง 1 ฟอง

6. น้ำผึ้ง 70 กรัม

7. ขิงผง 2 ช้อนชา

8. ขิงหั่น 150 กรัม

9. ผงฟู 1 ช้อนชา

10.วานิลลาน้ำ 1 ช้อนชา

11.เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ

1. เตรียมเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศา

2. ร่อนแป้ง ผงฟู และ ขิงผง พักไว้

3. ตีเนยสดชนิดจืด น้ำตาล เกลือ จนขึ้นฟู เติมน้ำผึ้งตีต่อจนเข้ากัน

4. เติมไข่ไก่ และ ไข่แดง ลงไป ตามด้วยวานิลลาน้ำตีจนส่วนผสมเข้ากัน

5. ใส่ส่วนผสมแป้ง และขิงหั่นลงไปผสมจนเข้ากัน

6. ตัดเป็นรูปต่างๆ ตามชอบ

7. อบประมาณ 15 นาที จนสุกเหลือง