เป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะ กลุ่มธุรกิจที่พักโรงแรม รีสอร์ทต่างก็ได้รับผลกระทบจะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19กันทั่วประเทศ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงจะกลายเป็นศูนย์ ธุรกิจขาดรายได้ส่งผลให้พนักงานลูกจ้างถูกเลิกจ้างกลายเป็นคนตกงาน เรียกว่าได้รับผลกระทบไปกันหมด
ชี้ช่องรวย จึงอยากจะขอบอกเล่าเรื่องราวของ “ดวงรชต พยัฆวิเชียร” หรือ “คุณแตง” เจ้าของธุรกิจ วังรี รีสอร์ท จ. นครนายก ซึ่งได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน แต่ด้วยภาวะเช่นนี้จำเป็นที่จะต้องหาอะไรทำเพื่อให้ชีวิตและผู้คนรอบข้างอยู่รอด เมื่อธุรกิจไม่ได้เดินหน้าต่อ จึงหันมาเน้นเรื่องการปลูกผักปลอดสารพิษและสินค้าเกษตรแปรรูปเพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหารายได้มาหล่อเลี้ยงจุนเจือให้ทุกคนอยู่รอดในสถานการณ์เช่นนี้
“คุณแตง” เล่าว่าเดิมวังรี รีสอร์ทจะให้การต้อนรับลูกค้าที่เดินทางมาสัมมนาเรียกว่าในปีหนึ่งๆ จะมีลูกค้าแวะเวียนมาตลอด กอปรกับที่ผ่านมาเธอได้ทำเกษตรอินทรีย์ปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อทำอาหารเลี้ยงแขกและจำหน่ายให้ลูกค้าที่มาสัมมนาเป็นการสร้างรายได้ให้กับธุรกิจและคนงานมาร่วม 20 ปี
จนเมื่อธุรกิจต้องหยุดชะงักจากโควิด-19 ทำให้ “คุณแตง” จำต้องบอกเลิกจ้างพนักงานที่มีกว่า 140 ชีวิต ซึ่งตอนนี้มีเพียง 10 ชีวิตที่อยู่ช่วยงานเธอ และยึดอาชีพเกษตรกรชั่วคราวปลูกผักปลอดสารพิษและสินค้าเกษตรแปรรูปส่งขายในตลาดกรุงเทพฯ และจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อให้มีเม็ดเงินมาใช้จ่ายไปก่อน
“เราปลูกผักอินทรีย์มานานเป็น 10-20 ปีแล้ว โดยปลูกควบคู่ไปกับการทำธุรกิจรีสอร์ท และมีการขายผักปลอดสารพิษให้กับลูกค้าที่มาสัมมนาและยังนำเอาผักผลไม้เหล่านั้นมาทำอาหารเลี้ยงลูกค้าด้วย แต่เมื่อเจอพิษโควิด-19 จำนวนลูกค้าลดลงจนกลายเป็นศูนย์ นอกจากนี้นโยบายของจังหวัดก็มีมาตรการสั่งปิดรีสอร์ทที่มีจำนวนห้องพักตั้งแต่ 25 ห้องขึ้นไป หรือต้องหยุดกิจการลง ดังนั้น เราจึงต้องหันหลับมาบริหารจัดการระบบใหม่ทั้งหมดจากเดิมที่ทำเกษตรอินทรีย์และผลผลิตส่วนมากจะขายให้กับลูกค้าที่มาสัมมนา จึงต้องปรับมาเป็นหาตลาดใหม่อย่างที่กรุงเทพฯ ช่องทางออนไลน์เพื่อให้มีเงินสดมาใช้จ่าย”
ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจทั้ง “คุณแตง” และเหล่าพนักงานอย่างมาก สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือการให้กำลังใจตัวเองและสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงานด้วย โดยทั้งหมดเธอมีมุมมองด้านบวกเสมอ นั่นคือ สินค้าที่เกี่ยวข้องและมีความจำเป็นที่จะต้องอุปโภคบริโภคยังไงตลาดก็ยังไปได้ แต่ก็มีคนเข้ามาตลาดนี้ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน คู่แข่งก็จะเยอะขึ้นเช่นกัน
“จุดเด่นของเรานอกเหนือจากจะขายสินค้าเกษตรสดๆ แล้วเรายังทำแปรรูปสินค้าด้วย ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ซึ่งทางรีสอร์ทเราก็ทำกันมานานกว่า 10 ปีแล้วเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น เราปลูกตะลิงปิง มะม่วง ก็มาทำแปรรูปเช่นมะม่วงแช่อิ่ม ตะลิงปิงอบแห้ง หรือผักดอง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บางครั้งวัตถุดิบการผลิตก็มีจำนวนไม่เพียงพอต่อการผลิต เราก็นำเอาผลผลิตจากชุมชนใกล้เคียงแถววังรีโดยรับซื้อจากเกษตรกรตรงนั้นมาด้วยก็เป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนเหล่านั้นด้วย”
ถึงแม้ต่อไปเหตุการณ์จะดีขึ้น แต่บริบทต่างๆ ของแต่ละธุรกิจอย่างไรก็ต้องเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วในทุกวิกฤตถ้ามองหาโอกาสได้ก็จะได้เปรียบ เพราะทุกคนจะต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงตัวเอง
