“พาณิชย์” เอาจริงแจ้งจับ พ่อค้า แม่ค้า ค้ากำไรเกินควร “ยาฟ้าทะลาย – ชุดตรวจ โควิด – 19” แจ้งความดำเนินคดีแล้ว 11 ราย ลาซาดา และ ช้อปปี้ โดนด้วยฐานปล่อยให้ขาย ทั้งนี้โทษความผิด จำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่จำหน่ายยาฟ้าทะลายโจร และชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตนเอง (Antigen Test Kid) หรือ ATK ที่นำสินค้าไปขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ คือ ลาซาด้า และช้อปปี้แล้วรวม 11 ราย ในข้อหาค้ากำไรเกินควร ซึ่งเป็นความผิดมาตรา 29 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542
โดยในส่วนของยาฟ้าทะลายโจร ได้ดำเนินคดีรวม 10 ราย ได้แก่
1.ยี่ห้ออภัยภูเบศร 8 ราย ซึ่งไม่ได้แปลว่าอภัยภูเบศรผิด แต่คนที่นำไปขายผิด โดยนำยี่ห้ออภัยภูเบศร ขนาดขวดบรรจุ 60 แคปซูล ซึ่งราคาแนะนำที่ผู้ผลิตแจ้งกับกรมการค้าภายในอยู่ที่ 80 บาท แต่ปรากฏว่านำไปขายในลาซาด้าขวดละ 349 – 450 บาท เท่ากับแพงกว่าราคาที่แจ้งไว้ คิดเป็น 336-463% เข้าข่ายค้ากำไรเกินควร
2.ตราใบห่อ 1 ราย สินค้ามีขนาดบรรจุขวดละ 70 เม็ด ราคาแนะนำขาย 25 บาท แต่เอาไปขาย 119 บาท สูงกว่าราคาที่แจ้งไว้ 376%
3.ยี่ห้อไฟโตแคร์ ขนาดบรรจุ 100 เม็ด ราคาแนะนำที่กำหนดไว้ 180 บาท เอาไปขาย 490 บาท เท่ากับสูงกว่าราคาที่ควรจะเป็น 172%
“เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน ได้ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดทั้ง 10 รายแล้ว เป็นการขายผ่าน ลาซาด้า 8 ราย และช้อปปี้ 2 ราย ในข้อหาค้ากำไรเกินควร มีโทษสูงสุด จำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังได้ดำเนินคดีกับผู้มีอำนาจตามกฎหมายของแพลตฟอร์ม ทั้งลาซาดา และช้อปปี้ด้วย”นายจุรินทร์กล่าว
สำหรับ ATK ที่กระทรวงสาธารณสุขได้อนุญาตให้จำหน่ายได้ในร้านขายยาที่มีเภสัชกรควบคุม ปรากฏว่ามีการนำไปจำหน่ายในร้านขายยาแห่งหนึ่ง และพบว่าเข้าข่ายค้ากำไรเกินควร โดยราคาแนะนำอยู่ที่ 350 บาท ผู้ผลิตแจ้งกรมการค้าภายในว่าจะจำหน่ายไม่เกินนี้ แต่ปรากฏว่าขายในราคา 450 บาท สูงกว่าที่ควรจะเป็น 29% เข้าข่ายค้ากำไรเกินควร ผิดมาตรา 29 เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นร้านขายยา 1 ราย อยู่แถวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่ามา
นอกจากนี้ ที่ประชุม กกร. ได้มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วยปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นรองประธาน และมีกรรมการประกอบด้วย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เลขาธิการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) และผู้บังคับการตำรวจ ปคบ เป็นกรรมการ รวม 11 ท่าน มีอำนาจหน้าที่ติดตาม วิเคราะห์ สถานการณ์ของ ATK และกำหนดแนวทางมาตรการกำกับดูแลการจำหน่าย ATK ให้เป็นธรรมอีกชั้นหนึ่ง