ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

จรูญ แสนสุข เส้นทางเด็กวัด สู่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น กรมชลประทาน


บุคคลชลประทานฉบับนี้ จะพามาทำความรู้จักกับเจ้าของรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่นกรมชลประทาน ประจำปี 2563 นายจรูญ แสนสุข วิศวกรไฟฟ้าสื่อสารชำนาญการ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร บุคคลที่ครั้งหนึ่งของชีวิตต้องสัมผัสกับการเป็นลูกศิษย์วัดถึง 4 ปี เพราะสถานะทางการเงินของครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย แต่ด้วยความมุมานะ พยายาม จึงทำให้วันนี้เขากลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบบการสื่อสารของกรมชลประทาน

พ่อผู้เป็นเสาหลักของครอบครัว

จรูญ เล่าว่า บ้านเกิดเขาอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีเกิดในครอบครัวที่มีคุณพ่อประกอบอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ที่เขื่อนแม่กลอง สำนักงานชลประทานที่ 13 ส่วนคุณแม่เป็นชาวไร่ชาวนามีพี่น้องรวมกัน 3 คน โดยเขาเป็นน้องชายคนเล็ก แม้ความเป็นอยู่จะไม่ค่อยดีแต่ด้วยความรักทุ่มเทและเอาใจใส่ที่คุณพ่อและคุณแม่มีให้ลูกๆ จึงทำให้ลูกทั้ง 3 คนนั้น

ได้รับความรัก ความอบอุ่น และการศึกษาอย่างเต็มที่ซึ่งสำหรับจรูญแล้ว คุณพ่อตั้งความหวังอยากจะให้จรูญรับราชการในอนาคต

“ผมศึกษาจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนท่ามะกาวิทยาคม เมื่อ พ.ศ. 2535 แต่ด้วยครอบครัวไม่ได้ร่ำรวย มีคุณพ่อเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวของบ้าน ท่านจึงมีความคาดหวังอยากจะให้ลูกๆ ได้มีการศึกษาที่ดี ส่วนตัวผมนั้นท่านอยากให้เข้ารับราชการเพราะมองว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง”

เด็กวัด ประดับปริญญา

ภายหลังจากศึกษาจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย คุณพ่อได้ส่งเขามาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยสยาม ในคณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า แต่เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านที่พักและค่าอาหาร คุณพ่อนำจรูญไปฝากไว้กับหลวงพ่อที่รู้จักที่วัดอมรินทราราม เขตบางกอกน้อย ซึ่งเป็นวัดเดียวกันกับที่อดีตนายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย เคยอาศัยอยู่ ซึ่งจรูญเล่าเรื่องนี้ด้วยน้ำเสียงที่ภูมิใจและขบขันว่า

“ผมใช้เวลาอาศัยอยู่วัดอมรินทราราม 4 ปีจนจบปริญญาตรีบ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ ส่วนทางบ้านจะดูแลเรื่องค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในด้านการศึกษา ซึ่งขณะที่อาศัยอยู่ในวัด ช่วงเช้าก่อนไปเรียนผมจะต้องจัดเวรกับเพื่อนที่เป็นลูกศิษย์วัดด้วยกัน เพื่อที่จะเดินตามหลวงพ่อไปบิณฑบาตในย่านพรานนกใช้เวลาไป-กลับประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเรียนต่อ เป็นช่วงชีวิตที่เหนื่อยมาก ต้องใช้ความมานะบากบั่นพอสมควร และก็มีบ้างในบางครั้งที่ผมนั่งหลับเมื่อไปเรียน”

ภายหลังสำเร็จการศึกษาแล้ว จรูญเล่าว่าช่วงแรกเขายังไม่ได้ทำตามความฝันของคุณพ่อที่อยากจะให้รับราชการแต่กลับมุ่งหน้าหางานทำในบริษัทเอกชน เป็นโรงงานผลิตและแปรรูปกระจก ในจังหวัดราชบุรี ทำงานอยู่ได้ 5 ปี ถึงได้มาสอบเป็นข้าราชการที่กรมชลประทาน เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2545 ในตำแหน่งวิศวกรไฟฟ้าสื่อสาร ประจำกองสื่อสาร(ปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกรมชลประทาน) มีหน้าที่ดูแลระบบวิทยุ ระบบโทรศัพท์ ระบบโทรมาตร และที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารของกรมชลประทาน

“วันที่ผมได้เป็นข้าราชการในกรมชลประทาน เท่ากับว่าผมได้ทำตามความฝันของคุณพ่อแล้ว ผมทำงานในตำแหน่งวิศวกรไฟฟ้าสื่อสารได้ 10 ปี ก็ได้มีโอกาสมาเป็นหัวหน้าฝ่ายสื่อสารโทรคมนาคม ส่วนสื่อสารโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ต้องขอขอบคุณผู้บริหารในกรมชลประทานที่มองเห็นความรู้ความสามารถของผม”

ผู้อยู่เบื้องหลังระบบสื่อสารในอาคาร SWOC และ FAST 01

สำหรับผลงานที่ภาคภูมิใจของจรูญนั้น เขาอธิบายว่ามีอยู่หลายชิ้นงาน แต่ขอยกตัวอย่าง 2 ผลงาน โดยผลงานแรกได้แก่ การได้ร่วมกับทีมงานออกแบบระบบสื่อสารและระบบอัตโนมัติภายในอาคารศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (Smart Wate rOperation Center : SWOC) ระบบดังกล่าวเป็นระบบสื่อสารที่มีความหลากหลายรวมทั้งระบบการตรวจวัดน้ำระยะไกลซึ่งข้อมูลจะถูกส่งไปยังศูนย์ SWOC เพื่อช่วยให้กรมชลประทานนำไปใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจด้านการบริหารจัดการน้ำ

ผลงานต่อมา คือ การเป็นหัวหน้าชุดในการควบคุมรถโมบาย FAST 01 เป็นรถตู้ของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมชลประทาน ออกให้บริการไปตามต่างจังหวัด เพื่อให้ผู้บริหารใช้ในการประชุมทางไกลเคลื่อนที่ระบบ VDO Conference และเชื่อมสัญญาณระบบสื่อสารจากนอกพื้นที่เข้ามายังกรมชลประทานส่วนกลาง สามารถทำให้ระบบสื่อสารทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“ผมภูมิใจมาก ที่ได้รับโอกาสในการทำงานจากทางผู้บริหารท่านมองเห็นว่าเราทำงานเก่ง มีความตั้งใจ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะผมมีต้นแบบในการทำงานที่ดี บุคคลคนนั้น คือ ดร. วัชระ เสือดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) ท่านเป็นคนทำงานที่มีความตั้งใจ ทำเพื่อกรมชลประทาน และทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ผมชอบในรูปแบบการบริหารที่ปล่อยให้น้องๆ ทำงานได้อย่างอิสระ มีการแสดงความคิดเห็นได้แต่ต้องอยู่ในกรอบเพื่อให้ตรงกับเป้าหมายของผู้บริหาร”

ท้ายบทสนทนา จรูญให้ข้อคิดที่น่าสนใจแก่น้องๆ หรือคนรุ่นใหม่ที่ว่า “อยากประกอบอาชีพข้าราชการ ต้องสำนึกไว้เสมอว่าอาชีพข้าราชการคือการใช้ภาษีของประชาชนดังนั้นจะต้องทำงานตอบแทนคุณประชาชนและแผ่นดินที่จ้างเรามาให้ได้ดีที่สุด และงานที่ดีจะมาด้วยความตั้งใจและความใส่ใจเสมอ