การขายของหน้าโรงเรียนเป็นหนึ่งในช่องทางการหารายได้ที่ดีมาก ๆ ทางหนึ่งของคนทำมาหากิน โรงเรียนถือเป็นสถานที่รวมตัวของลูกค้ามากถึง 3,000 – 4,000 คน กำลังซื้อมากขนาดนี้มีหรือจะขายไม่ได้ แต่แน่นอนคู่แข่งก็ต้องมากด้วยเช่นกัน อาจขายได้ก็จริงแต่ยอดขายน้อยเกินไปก็ไม่ดี ชี้ช่องรวยเลยจะมาบอกทริควิธีดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณมีอาชีพ ขายของหน้าโรงเรียนได้ดียิ่งขึ้น
1.เลือกก่อนว่าจะขายอะไร
สิ่งของที่จะขายนั้นมีตัวเลือกมากมายเต็มไปหมด หากเลือกขายอาหารก็จะเป็นประเภทของทอด ไก่ทอด หมูทอด เฟรนช์ฟราย หอมทอด อาหารเหล่านี้เป็นอาหารค่อนข้างมัน ให้พลังงานสูง จเพราะน้องนักเรียนเขาเรียนมาเหนื่อย ไม่ก็ไปเล่นกีฬากันมาก็ย่อมอยากได้เมนูที่อิ่มหรือทานเล่นรองท้องก่อน
หากจะขายเป็นพวกสินค้าก็ให้เกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนเข้าไว้ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด สีไม้ ตลอดไปจนฟิวเจอร์บอร์ด กระดาษขนาดต่าง ๆ เวลาที่นักเรียนลืมเตรียมของที่ครูสั่ง อุปกรณ์หาย เพื่อนยืมไม่คืนจะได้มาซื้อของร้านเรา ยิ่งครบวงจรเท่าไร ยิ่งได้เท่านั้น
2.ตั้งราคาที่เข้าถึงง่าย
น้อง ๆ นักเรียนนั้นยังไม่ได้มีเงินในการใช้จ่ายมากขนาดนั้น ไม่ว่าคุณจะอยากขายอาหารหรือสินค้าอะไรก็ตามแต่ ต้องทำให้ราคามันเข้าถึงให้ได้ง่ายที่สุด แต่ยังสามารถคงเทคนิคการตั้งราคาไว้ได้อยู่ สามารถขายเป็นแพ็กได้ สร้างความคุ้มค่าให้ผู้ซื้อ ตั้งราคาที่คำนวณได้ง่าย ๆ เช่น ลงท้ายด้วย 0 หรือ 5 : ดินสอกด 10 บาท, ไม้บรรทัด 5 บาท หรือ กระดาษ 1 แพ็ก 30 บาท เป็นต้น
3.ช่องทางการจ่ายหลากหลาย
เด็กรุ่นใหม่เขาแทบไม่พกเงินสดกันเท่าไรแล้ว บรรดาคนขายต่าง ๆ มีหน้าที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับตรงนี้ให้ได้ ห้ามลืมการ “สแกนจ่าย” โดยเด็ดขาด หาภาพคิวอาร์โค้ดตัวเองมาแปะหน้าร้านสัก 1- 2 จุด แอปพลิเคชันการจ่ายเงิน – รับเงินก็ควรติดไว้ในเครื่องเสมอเพื่อกันความผิดพลาด ทว่าก็อย่าลืมสำรองเงินสด เหรียญไว้ทอนด้วย ในกรณีที่ผู้ปกครองก็จะมาซื้อด้วยเช่นกัน
4.รู้เวลาในการขายของ
นักเรียนยังมีเวลาเข้าเรียน – เลิกเรียน คนขายก็ด้วยเช่นกัน ถ้าคุณตั้งเป้าอย่างเดียวเลยว่าจะขายแค่หน้าโรงเรียน มุ่งเป้าที่กลุ่มเป้าหมายนักเรียนโดยเฉพาะ คุณก็อาจจะขายดีแค่ 2 เวลาคือเช้าก่อนเข้าเรียน และเย็นหลังเลิกเรียน เพราะในช่วงกลางวันนักเรียนไม่สามารถออกมาได้อยู่แล้ว ทางออกคือคุณต้องหาแหล่งขายหรือกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเพื่อให้มีรายได้เข้ามาตลอดวัน อาจหาสินค้าขายเพิ่ม ขายอาหารทั่วไปให้คนที่ผ่านไปผ่านมา ครูอาจารย์ก็ได้เช่นกัน
5.เข้าถึงใจวัยรุ่น
นอกจากการขายสินค้าแล้ว สิ่งที่ควรทำในการขายของให้กับเด็กนักเรียนคือ ความถึงง่ายขิงเรา ไม่ได้ต้องมองเป็นคนขายกบลูกค้า แต่เหมือนลูกหลานมาซื้อของ ร่าเริง คุยกับเด็ก รับฟังเรื่องที่เขาอยากเล่าอยากคุย ความสนิทมันจะพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ เวลาน้อง ๆ เขาขาดของอะไรก็จะมาอุดหนุนร้านที่เขาสนิทที่สุดเสมอ เพราะคุณทำให้เขาสบายใจในการซื้อ เหมือนเพื่อน เหมือนญาติที่คุยภาษาเดียวกันได้
ติดตามบทความอื่น ๆ ได้ที่ : คลิก
ติดตามบทความ How to ที่น่าสนใจได้ที่ : คลิก