การชายแบบ B2B หรือ Business to Business เป็นการขายหรือทำการค้าระหว่างธุรกิจด้วยกันเอง มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจซึ่งกันและกัน เช่น ด้านวัตถุดิบ กระบวนการผลิตสินค้า การผลิตสื่อ รวมไปถึงการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจและองค์กรในมีความมั่นคงก้าวหน้ามากขึ้น จะมีเทคนิคอะไรบ้างไปดูกัน!
1.เข้าใจความต้องการของลูกค้า
ก่อนจะไปขายงานใด ๆ ให้ลูกค้า เราก็ต้องทำการบ้านมาก่อนว่าบริษัทที่เป็นลูกค้าเราต้องการอะไร หาข้อมูลให้ครบถ้วน ลึกซึ้งสักหน่อย ยิ่งรู้เขามากเท่าไร ยิ่งทำให้เขาพึงพอใจมากเท่านั้น การเสนอขายและปิดการขายก็มีโอกาสทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ให้สมกับการขายแบบ B2B มากยิ่งขึ้น
2.CRM ช่วยคุณได้
การเก็บข้อมูลลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อป้องกันการเก็บไฟล์ไม่เป็นที่ รายชื่อลูกค้ากระจัดกระจาย ทำให้โอกาสที่ควรได้การเป็นหายไปเลยก็มี จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องมือ CRM เพื่อแก้ปัญหาตรงจุดนี้ จะได้รู้ว่าลูกค้าคนไหนตกหล่น ลูกค้าคนไหนที่ยังไม่ได้ติดต่อ หรือลูกค้าคนใดติดต่อไปแล้วจะได้ไม่โทรไปซ้ำอีก อีกทั้ง CRM ยังช่วยวางแผนกิจกรรมไปพบลูกค้าได้อีกด้วย ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
3.คอยติดตามอย่างต่อเนื่อง
เมื่อมีตัวช่วยในการทำงานมากขึ้นแล้ว แต่ก็อย่าลืมว่าต้องโทรไปเช็ก ไปติดตามอย่างสม่ำเสมอด้วย เมื่อมีรายชื่อในมือก็ควรโทรติดต่อทันที หากปล่อยทิ้งไว้นานดีลอาจเกิดล่มได้โดยใช่เหตุ ซ้ำร้ายกว่านั้นเขาอาจไปพึ่งพาคู่แข่งเราแทนอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้ลูกค้าอยู่กับแบรนด์เราเสมอ เพื่อสร้างโอกาสในการขายต่อไป เราควรจะติดต่อทางโทรศัพท์ ทางอีเมล หรือทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้ามองแต่เรามากขึ้นและรับรู้ถึงความใส่ใจในตัวลูกค้า
4.ทำตัวให้เป็นที่พึ่งพา น่าปรึกษา
การมุ่งเน้นจะขายอย่างเดียวนั้นส่งผลเสียต่อการขายไม่น้อย เพราะคนเราไม่ชอบอะไรที่เน้นขายอย่างเดียว มันดูน่าเบื่อ น่ารำคาญ ให้ลองปรับจาก “นักขาย” เป็น “ทีี่ปรึกษา” แทน เพราะลูกค้าต้องการหาวิธีการแก้ปัญหา ต้องการคนที่จะบอกเขาได้ว่าปัญหาที่เขาเจอนั้นจะต้องแก้ไขอย่างไร แก้วิ๊ใด และแก้โดยอะไร เมื่อคุณสามารถเป็นที่ปรึกษาให้ได้ ให้คำปรึกษาที่ดี มีข้อมูล มีความรู้ ทำให้ลูกค้าสามารถไว้วางใจได้ อีกทั้งยังต้องมีความจริงใจ ความเป็นมิตร และความชัดเจนในคำพูด ไม่กลับคำไปมา วิธีนี้ก็จะช่วยสร้างโอกาสในการขายได้อย่างมี Impact จนนำไปสู่การปิดยอดขายได้ง่ายขึ้น
5.ติดตามและติดต่อลูกค้าเก่าอยู่เสมอ
เมื่อสรุปปิดการขายได้แล้ว ก็ใช่ว่าจะจบกันเลย ไม่คุยเลย ไม่ติดต่อเลย เอาเวลาไปหาลูกค้าใหม่ ๆ ดีกว่า แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้ ควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาว เผื่อลูกค้าเก่ายังคงสนใจสินค้าและบริการจะได้ทำการค้ากันต่อไปได้ อีกทั้งลูกค้าเก่ามีแนวโน้มที่จะจ่ายแพงกว่าลูกค้าใหม่ ดีลง่าย คุยลงตัว ทำให้ผลลัพธ์ในตอนท้ายดูน่าพอใจมากขึ้นด้วย
ติดตามบทความอื่น ๆ ได้ที่ : คลิก
ติดตามบทความ How to ที่น่าสนใจได้ที่ : คลิก