5 เทคนิคใช้เสียงเพลงดูดแขก กลยุทธ์ระดับห้างตัวกลางสร้างลูกค้า

การนำเสียงเพลงมาใช้ในธุรกิจนั้นถือเป็นกลยุทธ์ที่มีมานานพอสมควร ร้านอาหารแบรนด์ใหญ่หลาย ๆ ร้านก็มักใช้กลยุทธ์นี้ในการดึงดูดลูกค้าเช่นเดียวกัน เพลงหนึ่งเพลงมันสามารถสร้างอิทธิพลต่อคนฟังในวงกว้างได้อย่างมาก แค่เลือกให้ถูก ความนิยมก็เกิด ชี้ช่องรวยเลยขอมาบอกเทคนิคการเลือกใช้เสียงเพลงในร้านของคุณ ช่วยดึงดูดลูกค้าและสร้างยอดขาย รอรับกำไร

1. หาเพลงที่ถูกลิขสิทธิ์

เรื่องสำคัญที่สุดในการนำเพลงมาใช้คือ “ลิขสิทธิ์” ที่จะต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ หากเราพลาดไปเปิดเพลงที่มีลิขสิทธิ์แล้วมีคนร้องเรียนไป ราคาที่ต้องจ่ายนั้นก็ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย เสียสุขภาพอีกด้วย

• คุณสามารถตรวจสอบรายชื่อเพลงที่จะใช้เปิด ว่ามีบริษัทใดจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์บ้าง ได้ทางเว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา www.ipthailand.go.th
• เลือกใช้เพลงที่ศิลปินหรือค่ายอนุญาตเปิดให้ใช้ได้
• อาจต้แงจำกัดการใช้เพลงสักหน่อยเพื่อลดต้นทุนการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ กรณีที่มีแพงเสียลิขสิทธิ์

2.ใช้เพลงให้ตรงกับบรรยากาศร้าน

เพลงนั้นมีหลากหลายประเภทตั้งแต่ช้าไปเร็ว สากล คลาสสิก ลูกทุ่ง ไทย แต่ที่สำคัญคือต้องเปิดให้ตรงกับบรรยากาศของร้าน ถ้าคุณเปิดร้านอาหารอิตาลี ร้านฝรั่งจ๋า ฟีลหรูหราแต่ดันเปิดเพลงสามช่ามันก็ดูจะขัด ๆ กันไปสักหน่อย  แทนที่จะเปิดเพลงคลาสสสิก จังหวะเนิบช้า ฟังสบาย ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกถึงความมีระดับเหมือนอยู่ในยุโรปมากยิ่งขึ้น ถ้าอยากใช้เพลงไทยก็เปิดในกรณีที่คุณขายอาหารไทย ร้าน Outdoor ร้านวัยรุ่นอย่างร้านสุกี้ ชาบู เป็นต้น เพราะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่านัน่เอง

3.สัญชาติอาหารก็มีผล

ต่อเนื่องจากข้อก่อนหน้านี้เลยว่าถ้าบรรยากาศร้านคุณเป็นฟีลหรูหรา ก็ให้เป็นเพลงคลาสสิกที่ดูหรูหรา เพลงยุโรปเพื่อให้ตรงกับสัญชาติอาหารที่เป็นโซนยุโรป แต่ถ้าคุณขายอาหารอีสาน แซ่บอีหลี การจะเป็นเพลงลูกทุ่งอีสานให้ตรงกับเมนูอาหารก็เป็นเรื่องที่ตอบโจทย์มาก ๆ เพระกลุ่มลูกค้าที่เขาอยากกินเมนูอีสานก็คงอยากฟังอะไรที่ดูไทย ๆ สนุก ๆ บ้าน ๆ มากกว่าฟีลมีระดับอยู่แล้ว

4.ระดับเสียงมีผลมาก

ขณะเปิดเพลงไม่ว่าจะเพลงแนวใด สัญชาติใดก็แล้วแต่ ควรคำนึงถึงเรื่อง “ความดัง” อยู่เสมอ เพราะระดับเสียงส่งผลต่อการทานอาหารของลูกค้าอย่างมาก ยิ่งเปิดเพลงเสียงดังจนเกินไป แทนที่จะได้อิ่มเอมบรรยากาศ เคล้าคลอกับเพลงอันไพเราะ กับกลายเป็นเกิดมลพิษทางเสียง หนวกหู ปวดหัว จากที่จะมีความสุขจะกลายเป็นปวดหัว หงุดหงิด หมดอารมณ์

5.ดูกลุ่มลูกค้าด้วย

ดูอายุ เพศ อาชีพของกลุ่มลูกค้าว่าอยู่ในวัยใด ถ้าเป็นวัยผู้ใหญ่ก็เปิดเพลงยุค 80s 90s เสิร์ฟเขาได้ หากเป็นวัยรุ่นก็สามารถเปิดเพลงไทย สากล เกาหลีได้ แต่เน้นย้ำว่าควรอยู่ในระดับเสียงที่พอเหมาะ ไม่รบกวนลูกค้ามากจนเกินไป

 

ติดตามบทความอื่น ๆ ได้ที่ : คลิก

ติดตามบทความ How to ที่น่าสนใจได้ที่ : คลิก

• Facebook
• X
• Line