พิซซ่า ม้วนทานง่าย มีสไตล์
แบบต่างๆ ของพิซซ่าม้วน ที่สามารถนำไปเป็นแบบอย่างในการ สร้างอาชิพและแบลนด์ใหม่ในตลาดพิซซ่า แหล่งที่มาข้อมูล : Stylish Eve
แบบต่างๆ ของพิซซ่าม้วน ที่สามารถนำไปเป็นแบบอย่างในการ สร้างอาชิพและแบลนด์ใหม่ในตลาดพิซซ่า แหล่งที่มาข้อมูล : Stylish Eve
นายกอบชัย สังข์สิทธิ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า อุตสาหกรรมเครื่องสำอางของไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขในปี 2556 ธุรกิจเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมีมูลค่ารวมทางเศรษฐกิจกว่า 2.1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท หรือร้อยละ 60 และตลาดส่งออกกว่า 9 หมื่นล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 40 นอกจากนี้ยังมีส่วนแบ่งตลาดอาเซียนในส่วนของเครื่องสำอางเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนแบ่งตลาดสูงถึง ร้อยละ 40 ดังนั้น เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจเครื่องสำอางของไทย ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้มีแผนยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง โดยการจัดตั้งคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง (Thai Cosmetic Cluster) รองรับกับการแข่งขันที่รุนแรงจากการเปิดเสรีทางการค้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ในส่วนของผู้ประกอบการในกลุ่มเครื่องสำอางในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันประมาณ 762 ราย โดยแบ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางขนาดเล็กจำนวน 520 ราย คิดเป็นร้อยละ 68 และขนาดกลาง 220 ราย คิดเป็นร้อยละ 29 และ ธุรกิจขนาดใหญ่ 22 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 […]
นายสุพจน์ อาวาส กรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์ เป็นประธานมอบสินเชื่อผู้ประกอบการตลาดเซฟวัน เปิดเผยว่า ตลาดเซฟวัน ( Save One Market ) เป็นตลาดค้าปลีกกลางคืนในจังหวัดนครราชสีมา ที่มีร้านค้าเปิดจำหน่ายถึง 4,000 ร้าน ซึ่งมีลูกค้ารายย่อยที่ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนสินเชื่อรายย่อย (Small SMEs) เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเงินลงทุนเพื่อใช้ ขยาย หรือปรับปรุงกิจการ รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ โดยให้กู้สูงสุด 1 ล้านบาท ผ่อนนาน 7 ปี และมีระยะปลอดเงินต้น 1 ปี และที่สำคัญลูกค้าสามารถใช้ บสย.ค้ำประกันการขอกู้ได้ด้วย โดยข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ถ้าผู้ประกอบการยื่นขอกู้ภายใน 31 มีนาคม 2558 เอสเอ็มอีแบงก์ คิดอัตราดอกเบี้ยปีแรก 8.70 % เท่านั้น นอกจากนี้ เอสเอ็มอีแบงก์ ยังได้เจาะกลุ่มลูกค้าฟาร์มไก่และสุกร รวมถึงธุรกิจอื่นๆ จากเครือข่ายพันธมิตรของธนาคาร ทั้งจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และ หอการค้าจังหวัด ศูนย์อุตสาหกรรมภาค 6 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม […]
นายจตวายุ สดุดีปรีดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เลิฟยูเลิฟเอิร์ธ จำกัด กล่าวว่า บริษัทพร้อมเปิดช่องทางช่วยเหลือ SME ที่ยังขาดการประชาสัมพันธ์สินค้าของตัวเองให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยอาสาเป็นสื่อกลางระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคที่มีความต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพ ปลอดสารพิษ ที่ผลิตด้วยวิธีธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ผ่านสื่อออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ก ยูทูบ รวมทั้งอินสตาแกรม ของบริษัท ซึ่งจะส่งผลให้ ผู้ผลิตสินค้า ได้ทราบถึงความต้องการของตลาดได้โดยตรง และสามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น โดยในขณะนี้ ได้เริ่มทดลองให้บริการในส่วนของเฟซบุ๊กเลิฟยูเลิฟเอิร์ธ และคาดว่า 2 เดือนข้างหน้าบริษัทจะเปิดเว็บไซต์ได้อย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตามจะมีการหักรายได้ 10 เปอร์เซ็นต์ จากการจำหน่ายสินค้าเข้ามูลนิธิฯ เพื่อนำไปช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการศึกษา และด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังพร้อมให้บริการด้านการให้คำปรึกษากับผู้ประกอบการ SME ที่มีสินค้าคุณภาพ แต่ขาดความชำนาญเรื่องการประชาสัมพันธ์ การวางแผนการตลาดแบบครบวงจร โดยผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมสินค้า ปรึกษาแผนการประชาสัมพันธ์ หรือร่วมบริจาคผ่านเลิฟยูเลิฟเอิร์ธได้ที่ Facebook: LoveyouLoveearth หรือ โทร.0-2187-2813 เครดิตภาพจาก http://businessconnectionknowledge.blogspot.com/
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2558 ว่าธนาคารจะมุ่งให้ความสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของสินเชื่อไมโครเอสเอ็มอี และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาหนี้ครัวเรือน ผ่านสินเชื่อที่ให้วงเงินกู้และเงื่อนไขที่ผ่อนปรนให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย โดยเฉพาะกลุ่มรายย่อย พร้อมทั้งดูแลคุณภาพหนี้ให้มีศักยภาพ รวมทั้งยกระดับบริการทางการเงินและคุณภาพการให้บริการสู่มาตรฐานสากล ก้าวสู่การเป็นผู้นำธนาคารประชาชนแห่งภูมิภาคอาเซียน นอกจานี้ ธนาคารเตรียมปรับรูปแบบสาขาให้ทันสมัย พร้อมพัฒนาแผนการสื่อสารการตลาดแบบผสมผสานโดยเฉพาะสื่อรูปแบบใหม่ๆ ทั้งนี้เพื่อหวังดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ธนาคารมีอยู่จำนวนน้อย รวมถึง การปรับโฉมผลิตภัณฑ์ด้านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งบัตรเดบิต บัตรกดเงินสด และบัตรเครดิต อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ให้ทันสมัยมากขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ จากเดิมที่มีเพียง 4,000 ล้านบาทต่อปี ตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 6,000 ล้านบาทต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 35% เพื่อให้สามารถรองรับวิกฤติเศรษฐกิจ Cr ภาพ : www.symbolic88.com
สำนักโลจิสติกส์ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับบริษัท เอเซนเทค (ประเทศไทย) จำกัด ขอเชิญสถานประกอบการ เข้าร่วมโครงการ “ส่งเสริมการปรับกระบวนการจัดการโลจิสติกส์ด้วยการใช้เทคโนโลยี Application ระบบ RFID และ Barcode ” โดยโครงการนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการโลจิสติกส์ภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้โครงการยังมีการพัฒนาบุคคลากรในสถานประการ เพื่อให้บุคคลากร เกิดการตระหนักรู้ถึงความสำคัญและประโยชน์ที่จะได้รับจากเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดการใช้เทคโนโลยีอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นโครงการสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะ สามารถลดต้นทุนหรือระยะเวลาในการจัดการโลจิสติกส์ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ทำให้ส่งผลต่อภาพพจน์ที่ดีและความน่าเชื่อถือของสถานประกอบการ ต่อคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งนี้ สำหรับสถานประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2558 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 08-1700-3297 พร้อมทั้งตั้งเป้าผู้ชมงานในวันค้าปลีกจำนวน 20,000 คน Cr ภาพ : www.thailandfreightforwarder.com
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “งาน Made in Thailand in Focus” ครั้งที่ 26 เป็นการนำโครงการเก่า มาปัดฝุ่นใหม่หลังจากเว้นวรรคการจัดงานไป 2 ปี โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานแบบใหม่ สโลแกน “ปลื้ม” เป็นกลยุทธ์หลัก เนืองจากที่ผ่านมามีสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมากซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็ง สำคัญที่จะเปิดทางให้สินค้าไทยแบรนด์ใหม่ๆที่มีคุณภาพถูกแนะนำสู่ตลาดส่งออก โดยเน้นผู้ซื้อในภูมิภาคอาเซียน ถือเป็นการดำเนินนโยบายเชิงรุกเตรียมพร้อมกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปีนี้ Made in Thailand in Focus จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2558 (เพื่อเจรจาธุรกิจและจำหน่ายปลีก) รวม 5 วัน ณ อาคาร EH101-EH104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยมีผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้ค้าส่งสินค้าไทย ร่วมแสดงสินค้าจำนวนกว่า 1,000 คูหา บนพื้นที่รวม 19,200 ตารางเมตร พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษอื่นๆ […]
การได้มีห้องสวยๆ อยู่ในบ้านเป็นความสุขและความภูมิใจของผู้เป็นเจ้าของ หลังจากออกแบบ ทาสี ติดตั้งโคมไฟ และจัดวางเฟอร์นิเจอร์จนลงตัวไร้ที่ติ หลายคนอาจเริ่มครุ่นคิดว่าจะเลือกอะไรเข้ามาเพิ่มเติมเพื่อให้การ ตกแต่ง ห้องดูสวยสมบูรณ์ที่สุด บางคนอาจคิดไปถึงกรอบรูปงานศิลป์ งานเซรามิกเก๋ๆ หรือของเก่าราคาแพง ฯลฯ แต่บางทีเราอาจมองข้ามอะไรไปบางอย่าง เช่น ดอกไม้ เป็นต้น แม้ผู้เขียนจะไม่รู้เหมือนว่าผู้ชายเริ่มใช้มุขดอกไม้จีบสาวบนโลกนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เมื่อใด แต่เชื่ออย่างหนึ่งว่าไม่มีอะไรเหมาะกับการ แต่งบ้าน ที่ดีไปกว่าแจกันดอกไม้แน่นอน หากการนำดอกไม้ใส่แจกันแล้วเอาไปวางไว้เฉยๆ ดูไม่น่าสนใจเพียงพอเราก็อยากให้คุณลองเล่นสีของดอกไม้กับสีของพื้นที่โดยรอบซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจน่าสนใจกว่าที่คิด เช่น ชั้นวางของสีฟ้าสดจะช่วยขับสีของแจกันกุหลาบสีชมพูได้อย่างโดดเด่น และเยอบีร่าเหลืองก็ทำให้ห้องนั่งเล่นที่เลือกใช้โซฟาสีน้ำเงินหรือสีดำลดความเข้มขรึมลง ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร ห้องน้ำ หรือห้องทำงาน อาจเลือกใช้ดอกไม้หลากสีเพื่อให้ความรู้สึกสดชื่น ในขณะที่ช่อดอกไม้ขาวบนแจกันขนาดใหญ่ที่สุดปลายทางเดินก็ชวนให้บ้านดูอบอุ่นอ่อนโยน ถ้าปัญหาคือเราให้เลือกได้เพียงห้องเดียวที่สามารถใช้แจกันดอกไม้สดได้ เราก็อยากให้คุณเลือกห้องนอนค่ะ แม้จะไม่มีใครเห็น แต่สิ่งนี้จะมอบความรู้สึกพิเศษให้กับคุณทุกครั้งยามเข้านอน และถ้าไม่รู้จะเลือกใช้ดอกอะไรดี Forfur ขอยกให้กุหลาบมาเป็นอันดับหนึ่งด้วยความสวย หอม และคลาสสิกตลอดกาล ดังวลีอมตะของวิลเลียม เชคสเปียร์…A rose by any other name would smell as sweet… CR : http://pinterest.com
SME ไทยมีเยอะ GDP กลับน้อย ปัจจุบัน ประเทศไทยมี SME กระจายอยู่ทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก โดยรัฐบาลได้จำแนก SME ออกเป็นกลุ่มธุรกิจ 4 ประเภท ได้แก่ ภาคการผลิต ภาคการค้า ภาคบริการ และภาคเกษตรกรรม ในปี 2557 ประเทศไทยมีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ทั้งหมด 2.47 ล้านราย คิดเป็น 98.5% ของวิสาหกิจทั้งหมด โดยจำนวนดังกล่าวทำให้เกิดการจ้างงานมากถึง 11.78 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 80.4 ของตัวเลขการจ้างงานรวมทั้งประเทศ แต่กลับมี GDP เพียง 37% ซึ่งต่างจากประเทศที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีสัดส่วน GDP เกินกว่า 50% ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นปัญหาของ SME ไทยอย่างชัดเจน โดยปัญหาของธุรกิจ SME ไทยมีสาเหตุมาจากทั้งปัจจัยภายใน เช่น จากตัวผู้ประกอบธุรกิจเอง และปัจจัยภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุมของผู้ประกอบการ […]
ซูชิ (Sushi) รูปแบบต่างๆที่ทำให้น่าทานมากยิ่งขึ้น ตัวอย่าง แบบต่างๆ แหล่งที่มาข้อมูล : Stylish Eve
เครือข่ายผู้ประกอบการไทยกว่า 50 กลุ่ม ทั้งสมาคม ชมรม กลุ่มสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มผู้ประกอบการ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการรวมตัวกันก่อตั้ง “สมาพันธ์ SME ไทย” เพื่อเป็นศูนย์รวมของผู้ประกอบการ SME ไทยและเป็นพลังในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ สภาวิชาชีพ สถาบันการเงิน และหน่วยงานหรือองค์กรเอกชนเพื่อสนับสนุนให้ SME ไทย สามารถที่จะก่อตั้ง อยู่รอด และเติบโตขึ้นของ SME สามารถส่งเสริมความเข้มแข็งของสมาชิกในการดำเนินธุรกิจและแข่งขัน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางความสัมพันธ์และประสานงาน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันของสมาชิก ทั้งหมดได้ร่วมลงนาม ณ ศูนย์ซีอาเซียน ห้องประชุมชั้น 12 อาคารไซเบอร์เวิรลด์ ทาวเวอร์ เอ นำโดยประธานสมาพันธ์ SME ไทย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และกว่า 50 สมาคมหรือกลุ่มผู้ประกอบการจากทั่วประเทศ โดยมีสมาชิกทั้งหมดในสมาพันธ์ฯ ไม่ต่ำกว่า 11 ล้านราย อาทิ สมาคมการค้าไทยสมาร์ทเอสเอ็มอี, สมาคมแฟรนไชส์และไลเซ่นส์, สมาคมพ่อค้าจังหวัดยะลา, สมาคมเอสเอ็มอีไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ชมรมเครือข่ายผู้ประกอบการใหม่ NEC Network, […]
สำนักพิมพ์ พีเพิลมีเดีย ขอเสนอหนังสือ “ร้านค้าราคาเดียว”เป็นธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับผู้มีความต้องการสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง ปัจจุบันร้านค้าราคาเดียวขายได้ขยายตัวขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาซื้อของจากร้านซึ่งมีให้เลือกหลากหลายประเภทและราคาไม่แพง ทั้งยังได้สินค้าที่มีคุณภาพด้วย – พ็อกเก็ตบุ๊คมีหัวข้อครอบคลุมครบถ้วนสำหรับผู้อ่านที่สนใจในธุรกิจนี้ ทั้งยังมีข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบว่าจะทำธุรกิจอะไรดี – ข้อมูลที่ได้มาจากผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่น่าเชื่อถือในประเทศไทยและมีการขยายสาขาแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ร้านหนึ่งนที, ร้านเอโกะและร้าน Strawberry Club – ทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์ – มีการเปิดตัวหนังสือพร้อมจัดการเสวนาในงานหนังสือเดือนตุลาคม 2014 สามารถหาซื้อพ็อกเก็ตบุ๊คได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักพิมพ์พีเพิลมีเดียบุ๊ค โทร 0-2704-7958 Line ID : smemagazine
ผลไม้ถ้วย รูปแบบต่าง ไอเดียวางให้น่าทาน ไอเดียธุรกิจ แหล่งที่มา : ArchiDesiign
ในวันพุธที่ 21 มกราคม 2558 เวลา 13.30 – 16.30 น. ณ ห้องชัยพฤกษ์ ชั้น 14 อาคาร 9 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กล้วยน้ำไท) ทางสถาบัน People Training ร่วมกับคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ (Busem) จัดงานสัมมนา” Follow your Dream … จุดประกาย Big idea กับ Start up เงินล้านของไทย” เพื่อแลกเปลี่ยนความคิด โดยได้รับเกรียติจาก ดร.วุฒนิพงษ์ วราไกรสวัสดิ์ ผอ.ฝ่ายบริหาร Busem คุณไผท ผดุงถิ่น นายกThailand Tech Startup, Association และผู้ก่อตั้ง Builk.com […]
บริษัท พีเพิลมีเดีย จำกัด ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย สสว. และพันธมิตรทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมากมาย ผนึกแนวร่วมจัดงานใหญ่เสริมศักยภาพผู้ประกอบการในงาน “Smart SME Day” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “รวมพลังพันธมิตรหนุน SME ไทย” งานเดียวที่รวมภาคีทุกภาคส่วนกว่า 50 หน่วยงานจัดโซลูชั่นประกาศความช่วยเหลือผู้ประกอบการแบบเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังเป็นตัวกลางสำคัญในการเชื่อมโยงหน่วยงานทุกภาคส่วนที่สนับสนุน SME พร้อมรับฟังปาฐกถาพิเศษ “อนาคตเศรษฐกิจไทย.. ก้าวไกลด้วยพลัง SME” โดยศาสตราภิชาน ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และการเสวนาสุดเข้มข้นจากผู้ประกอบการชั้นนำของเมืองไทย ร่วมลุ้นและเป็นกำลังใจกับการค้นหา SME ดาวรุ่งที่ประสบความสำเร็จในงาน พร้อมชมนิทรรศการ บูธหน่วยงานพันธมิตร และเวทีเจรจาธุรกิจอีกมากมายคับคั่ง ผู้ประกอบการรวมทั้งผู้ที่สนใจห้ามพลาด งานเดียวที่เอสเอ็มอีจะร่วมผนึกกำลัง และค้นพบโซลูชั่นจากหน่วยงานรัฐและเอกชนอย่างเต็มที่ วันที่ 29 มกราคม 2558 ณ ศูนย์ซีอาเซียน อาคารไซเบอร์เวิลด์ ทาวเวอร์ ผู้สนใจลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ www.smartsmeday.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-2704-7958 ต่อ 401-404
ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ http://www.smartsme.tv/innovationmove/ โดยกรอกรายละเอียดและส่งเข้ามาที่ e-mail : [email protected] หมดเขตปิดรับสมัครวันที่ 31 มกราคม 2558 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2577-9300, 08-3234-5437
สำนักพิมพ์พีเพิลมีเดียบุ๊ค “กินอยู่ อย่างสง่า” 5เคล็ด ไม่ลับกับการลดพุงกว่าชีวิตจะสง่ากอนแบบนักโภชนาการเพื่อชีวิตที่เหลืออยู่กินก๋วยเตี๋ยวแบบมืออาชีพ 3วันที่ผ่านมา สง่ากินอะไร? กิจเจอย่างเฮโลตามแฟชั่นกินเพื่ออยู่อาหารสร้างชีวิต สามารถหาซื้อพ็อกเก็ตบุ๊คได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักพิมพ์พีเพิลมีเดียบุ๊ค โทร 0-2704-7958 / Line ID : smemagazine
“โลโก้ใหม่นี้ยังต้องการสื่อถึงแบรนด์อีเลคโทรลักซ์ในความรู้สึกใหม่ ภายใต้ ผลิตภัณฑ์และบริการที่เรานำเสนอให้กับลูกค้า รวมทั้งวิธีการที่ให้ผู้คนรับรู้ โลโก้ใหม่จะช่วยสร้างการรับรู้มากขึ้น โดยจะเน้นให้ผู้บริโภคให้มีส่วนร่วม อารมณ์ความรู้สึกในทางบวก ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขา บ่งบอกถึงคุณค่าที่สำคัญและค้นพบสิ่งที่พวกเขากำลังมองหา” อีเลคโทรลักซ์จะเริ่มทยอยใช้โลโก้นี้ในร้านค้า ช่องทางออนไลน์ บรรจุภัณฑ์สินค้าและบนอุปกรณ์มือถือ ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2558 เป็นต้นไป จะว่าไปแล้ว ผู้บริโภคอาจไม่เห็นความเปลี่ยนแปลมากนัก เนื่องจากอีเลคโทรลักซ์ยังใช้สัญลักษณ์ ที่ใช้มาตั้งแต่ 53 ปีที่แล้ว ยกเว้นตัวอักษรที่ดูทันสมัยขึ้น ที่มา : http://www.positioningmag.com/content/59186
โดยเสี่ยวหมี่ตั้งราคาของ Mi Note เอาไว้ที่ 2,299 หยวน (16GB) และ 2,799 หยวน (64GB) คิดเป็นเงินไทยประมาณ 12,000 และ 15,000 บาทตามลำดับ ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าไอโฟน 6 พลัสถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้น บนเวทีการเปิดตัวยังได้ Lei Jun ซีอีโอของเสี่ยวหมี่เป็นผู้ส่งสารท้ารบโดยตรง โดยเขาได้เปรียบเทียบคุณสมบัติและดีไซน์ของมี่โน้ต กับไอโฟน 6 พลัสบนเวที แถมยังบอกว่ากล้องของไอโฟนนั้นดูแล้วนูนออกมาจากตัวเครื่อง ขณะที่กล้องของ Mi Note นั้นเข้ากับตัวเครื่องมากกว่า ที่มา : http://www.positioningmag.com/content/59170
คำถามคือทำไมกูเกิลจึงยอมแพ้ กูเกิลตอบเรื่องนี้ในบล็อกบริษัทว่าเป็นนโยบายยกระดับโครงการ โดยปิดโครงการทดลอง Google Glass “Explorer” เพื่อดำเนินการต่อในส่วนวิจัย “กูเกิลเอ็กซ์ (Google X)” จึงทำให้ต้องหยุดจำหน่ายแก็ดเจ็ดราคาแพงชิ้นนี้ไป การยกระดับโครงการทำให้กูเกิลกลาสต้องเปลี่ยนชื่อหัวหน้าทีมผู้รับผิดชอบไปด้วย โดยผู้กุมบังเหียนการพัฒนากูเกิลกลาสนับจากนี้ไปคือโทนี ฟาเดลล์ (Tony Fadell) หัวหน้าทีมวิจัยที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง “เนสต์ แล็บส์ (Nest Labs)” ซึ่งกูเกิลซื้อกิจการมาเมื่อปี 2014 ด้วยมูลค่ามากกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ แม้จะคำแถลงการณ์จะดูสวยงาม แต่สื่อมวลชนวิเคราะห์ว่าการประกาศครั้งนี้เป็นสัญญาณว่ากูเกิลกลาสไม่พร้อมหรือไม่สามารถเข้าถึงวิถีชีวิตผู้บริโภคยุคดิจิตอลได้ ที่ผ่านมา เซเลบฯมากมายสวมแว่นกูเกิลกลาสจนสร้างกระแสตื่นตัวให้ผู้บริโภคอยู่พักหนึ่ง แต่กูเกิลกลาสก็ตกเป็นข่าวถูกห้ามใช้งานในหลายสถานที่ เนื่องจากความกังวลว่าผู้ใช้แว่นจะบันทึกภาพด้วยกูเกิลกลาสโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งหมดนี้ ประชาสัมพันธ์กูเกิลปฏิเสธไม่ให้ความเห็นใดเพิ่มเติมจากแถลงการณ์ อย่างไรก็ตาม เชื่อกันว่ากูเกิลไม่ได้ยอมแพ้กับการทดลองที่ล้มเหลว แต่พยายามหาทางรักษาชีวิตของโครงการพัฒนาแว่นไฮเทคนี้ไว้ เนื่องจากมีการระบุในโพสต์ชัดเจนว่า กูเกิลจะลงมือสร้างสรรค์อุปกรณ์นี้เพื่ออนาคตต่อไป และผู้ใช้ทุกคนจะได้เห็นกลาสเวอร์ชันใหม่เมื่อทุกอย่างพร้อม เหนืออื่นใด ถึงแม้กูเกิลกลาสจะไม่สามารถแจ้งเกิดในกลุ่มผู้บริโภคได้ในขณะนี้ แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าแว่นไฮเทคของกูเกิลยังมีอนาคตสดใสรออยู่ในตลาดผู้ใช้กลุ่มองค์กรธุรกิจ โดยที่ผ่านมา องค์กรอย่างสายการบิน “เวอร์จิน แอร์ไลน์ส (Virgin Airlines)” […]
วิธีการที่ง่ายที่สุด? ก็เซฟโพสต์เหล่านั้นไว้อ่านภายหลังสิครับ แน่นอนว่าฟีเจอร์นี้มีออกมานานแล้วแต่ผู้ใช้หลายคน (รวมทั้งตัวผมด้วย) อาจจะยังสับสนถึงวิธีการใช้ที่บางโพสต์ก็เซฟได้ ทำไมบางโพสต์ถึงไม่มีให้เซฟ วันนี้เรามาเรียนรู้วิธีเซฟที่ถูกต้องพร้อมกันดีกว่าครับ Saving แบบแรกคือคุณสามารถเซฟโพสต์ที่มีลิงค์แนบมาด้วยได้ วิธีการก็ง่ายๆ เพียงคลิกปุ่ม drop-down ที่มุมขวาบนของโพสต์ และคลิกคำว่า “Save [หัวข้อ]” ส่วนบนโมบายก็ใช้วิธีเดียวกันแตหัวข้ออาจจะสลับไปอยู่บนสุดแทน *น่าสังเกต หากโพสต์ที่คุณต้องการเซฟไม่ใช่โพสต์ที่มีลิงค์แนบ เช่น เป็นโพสต์ตัวอักษรล้วน โพสต์ที่คุณเห็นจากการที่เพื่อนไปคอมเมนต์ในโพสต์ของคนอื่น หรือโพสต์ที่แชร์ต่อกันมาอีกทอด คุณจะไม่สามารถเซฟโพสต์ได้ครับ การกลับเข้าไปอ่าน เข้าที่ Facebook homepage ของคุณ คุณจะเห็นปุ่ม ‘Saved’ บนแถบด้านซ้ายบนของคุณ อยู่ใต้หัวข้อ ‘Newsfeed’ คลิกตรงนั้นจากนั้นคุณจะสามารถเลือกดูคอนเทนต์ได้ผ่านประเภทที่จัดเรียงไว้ หากอยากดูทั้งหมดก็คลิก All ไปเลยครับ หากคุณหาไม่เจอ? คลิกลิงค์นี้ได้เลยครับ www.facebook.com/saved สำหรับการหาบนโมบาย ให้ทัช ‘More’ ที่อยู่ตรงขวาล่างของหน้าจอคุณ คุณจะเห็นเมนูคำว่า ‘Saved’ ปรากฏขึ้นมา การลบ ที่มา : www.marketingoops.com/exclusive/how-to/save-on-facebook
ในหมู่ธุรกิจเหล่านี้ผู้เขียนคิดว่า NatureBoxตั้งราคาได้เหมาะสมกว่าเพื่อน และยังเป็นธุรกิจที่น่าจะดัดแปลงมาทำได้ในประเทศไทยเมื่อระบบไปรษณีย์ของเราพัฒนาขึ้น NatureBoxนั้นเป็นธุรกิจจัดส่งขนมขบเคี้ยวที่ถูกรับรองโดยนักโภชนาการแล้วว่าดีต่อสุขภาพ จุดขายหลัก คือ •ความอร่อยแบบเป็นธรรมชาติ •ความใส่ใจในการให้ “ทางเลือกขนม” กับลูกค้ากลุ่มที่แพ้อาหารหรือกำลังควบคุมอาหาร •ความหลากหลายของขนมที่ผู้บริโภคในประเทศสหรัฐอเมริกาอาจจะไม่เคยลองรับประทานมาก่อน NatureBoxเวิร์คอย่างไร NatureBoxนั้นคล้ายอีกหลายธุรกิจที่ใช้โมเดลสมัครสมาชิก เช่น ธุรกิจนิตยสาร คือทำการส่งขนมรายเดือนให้กับลูกค้าที่สมัครสมาชิกเดือนละ 5 ห่อ ยิ่งสมัครเป็นระยะเวลานาน ราคาต่อเดือนยิ่งถูกลง ยกตัวอย่างเช่น หากสมัครแบบรายปี ราคาจะหล่นจากเดือนละ 19.95 เหรียญ เป็น 15.95 เหรียญต่อเดือน ลูกค้าที่ชื่นชอบมากและต้องการสมัครแบบระยะยาวก็จะได้ส่วนลด ส่วน NatureBoxก็จะได้เงินสดก้อนใหญ่ (15.95 คูณ 12) มาหมุนก่อนตั้งแต่ตอนต้นปี เมื่อเราสมัครสมาชิกแล้วก็สามารถเลือกจากขนมเป็นร้อยอย่างว่าต้องการขนมชนิดไหนบ้างในเดือนถัดไป ขนมเหล่านี้เป็นขนมที่ค่อนข้างมีความเป็นธรรมชาติสูง ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลฟรุกโตสเป็นองค์ประกอบจำนวนมาก ไม่มีสีเจือปน ไม่มีสารทดแทนความหวาน ไม่มี Trans Fats พูดง่ายๆ ก็คือเป็นขนมที่ปลอดภัยกว่าขนมตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปมากและที่สำคัญขนมของ NatureBoxนั้นมองแล้วรู้ว่ามันทำมาจากอะไร เช่น ข้าวโพดคั่ว ก็เห็นเป็นข้าวโพด สับปะรดก็มาเป็นแว่นๆ ตัวเป็นๆ ไม่ใช่ขนมอบกรอบประเภทที่เราไม่แน่ใจว่ามันทำมาจากอะไรบ้าง […]
เมื่อพิจารณาความแตกต่างของแรงงาน แต่ละประเทศมีได้เปรียบด้านการแข่งขันที่แตกต่างกันไป อาทิ กัมพูชา เป็นประเทศที่มีความได้เปรียบด้านค่าจ้างแรงงานที่ต่ำ เวียดนามสามารถสร้างข้อได้เปรียบระหว่างค่าจ้างและผลิตภาพที่พัฒนาขึ้นได้ อินโดนีเซียมีจำนวนแรงงานมากที่สุด ฟิลิปปินส์มีความพร้อมด้านภาษา ส่วนไทยมีความโดดเด่นด้านงานที่ต้องใช้ความแม่นยำ และสิงคโปร์เน้นที่แรงงานคุณภาพสูงและการใช้ทักษะขั้นสูง เป็นต้น อาเซียนแม้จะเป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพด้านแรงงานที่หลากหลาย และมีจำนวนประชากรวัยแรงงานอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในหลายประเทศกำลังจะประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคธุรกิจ ซึ่งปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ว่านี้ไม่ได้เกิดจากปัญหาโครงสร้างของประชากรหรือการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ แต่เป็นปัญหาที่เกิดจากความไม่สอดคล้องกันระหว่างแรงงานที่เข้าสู่ตลาดกับความต้องการของตลาด หรือที่เรียกว่า Skill Mismatch นั่นเอง จากการสำรวจความคิดเห็นของเจ้าของกิจการในภูมิภาคอาเซียนด้านทักษะและขีดความสามารถของแรงงานอาเซียนในแต่ละประเทศว่าเป็นไปตามความต้องการขององค์กรหรือไม่ การสำรวจพบว่ากว่าร้อยละ 50 ของเจ้าของกิจการหรือผู้ว่าจ้างในเมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ กัมพูชา สปป.ลาว และอินโดนีเซีย มีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า แรงงานที่มีในแต่ละประเทศนั้นไม่สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรและจะเป็นอุปสรรคในการเติบโตขององค์กรในอนาคต ในขณะที่ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ มีความสอดคล้องกับความต้องการแรงงานที่สูงกว่า โดยปัจจัยหลักๆ มาจากการมีจำนวนแรงงานมากแต่มีทักษะต่ำ (Low Skill) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมียนมาร์ กัมพูชา สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ในขณะที่ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย มีปัญหาการขาดแคลนทักษะ (Skill Shortage) ซึ่งเกิดจากความต้องการของอุตสาหกรรมเปลี่ยนไป แต่ทักษะของแรงงานไม่ได้พัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อวิเคราะห์ทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค ประกอบกับการคาดการณ์ลักษณะของงานที่น่าจะเกิดขึ้นในอีก 10 […]