ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

ชี้ช่องรวย โอกาสรวยของคนตัวเล็ก

How to

5 วิธีสร้างคู่มือ SOP คัมภีร์กลยุทธ์ธุรกิจ รากฐานสู่ความสำเร็จ

คู่มือการทำงาน หรือ SOP เป็นคู่มือปฏิบัติการการทำร้านค้าที่อธิบายว่าต้องทำอะไรตามลำดับขั้นตอนไหนอย่างชัดเจน บอกให้รู้ว่า ใคร ต้องทำอะไร ทำที่ไหน ทำอย่างไร การทำงานก็ง่ายขึ้น คนที่ไม่รู้เรื่องทำธุรกิจก็สามารถมาลงมือทำได้อย่าง่ายมากขึ้น วิธีทำคู่มือปฏิบัติงานเป็นอย่างไรไปดูกัน!

1.วางภาพรวมของงาน

SOP

 

ทำคู่มือเพื่อให้รู้เรื่องธุรกิจก็ควรบอกก่อนว่าธุรกิจนี้คืออะไร ทำอะไร ทำเพื่อใคร ทำอย่างไร เมื่อมีขอบเขตให้ประมาณนี้จะทำให้คู่มือดูมีหลักการและขอบเขตเนื้อหาที่ชัดเจน ครอบคลุมเนื้อหาของธุรกิจเพียงอย่างเดียว ไม่หลุดธีมเกินไป เพราะถ้าใส่ข้อมูลที่อยากใส่ไปทั้งหมด นอกจากเราจะไม่อยากทำต่อเพราะเยอะเกินแล้ว ลูกค้าหรือคนที่มาอ่านก็ไม่อยากอ่านเช่นกัน

2.คัดข้อมูลที่จำเป็น

คัดเนื้อหาที่จำเป็นสำหรับการทำธุรกิจโดยเฉพาะพวกความรู้ Know How และ How to ข้อมูลที่ใส่ควรมีความถูกต้องแน่นอน​ หากมีความผิดพลาดของข้อมูลก็ควรมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มิฉะนั้นมันอาจสร้างความผิดพลาดใหญ่หลวงได้ อีกทั้งข้อมูลที่ใช้ก็ไม่ควรมาจากอินเตอร์เน็ต​ แต่ควรใช้ข้อมูลที่มีความแน่นอน​จากประสบการณ์ตรง และควรจดบันทึกทุกครั้งจนออกมาเป็นฉบับสมบูรณ์

3.จัดระเบียบข้อมูล

SOP

ต่อให้มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย ความน่าเชื่อถือมาเต็ม ประสบการณ์แน่น รู้แล้วมีประโยชน์แน่นอน แต่ถ้าการจัดเรียงเนื้อหาไม่ดี เรียงมั่ว เนื้อเรื่องและวิธีทำไม่ต่อเนื่องกัน ขาดช่วงก็ยากที่จะเป็นคุ่มือที่ดีได้ มันก็เหมือนนิยายหรือภาพยนต์สักเรื่องที่ต้องผ่านการคิด การเรียบเรียบมาดีแล้วเพื่อให้ผู้อ่านรู้เรื่อง เข้าใจเรื่องที่จะสื่อ เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้อ่าน

4.สร้างคู่มือ

เมื่อผ่านการเตรียมตัวมาพอแล้ว วางโครงสร้างการเรียงเนื้อหาแล้ว ตรวจสอบแล้วว่าเนื้อหาครบถ้วน ครบทุกมุมของการทำธุรกิจ ก็สามารถนำไปสู่การทำคู่มือจริง ๆ ออกมา จะทำเป็นรูปเล่ม ง่ายต่อการอ่าน ดีไซน์น่าสนใจก็ได้ หรือจะให้ร่วมสมัยขึ้นมาหน่อยก็ทำในรูปแบบของไฟล์ PDF เปิดอ่านในโทรศัพท์มือถือได้ อ่านที่ไหนก็ได้

5.อัปเดตเวอร์ชันด้วย

การใช้คู่มือที่ทำขึ้นมาตามวิธีด้านบนก็มีโอกาสเกิดปัญหาอยู่บ้าง และเราจะได้รับความเห็นจากคนที่ใช้คู่มือแน่นอนอยู่แล้ว รวมถึงผู้อธิบายงานก็อาจชี้ให้เห็นจุดบกพร่องด้วยเช่นกัน ให้เรานำความเห็นเหล่านั้นมาปรับแก้คู่มือให้เข้าใกล้ความสมบูรณ์มากขึ้น​ ​​ ​และสร้างคู่มือเวอร์ชันที่สมบูรณ์มากขึึ้นออกมา

SOP

ติดตามบทความอื่น ๆ ได้ที่ : คลิก

ติดตามบทความ How to ที่น่าสนใจได้ที่ : คลิก

Related Posts

สร้างอาชีพ

สร้างอาชีพเปิดร้านด้วย ฮะเก๋า ตื่มซำสุดฮิตไม่ตกกระแส ต้องใช้อะไรบ้าง แถมสูตรให้ด้วย!

ใครที่อยากสร้างอาชีพด้วยเมนู ฮะเก๋า ต้องไม่พลาด ฮะเก๋าเป็นหนึ่งในเมนูที่นิยมในหมู่คนทุกเพศ ทุกวัยอยู่เสมอ ทานง่าย ทานรองท้องหรือแทนมื้อหลักก็ยังได้ ช่วงเวลาเร่งรีบของคนเมืองนั้นถือว่าตอบโจทย์มาก ๆ อีกทั้งเมนูนี้ยังเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินที่ดีอีกด้วย ส่งต่อคุณประโยชน์ที่ดีสู่ลูกค้า สร้างรายได้สม่ำเสมอ เป็นไอเดียสร้างอาชีพที่ดีไม่ใช่น้อย (มีแจกสูตรด้วย!) ใครอยากสร้างอาชีพด้วยเมนูนี้ตอ้งไม่พลาด วัตถุดิบหลัก เนื้อกุ้ง 1 กก. 270 บาท ไขมันหมู 1 กก. 60 บาท เกลือ 7 บาท พริกไทยขาวป่น 100 ก. 40 บาท น้ำมันงา 150 มล. 51 บาท ไข่ไก่ 10 ฟอง 45 บาท แป้งมันฮ่องกง 200 ก. 35 บาท แป้งข้าวโพด 1 กก. 37 […]

ทักษะผู้บริหาร

7 ทักษะผู้บริหารที่ควรมี หลักสำคัญช่วยธุรกิจโตอย่างมีคุณภาพ

ทักษะผู้บริหาร ถิอเป็น Soft Skill ในรูปแบบหนึ่งที่ควรมีติดตัวและต้องมีให้ได้ การจะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของธุรกิจ เจ้าของกิจการทุกประเภท ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินทอง โอกาสหรือประสบการณ์ในสายอาชีพนั้นเพียงอย่างเดียว แต่ทักษะสำคัญในการบริหารก็ควรมีด้วยเช่นกัน จะฉลาดแต่ด้าน IQ ไม่พอ ต้องมี EQ ที่สูงด้วยถึงจะปกครองคนได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่าทักษะอะไรบ้างที่คนเป็นผู้บริหารควรมี เพื่อพาพนักงานและบริษัทให้เจริญเติบโต 1.ทักษะด้านอารมณ์ เจ้าของกิจการจำเป็นต้องมีทักษะการจัดการอารมณ์ที่ดี ฉลาด ต้องพยายามหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในด้านอารมณ์ของผู้อื่นว่าเป็นอย่างไร จากนั้นวิเคราะห์ให้มองเห็นถึงคำตอบ เมื่อรู้ต้นตอปัญหาก็จะแก้ไขได้ง่าย กลายเป็นคนที่ควบคุมสถานการณ์ต่าง ๆ โดยง่าย 2.ทักษะการโน้มน้าวใจ ศิลปะการพูดเป็นอาวุธสำคัญในการดำเนินธุรกิจและการบริหารทั้งบริษัทและพนักงาน พูดดี โน้ใน้าวได้ดีก็มักส่งผลดีให้กับทุกฝ่าย โน้มน้าวเรื่องการขายก็สามารถทำยอดขายได้ โน้มน้า่วพูดคุยกับพนักงานก็ช่วยให้ทุกคนคล้อยตามคำพูด เชื่อมั่น เชื่อฟังได้ สามารถนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จระยะยาวได้ไม่ยาก 3.ทักษะการสื่อสาร การจะโน้มน้าวใครได้ แรกเริ่มต้องฝึกการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพเสียก่อน เพราะแต่ละคนมีลักษณะ เทคนิคในการสื่อสารต่างกันออกไป การสื่อสารไม่ได้จำกัดเพียงแค่คำพูดอย่างเดียว แต่รวมไปถึงกริยา สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียงต่าง ๆ ถ้าเราสามารถจับจุดถูกว่าคู่สนทนากำลังรู้สึกอย่างไร การสื่อสารจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4.ทักษะความคิดสร้างสรรค์ ความคิดสร้างสรรค์เป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยต่อยอดธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ ความคิดทีี่แปลก แหวกแนวแต่ยังสร้างสรรค์จะทำให้เกิดไอเดีย แนวคิดใหม่ ๆ […]

การลาออก

5 ยุทธวิธีลดอัตราการลาออกของพนักงาน สร้างแรงดึงดูดและจูงใจให้อยู่ต่อ

การลาออกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในทุกธุรกิจ มีเข้าก็ต้องมีออกเป็นเรื่องธรรมดา แต่ละคนต่างก็มีเหตุผลเฉพาะแตกต่างกันไป แต่ถ้ามีคนลาออกมาก ๆ และเหตุผลใกล้เคียงกัน ก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขแล้ว มิฉะนั้นจะส่งผลเสียต่อบริษัทอย่างมาก เราจะไปดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้างที่จะลดเรื่องลาออกให้น้อยลง จูงใจพนักงานให้อยู่ต่อมากขึ้น 1.ค่าตอบแทนและสวัสดิการ เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่าใครก็ทำงานเพื่อหาเงินกันทั้งนั้น ดังนั้นบริษัทควรมีการวางแผนด้านงบประมาณใหม่ เพื่อให้มีงบประมาณไปป้อนเงินเดือนพนักงานให้มากขึ้น ขึ้นเงินเดือนให้ทุกปีหรือให้โบนัสตามผลงาน พร้อมกับมีสวัสดิการดี ๆ ที่พนักงานพอใจ ถ้าพนักงานรู้สึกว่าอยู่แล้วสบายใจ อยู่แล้วคลายกังวลเรื่องค่ากินใช้ในชีวิตประจำวัน เขาก็จะเต็มที่กับงานได้มากขึ้น การออกจากงานก็ลดน้อยลง 2.มอบโอกาสการเติบโต ยิ่งทำงานนาน ยิ่งคาดหวัง ยิ่งทำงานหนัก ยิ่งต้องการโอกาสก้าวหน้า คนทำงานเขาก็อยากก้าวหน้ากันทั้งนั้น ถ้าเขารู้สึกว่าอยู่ที่เดิมแล้วโตกว่านี้ไม่ได้แล้ว ก็ขออกไปหาที่ที่สามารถโตได้มากกว่านี้ ได้ทำงานที่ท้าทายหรือสบายกว่านี้ และมีโอกาสได้เงินเดือนที่สูงขึ้นอีกด้วย ถ้าบริษัทอยากจูงใจให้พนักงานอยู่ต่อก็ควรมอบโอกาสหรือมีตำแหน่งที่สูงกว่านี้ จะได้มีความท้าทายที่มากขึ้น สนุกขึ้น เงินเดือนขึ้น ชีวิตดีขึ้น 3.สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี สังคมการทำงานมีผลอย่างมากต่อชีวิตคนทำงาน ถ้าบรรยากาศดี สนุกสนาน เป็นกันเอง บอกเลยว่ามีแต่คนอยากอยู่และอยู่ได้ยาว ๆ แต่ถ้ามีเกมการเมืองในที่ทำงาน มีแต่จ้องจับผิด สังคม Toxic ก็ไม่มีใครอยากอยู่อีกต่อไป เพราะนอกจากเรื่องงานแล้ว สุขภาพจิตนั้นสำคัญมาก คับที่อยู่ได้แต่คับใจนั้นอยู่ยาก 4.ความท้าทายในการทำงาน ความท้าทายที่กำลังพอดีและสอดคล้องกับความสามารถ […]