โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

6 สินค้าบริการไทย เจาะตลาด “กัมพูชา” สวรรค์วัยหลัง 60!!

       

ขณะที่ The Global Retirement Index ปี 2560 จัดทำโดยนิตยสาร International Living จัดให้กัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 17 จาก 24 ประเทศที่ติดอันดับประเทศที่น่าไปใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุมากที่สุดในโลก เลื่อนขึ้นจากอันดับที่ 24 ในปี 2557 โดยชาวต่างชาติส่วนใหญ่เลือกพำนักในเมืองหลวงอย่างกรุงพนมเปญ หรือเมืองเสียมราฐ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รวมถึงเมืองพระสีหนุ เมืองชายทะเลที่ชาวต่างชาตินิยมมาพักตากอากาศ

           

ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนให้กัมพูชาเป็น The New Retirement Haven มี 3 ประการ คือ

  1. ความคุ้มค่าของค่าใช้จ่าย โดย The Global Retirement Index 2017 ระบุว่าค่าครองชีพของกัมพูชาอยู่ในระดับต่ำสุดในบรรดา 24 ประเทศที่ติดอันดับ
  2. ความโดดเด่นของกัมพูชาในการเป็นประเทศที่มีนโยบายเปิดรับและเป็นมิตรกับชาวต่างชาติ อาทิ การอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของห้องชุดตั้งแต่ชั้นที่ไม่อยู่ติดพื้นดินได้ นอกจากนี้ ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2559 รัฐบาล
  3. กัมพูชาประกาศใช้ "ER visa" วีซ่าประเภทใหม่สำหรับผู้เกษียณอายุชาวต่างชาติ โดยผู้ถือวีซ่าดังกล่าวสามารถพำนักอาศัยในกัมพูชา โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตทำงาน แต่ต้องต่ออายุวีซ่าทุก 1 ปี เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้สูงอายุชาวต่างชาติให้มาใช้ชีวิตหลังเกษียณในกัมพูชามากขึ้น
  4. กัมพูชาเป็นประเทศที่ค่อนข้างปลอดภัยจากภัยก่อการร้ายและภัยธรรมชาติ ที่ผ่านมาสถิติเหตุก่อการร้ายในกัมพูชาเกิดขึ้นน้อยครั้ง สอดคล้องกับ The Global Terrorism Index 2016 จัดให้กัมพูชาอยู่ในอันดับค่อนข้างต่ำคือ 122 จาก 163 ประเทศทั่วโลก (อันดับต้น หมายถึง เป็นประเทศที่เกิดหรือมีโอกาสเกิดภัยก่อการร้ายบ่อยครั้ง) ขณะเดียวกันกัมพูชาเป็นประเทศที่ไม่ค่อยเกิดภัยธรรมชาติ รุนแรงอย่างเหตุแผ่นดินไหว อุทกภัย สึนามิ รวมทั้งไม่มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นรอการปะทุ

              

ธุรกิจไทยมีโอกาสต่อยอดทั้งในด้านสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุวัยเกษียณ ปัจจุบันแม้ยังไม่มีการเก็บสถิติอย่างเป็นทางการ แต่ตลาดผู้สูงอายุต่างชาติในกัมพูชานับเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่น่าสนใจ เนื่องจากส่วนใหญ่มีฐานะค่อนข้างดี มีกำลังซื้อ เป็นกลุ่มที่เตรียมความพร้อมและวางแผนทางการเงินในวัยหลังเกษียณมาเป็นอย่างดี จึงนับเป็นโอกาสของสินค้าและธุรกิจบริการของไทยที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงในการเข้าไปเจาะตลาดศักยภาพนี้ในกัมพูชา 

         กลุ่มสินค้าที่มีโอกาสเจาะตลาด อาทิ  

         • อาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากชาวต่างชาติวัยเกษียณเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีความคาดหวังด้านคุณภาพและมาตรฐานสินค้าในระดับค่อนข้างสูง ซึ่งสินค้าที่ผลิตในกัมพูชาอาจยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้ทั้งหมด ผู้บริโภคกลุ่มนี้จึงนิยมสินค้านำเข้าขณะที่สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับด้านคุณภาพและได้มาตรฐาน โดยเฉพาะสินค้าเพื่อสุขภาพ อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่มีการลดปริมาณน้ำตาล โซเดียม และไขมัน ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกส์ รวมถึงอาหารที่เคี้ยวง่าย ย่อยง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดี เป็นต้น

          • เฟอร์นิเจอร์เพื่อผู้สูงอายุ เช่น เตียงนอนที่สามารถปรับระดับได้และไม่สูงเกินไป ที่นอนยางพาราที่มีความแข็งตัวทำให้ไม่ปวดหลัง ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

          • วัสดุอุปกรณ์สำหรับใช้ภายในที่พักอาศัย ที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของผู้สูงอายุ อาทิ สวิตช์ไฟที่มีขนาดใหญ่และเรืองแสงได้ในที่มืด พื้นกระเบื้องหรือพื้นไม้ที่มีความฝืดของผิวสัมผัส เป็นต้น ธุรกิจบริการที่มีโอกาสเจาะตลาด อาทิ           • ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น ร้านอาหาร Modern Café และสปา สอดรับกับพฤติกรรมของกลุ่มผู้สูงอายุต่างชาติที่นิยมรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น เพราะเป็นช่วงเวลาผ่อนคลาย ทำให้ได้พบปะพูดคุยและมีกิจกรรมสังสรรค์กับผู้อื่น          • ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ บ้านพักที่ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ และบริการรักษาพยาบาล ซึ่งปัจจุบันกัมพูชายังไม่มีสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล อาทิ Joint Commission International (JCI) เทียบกับไทยที่มีถึงกว่า 50 แห่ง จึงเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนจัดตั้งสถานพยาบาลดูแลผู้สูงอายุ          • ธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน โดยเฉพาะการออกแบบเพื่อการใช้งานของผู้สูงอายุ อาทิ การออกแบบพื้นที่ที่ป้องกันการลื่นล้ม ซึ่งต้องใช้วัสดุกันลื่น ฝืดเท้า ไม่โค้ง ไม่ลาดชันเกินไป และการติดตั้งอุปกรณ์ เช่น ราวจับในห้องน้ำ เป็นต้น ข้อมูลโดย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย