โอกาสของคนตัวเล็ก

Responsive image

มินิอพาร์ทเม้นท์ฝาแฝด

          ผมเชื่อครับว่าจะมีปัญหาทางเศรษฐกิจสังคมและการเมืองอีกมากที่รอเราอยู่ในอนาคตอันใกล้นี้ ดังนั้นจะทำกิจการงานใดๆ ก็ขอให้เริ่มต้นด้วยความ “ไม่ประมาท” รวมทั้งถ้าคิดจะ “รุก” บุกไปข้างหน้าก็อย่าลืมเปิด “ทางถอย” เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นอย่างที่คาด

          จะว่าไปแล้ว “มินิอพาร์ตเมนต์ไม่บาน” หลังนี้ จัดว่าเป็น “อพาร์ตเมนต์ไม่บาน ขนาดเล็ก” มีความสูงเพียง 4 ชั้น ใช้งบลงทุนประมาณ 9-10 ล้านบาท โดยมีห้องพัก 25 ห้อง ที่จริงที่ดินผืนดังกล่าวก็สามารถสร้าง “อพาร์ตเมนต์ไม่บาน” ได้สูงสุดถึง 8 ชั้น มีห้องพัก 50-55 ห้อง ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 20-25ล้านบาท 

          แต่ในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่คับขันเช่นนี้ สำหรับนักลงทุนประเภท “มือใหม่หัดขับ” ยังขาดความชัดเจนกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายว่าเป็นคนกลุ่มใด จะเก็บค่าเช่าเดือนละเท่าไหร่ดี ระหว่าง 3,500-4,500 บาท และประกอบกับยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการอพาร์ตเมนต์รู้เพียงแค่ว่าอยากมีธุรกิจ “อพาร์ตเมนต์ไม่บาน” เพื่อให้เป็น “Passive Income” ในช่วงบั้นปลายหลังเกษียณอายุ จึงอยากเตรียมการลงทุนเอาไว้สำหรับตัวเองในอนาคต จัดได้ว่าเป็นการวางแผนชีวิตอย่างรอบคอบและรัดกุมโดยไม่ประมาท 

          ผมก็เลยแนะนำว่าในสถานการณ์เช่นนี้ไม่ควรจะลงทุนหนักเลยทีเดียว 20-25 ล้านบาท ลองทำดูสักครึ่งหนึ่งประมาณ 9-10 ล้านบาทหากผลออกมาดีก็ค่อย “ต่อยอด” ขยายการลงทุนต่อก็คงไม่เสียหาย ค่อยๆ เรียน ค่อยๆ รู้ ค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าแบบไม่รีบไม่เร่งมากจนเกินไปเอาแบบช้าๆ ชัดๆ ชัวร์ๆ

          ผลออกมาก็กลายเป็น “มินิอพาร์ตเมนต์ไม่บานฝาแฝด” โดยเริ่มจากการลองทำหลังแรกดูก่อนแล้วค่อยคลี่คลายออกไป ซึ่งท่านเจ้าของก็เห็นดีเห็นงามไปด้วยตามข้อเสนอของผมครับ ซึ่งแนวทางในการออกแบบ “มินิอพาร์ตเมนต์ไม่บาน” เพื่อให้สวยทน สวยทาน สวยนาน สวยประหยัด สวยดูดี สวยมีชาติตระกูล

          ผมจึงได้ออกแบบให้เป็นสไตล์ “โมเดิร์น คอนเทมโพรารี่” (Modern Contemporary Style) คือมี “กลิ่นอาย” ของความ “ทันสมัยที่ร่วมสมัย” เพื่อให้สามารถปรับประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายตามความประสงค์ แต่ก็จะไม่ออกแบบให้ทันสมัยเกินไป เพราะจะทำให้ตกยุคเร็ว เพราะผมเชื่อว่า “In Trend” คือ “Out Trend” ครับ

          และจากการที่วางแผนให้เป็น “มินิอพาร์ตเมนต์ไม่บานฝาแฝด” ก็เพราะกว่าจะสร้างทั้ง 2 ตึกแล้วเสร็จก็ใช้ระยะเวลาประมาณ 3-5 ปีตึกแรกน่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี พอเปิดไปได้สักพัก 1-2  ปี ดูทีท่าว่ากิจการกำลังเดินไปได้ด้วยดีก็จึงจะเริ่มสร้างตึกที่ 2 ดังนั้นจะต้องมีความงามแบบ “ทันสมัยที่ร่วมสมัย” ซึ่งจะต้อง “ไม่เชย” และ “ไม่ล้าสมัย” เป็นความสวยแบบ “ค่ากลาง” ซึ่งผมเรียกว่าความ “ทันสมัยที่ร่วมสมัย” นั่นเองครับ

          ในสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่อึมครึมเช่นนี้ก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้และเหมาะสมไปกว่านี้แล้วครับ ก็อยากให้แฟนๆ ชาว “SME” ทั่วประเทศลองนำเอาแนวคิดของผมเช่นนี้ไปต่อยอด นำไปปรับประยุกต์ใช้กันดูครับ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ เพราะช้าหรือเร็วก็บรรลุเป้าหมายที่ปลายทางเหมือนกัน 


ผศ.ดร.ภัทรพล เวทยสุภรณ์

หรือที่รู้จักในชื่อ อ.เชี่ยว ชอบช่วย อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งมีประสบการณ์ในการลงทุน “อสังหาฯ ไม่บาน” (Budget Real Estate) มากกว่า 25 ปี


 

Tags: